จุดจบสายซิ่งแข่งรถในทางตอนตี 1 ศาลระยองสั่งกักขัง 1 เดือน ริบรถของกลาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาลแขวงจังหวัดระยองพิพากษาจำคุก 2 เดือน เจ้าของรถกระบะแต่งซิ่ง 2 คัน ที่แข่งรถในทาง รับสารภาพเหลือกักขัง 1 เดือน และริบรถยนต์ของกลาง หลังเพจดังแฉแข่งรถในทางตอนตี 1 แล้วตำรวจตามลากคอมาได้ เหตุเกิดที่มาบยางพร ปลวกแดง

วันนี้ (28 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ศาลแขวงจังหวัดระยองพิพากษาจำคุก 2 เดือน เจ้าของรถกระบะแต่งซิ่ง 2 คัน ที่แข่งรถในทาง จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เปลี่ยนโทษจำคุก เป็นกักขัง 1 เดือน และริบรถยนต์ของกลาง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง ตามจับกุมผู้ที่ทำการแข่งรถในทางและเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ จำนวน 2 ราย

สืบเนื่องมาจากเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อยv+” โพสต์ข้อความระบุว่า มีกลุ่มวัยรุ่นจัดแข่งรถหลังเที่ยงคืน บริเวณซอยมาบยางพร 18 (ซอยเนินสวรรค์-คลองใหญ่) ถนนทางหลวงชนบท รย.3013 หรือถนนปากร่วม-มาบยางพร ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ฉะเชิงเทรา สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้านบริเวณดังกล่าว และได้ส่งวีดีโอคลิปมาให้เพจดังกล่าวเผยแพร่

ต่อมา ตำรวจ สภ.ปลวกแดงตรวจสอบพบว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค. เวลา 01.12 น. เมื่อได้รับข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสืบสวนหาข้อมูลในพื้นที่จนทราบชื่อผู้ที่ทำการแข่งรถในทางและเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ ก่อนติดตามเชิญตัวผู้กระทำความผิด และตรวจยึดรถยนต์ ทั้ง 2 คัน นำส่งพนักงานสอบสวน

โดยพนักงานสอบสวน สภ.ปลวกแดง แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ชั้นจับกุมและชั้นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยรถยนต์ของกลาง ส่งอัยการฟ้องคดีต่อศาลแขวงจังหวัดระยอง

ด้านตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ระบุว่า ปฏิบัติตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดกวดขันจับกุมเกี่ยวกับการกระทำความผิดการแข่งรถในทาง กวดขับจับกุมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงสภาพ ท่อเสียงดัง และได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านซ่อมรถ อู่ซ่อมรถ มิให้เป็นแหล่งมั่วสุม หรือทำการดัดแปลงสภาพรถให้กับกลุ่มวัยรุ่น รวมทั้งมิให้ดำเนินการในทางที่ผิดกฎหมาย  ​

หากประชาชนพบเห็นหรือทราบเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 038 611 200 หรือ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่