Motor Sport Sponsored

จีนคุมโควิดอยู่หมัด ชาวอู่ฮั่นเริ่มต้นชีวิตวิถีใหม่

Motor Sport Sponsored
Motor Sport Sponsored

ท่ามกลางการแพ่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ทั่วโลก หนึ่งในประเทศที่สามารถคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วคือ ประเทศจีน ผ่านไปแล้วหนึ่งปีกว่าหลังจากที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่คาดว่ามีความเชื่อมโยงกับตลาดขายอาหารสดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย จนนำไปสู่การแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ก่อนที่โรคโควิด-19 จะระบาดไปทั่วโลก จนส่งผลให้มีผู้ป่วยมากกว่าร้อยล้านราย โดยเว็บไซต์ เวิร์ดโอมีเตอร์ส รายงานว่าในวันที่ 27 เม.ย 64 มีผู้ป่วยสะสมถึง 147,878,927 ราย และเสียชีวิต 3,124,698 ศพ ด้านสหรัฐอเมริกาชี้ว่ายอดผู้เสียชีวิตในประเทศนั้นมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่สอง, สงครามเวียดนาม และสงครามเกาหลี รวมกัน ขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย ก็ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ จนมีผู้เสียชีวิตเกลื่อนโรงพยาบาล


เมื่อย้อนกลับมาดูประเทศจีน ที่พบการแพร่ระบาดเป็นที่แรกและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศได้อย่างทันท่วงทีหลังเกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศ โดยมีการประกาศล็อกดาวน์ที่เข้มงวด ระงับการเข้าออกพื้นที่เสี่ยง ขณะที่เมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งก็มีการประกาศล็อกดาวน์ด้วยเช่นกัน ผ่านมาแล้วหนึ่งปีกว่า เศรษฐกิจของจีนเริ่มฟื้นตัว ประชาชนเริ่มปรับตัวกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ขณะเดียวกันยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลการแพร่ระบาดจากจีนนั้นมีความจริงเท็จแค่ไหน ส่วน ฮิวแมนไรท์วอทช์ ชี้ว่า ความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนนั้นเกิดขึ้นควบคู่กับการละเมิดสิทธิมนุษยชน

จีนเอาจริง จนท.การ์ดไม่ตก พร้อมควบคุมการแพร่ระบาด

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 จีนได้ประกาศล็อกดาวน์ ระงับการเข้าออกพื้นที่เสี่ยงเป็นที่แรกของโลก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกมองว่าเป็นมาตรการที่เข้มงวด ในช่วงเวลาดังกล่าวประชาชนในอู่ฮั่นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะกิจ เพื่อใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ ซึ่งภายหลังการประกาศล็อกดาวน์ที่ทันท่วงที ได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศได้

ในช่วงแรกภาพของเมืองอู่ฮั่นในช่วงล็อกดาวน์อาจไม่คุ้นตาชาวโลกมากนัก แต่เมื่อโรควิด-19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก ประเทศต่างๆ ได้ใช้วิธีที่คล้ายคลึงกันในการระงับการแพร่ระบาด ขณะที่ความเข้มงวดของมาตรการดังกล่าวแตกต่างกันไป การล็อกดาวน์ของจีนนั้นได้แสดผลลัพธ์ในอีกหนึ่งปีต่อมาเมื่อยอดผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง


ถึงแม้ว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่เจ้าหน้าที่ของจีนก็ไม่การ์ดตกแต่อย่างใด เพราะเมื่อพบผู้ป่วยโควิด-19 ในชุมชน ทางการก็ได้ข้าควบคุมการแพร่ระบาดและตรวจโรคแบบปูพรมในทันที พร้อมกับบังคับใช้มาตรการควบคุมการเดินทาง นอกจากนี้ยังเร่งฉีดวัคซีนต้านโรควิด-19 ในพื้นที่อย่างเร่งด่วน

หนึ่งในนั้นคือการพบการแพร่ระบาดของโรควิด-19 ในเมืองรุ่ยลี่ มณฑลยูนนาน ของจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา โดยทางการจีนได้เดินหน้าตรวจโรคประชาชนทั่วทั้งเมืองราวสองแสนคน และปิดสะพานเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันได้มีการลงดาบเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระดับสูงในโทษฐานละเลยต่อหน้าที่ขั้นร้ายแรง ที่ปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาด

ด้าน นายจง นานซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ มองว่าถึงแม้ประเทศในเอเชียจะเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนัก แต่มีความเป็นไปได้น้อยที่จีนจะกลับมาเผชิญกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่เหมือนอย่างที่ผ่านมา เนื่องจากจีนได้รับบทเรียนจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่มาแล้ว ทำให้มีการเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที เมื่อพบกับผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่

อู่ฮั่นเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัว

ด้านสำนักข่าว โกลเบิล ไทมส์ ของจีน รายงานว่า หลังจากวันที่ 8 เมษายน 63 อู่ฮั่นได้ยุติการล็อกดาวน์ที่กินระยะเวลา 76 วัน ทำให้ชาวเมือง 11 ล้านคนค่อยๆ เดินหน้าเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ รถยนต์ที่กลับมาติดอีกครั้ง ผู้คนได้เริ่มกลับมาเดินบนท้องถนน ตามมาด้วยเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ขณะเดียวกันยังมีนักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองอู่ฮั่น สร้างงานให้แก่ประชาชนท้องถิ่น เปรียบเสมือนรอยแผลเป็นจากวิกฤติโควิด-19 ค่อยๆ ได้รับการรักษา แต่สิ่งที่ชาวเมืองไม่เคยลืมคือทีมแพทย์จากมณฑลต่างๆ ของจีนที่ระดมกำลังเดินทางเข้ามารักษาผู้ป่วยในมณฑลหูเป่ย หนึ่งในชาวเมืองอู่ฮั่น ระบุว่า หลังการแพร่ระบาด ชาวเมืองได้ช่วยเหลือกันและกันมากขึ้น และให้ความสำคัญกับครอบครัวของตน


ส่วนเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสแรกของปี ได้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยตัวเลข จีดีพี ของจีน ปรับตัวขึ้น 18.3 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลจากยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่โรงงานต่างๆ ในจีนได้เดินหน้าผลิตสินค้าอีกครั้ง ขณะที่การบริโภคในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัว

ความสำเร็จในการคุมโควิดและการละเมิดสิทธิมนุษยชน 

ส่วน ฮิวแมนไรท์วอทช์ ชี้ว่า ความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนนั้นเกิดขึ้นควบคู่กับการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยทางการจีนได้จำกัดการแสดงออกของประชาชน และการเซนเซอร์ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในแง่ลบ พร้อมทั้งมีรายงานว่านักข่าวบางส่วนที่รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ถูกทางการจับกุม


บุคคลที่ถูกระงับการแสดงออกคือ นายแพทย์หลี่ เหวินเหลียง นายแพทย์ผู้ที่พยายามจะบอกให้ผู้คนรู้ว่าได้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่กลับถูกสั่งให้ห้ามเปิดเผยข้อมูลของไวรัส จนท้ายที่สุดก็พบการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ซ้ำร้ายนายแพทย์หลี่ ก็ต้องเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 หลังติดโรคจากคนไข้ ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลการแพร่ระบาดในประเทศนั้นสามารถเชื่อถือได้หรือไม่

ขณะเดียวกัน นานาชาติยังคงมีความพยายามตามหาต้นตอของโรคโควิด-19 โดยองค์การอนามัยโลกได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เมืองอู่ฮั่น เพื่อตรวจสอบห้องแล็บของจีน ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงคลุมเครือในสายตาชาวโลก.

ผู้เขียน: นัฐชา

ที่มา: Globaltimes, BBC, Reuters, HRW

Motor Sport Sponsored
แข่งรถ รถแข่ง

การแข่งรถ (หรือเรียกว่าแข่งรถยนต์ หรือ รถแข่ง) เป็นมอเตอร์สปอร์ตที่เกี่ยวข้องกับการแข่งโดยใช้รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ รถจักรยาน สำหรับการแข่งขัน

This website uses cookies.