คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2565

คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2565

** นายอนุทิน ชาญชีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. สาธารณสุข ในนามของรัฐบาลจะประกาศให้โรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นครั้งแรก คาดปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เหตุผลที่ว่า มีผู้ป่วยลดลง……..ขอไทยร่วมมือสกัดโควิด เร่งหามาตรการก่อนเปิดผับบาร์ แต่ “ไมโครโฟน ว่ายังไงก็ตามแต่เวลาออกนอกบ้านไปให้สวมใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน พกเจลล้างมือไปด้วยเวลาสัมผัสสิ่งของทุกครั้ง หลักเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้คนโดยเฉพาะผู้คนที่มักง่าย ถ้าหากมาอยู่ใกล้ๆ ให้ตะโกนว่า อย่าอยู่ใกล้คนมักง่าย เป็นการดีที่สุด

** ในช่วงนี้เราต้องส่งกำลังใจไปเชียร์นักกีฬาของชาติไทยที่แข่งซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ณ ประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะประเทศเวียดนามได้ประกาศโรคโควิด19 เชื้อไวรัสโอไมครอนเป็นโรคประจำท้องถิ่น ส่วนใหญ่ไม่มีการสวมใสหน้ากากอนามัย ให้นักกีฬาของไทยห่างๆ กันเข้าไว้เวลาเข้าแข่งกับเวียดนามให้สวมใส่หน้ากากอนามัยเข้าไว้ พอมีช่วงว่างเมื่อไหร่ก็รีบสวมใส่หน้ากากเอาไว้ทันที เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโอไมครอนที่กำลังระบาดไปทั่วโลกระบาดขณะนี้

** ในขณะนี้นักเรียนโรงเรียนต่างๆ ได้เปิดเรียนออนไซ์ค์ ร้อยเปอร์เช็นต์แล้ว ก็ขอให้บรรดาครูของนักเรียนสอดส่องดูแลเพื่อไม่ให้โรคโควิด-19 ระบาดเป็นคลัสเตอร์ในโรงเรียนอีก

** นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนรี และ รมว. กระทรวงพาณิชย์ ในนามของรัฐบาลก็ฝากให้แก้ของแพง ไม่ว่าจะเป็นของอุปโภคบริโภค ซึ่งประชาชนอยากที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้แก้ไขปัญหาของแพงหลายเรื่อง อย่างกับหมูแพง เวลาขึ้นสูงแล้วไม่ยอมลดเลย รวมถึงของคู่ครัว เช่น ไข่ไก่ นับวันจะแพงขึ้นทุกวัน ฉะนั้นแล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ต้องใช้ฝีมือของตนเองเจรจากับบรรดาพ่อค้าใหญ่ให้ลดราคาลงมาให้ได้

** จากเพจดังเฟซบุ๊ก “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” ได้มีการโพสต์ภาพคณะ “ครู” ซึ่งเดินทางมาดูงานที่ จ.นครปฐม จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีภาพขณะปาร์ตี้ดื่มเครื่องดื่มน้ำหมักเปลี่ยนนิสัยกันริมทะเล ภาพแต่งตัวมาเที่ยวกันแบบเป็นเซต โดยแอดมินระบุว่า “อุทิศตนดูงานทะเลอย่างหนัก” คงเห็นว่าชิลมากเว่อร์เยอะไปเกินหน่อย ตามในภาพจะเห็นว่ามีเหล่า “ครู” ได้ไปศึกษาดูงาน แต่บรรยากาศดูเหมือนไปเที่ยวมากกว่า ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ทั้งแง่บวกแง่ลบ หนักไปทางลบ อีกฝั่งก็บอกว่าระหว่างทางดูงานไม่ผิดหากคณะครูจะแวะซื้อของ หรือถ่ายรูป รวมไปถึงชาวเน็ตบางคนบอกว่าหากเป็นหลังเวลาราชการ 16.30 หรือเสาร์ -​ อาทิตย์ นอกตารางอบรม ต้องเห็นใจเขานะ คนไม่ใช่เครื่องจักรค่ะ ทั้งนี้ต้องให้ทางโรงเรียนออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกันอีกครั้ง “ครูผู้อุทิศตนเพื่อการสอน” ที่กิจกรรมว้าว ๆ 4 วัน 5 คืน ทั้งไหว้พระหลวงพ่อทวด วัดห้วยมงคล เดินเล่นตลาดน้ำดอนหวาย ฟรีสไตล์ถ่าย Tiktok รูปริมชายหาด ปาร์ตี้ชิล ๆ ริมทะเล ดูงานอย่างหนักนี้ เป็นของคณะครู รร. แห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร เหมารถทัวร์พากันไปเยือนนครปฐม-ชะอำ-หัวหิน เมื่อวันที่ 2-5 พฤษภาคม 2565 ดูงานหรือแอบแฝงท่องเที่ยว ? เรื่องทำนองนี้ เคยเกิดขึ้นหนักก่อนยุค คสช. และโดน”หมาเฝ้าบ้าน” แชร์แฉฉาวอยู่ระยะหนึ่ง สตง. ยุคนั้นลุยทักท้วงจนเลิกลาหายหลายปี หรือนี่กำลังจะกลับมาฮิตใหม่ แล้ว สตง. จะว่าไง ว่าไง จะตรวจสอบประเมินผลความคุ้มค่าการใช้จ่ายแผ่นดิน ป้องปรามกันไว้หน่อยดีมั้ย…ช่วยกัน ! ช่วยกัน !

**กระท่อมเฮไปแล้วยกใหญ่ ไช ไช ไช โย โย โย ! แต่กัญชาเพิ่งกำลังจะเฮตามหลัง ก่อนหน้านี้ นานอยู่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมต. ว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ปลดล็อกใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ชาวบ้านกินใบดื่มน้ำใบกระท่อมจนสุขสำราญ มีเรี่ยวแรงแข็งขยันการงาน ปลูกต้นขายต้นขายใบ มีเงินใช้ฟื้นฐานะดีวันดีคืน เป็นที่กล่าวขวัญถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่นี้ โดยเฉพาะพวกที่ติดอยู่เรือนจำโทษฐาน มีใบกระท่อมในครอบครอง ต้ม เสพ ค้าใบกระท่อม ก็ได้ออกจากคุกพ้นโทษด้วย เรียกว่ายิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่กัญชาเสี่ยหนูกระทรวงสาธารณสุข กำลังจะปลดล็อกกัญชาในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ จริงหรือนั่น จะเฮไชโยได้แน่หรือยัง ว่ากันว่าจะต้องไปออกกฎหมายลูกประกาศหลานเหลนอีกหรือ อย่านานนัก ให้แน่จริงเถอะหนา จะสาธุ ไม่ใช่ชาวบ้านปลูกแล้วโดนจับอย่างที่เป็นข่าวเร็วๆ นี้นะ อย่างนี้…ไม่เอาดีกว่า…ถอยดีกว่า ?

**อีกแล้วครับท่าน ดังอีกแล้ว ความวัวยังไม่ทันหาย เรื่องเสาไฟกินนะดีกินรีฝูงใหญ่ทั้งที่ทำไปแล้วอย่างมโหฬารเยอะเย้ยฟ้าท้าเขาพระสุเมรุ จนสุดท้ายนายอำเภอต้องสั่งเบรคระงับซื้อล็อตใหญ่ ความควายตัวใหญ่ก็มาแทรกแซงหน้าให้ถึงต้องหยุดทำหน้าที่นาย ก แห่งราชาเทวะ ด้วย ปปช. ชี้มูลรถดับเพลิงราคาสูงลิ่วแพงหูฉี่จอดทิ้งเน่าเสียไร้ประโยชน์ด้อยค่าอยู่ที่หน้า อบต. มาล่าสุดสุดแสบฉาวอีกแล้วพี่น้องคอข่าวคอลัมน์หมายเลข 7 ไปติดตามจากทีมงานคุณสมโภชน์ โตรักษา ไปตรวจสอบโครงการจัดทำซุ้มสะพานลอยเฉลิมพระเกียรติ พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้า ของ อบต.ราชาเทวะ กะใช้งบประมาณกว่า 35 ล้านบาท แต่กลับใช้งานไม่ได้ ไม่ได้ติดตั้งเป็นเพราะอะไร 35.3 ล้านบาท คือวงเงินงบประมาณ ที่ อบต.ราชาเทวะ จะใช้ในโครงการก่อสร้างซุ้มสะพานลอยเฉลิมพระเกียรติ พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้า จำนวน 11 จุด ตลอดถนนกิ่งแก้ว เกิดขึ้นในยุคของ นายทรงชัย นกขมิ้น ซึ่งขณะนี้ถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายก อบต.ราชาเทวะ ไปแล้ว จากปมถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ทุจริตต่อหน้าที่ ในการจัดซื้อรถดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าบันได มูลค่ากว่า 33 ล้านบาท และในขณะนี้ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. อาทิ การจัดซื้อกล้องซีซีทีวี และเสาไฟฟ้ากินรี คอลัมน์หมายเลข 7 ตรวจสอบโครงการซุ้มสะพานลอยเฉลิมพระเกียรติ พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้า ซึ่งก่อสร้างแล้วแต่กลับใช้งานไม่ได้ พบว่าเป็นการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 วงเงิน 35.3 ล้านบาท โดยเมื่อครั้งที่มีการพิจารณาเรื่องนี้ในสภา อบต.ราชาเทวะ ซึ่งมีทั้งหมด 23 คน มีผู้เห็นชอบ 18 คน ไม่เห็นชอบกับเรื่องนี้ 4 คน และงดออกเสียง 1 คน เป็นคนดีมีวิสัยที่ไม่เห็นด้วย ก็เพราะเป็นโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์ แต่ก็ไม่สามารถทัดทานเสียงข้างมากได้ พวกมาลากกันไปสาเหตุที่ทำให้สิ่งก่อสร้างซุ้มสะพานลอยฯ มากมาย ถูกทิ้งเกลื่อนไม่ได้ใช้งาน เป็นเพราะสะพานซึ่งเป็นสถานที่ติดตั้ง อยู่ในความรับผิดชอบของแขวงการทางสมุทรปราการ แต่ อบต.ราชาเทวะ กลับดำเนินการก่อสร้าง โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน คสช. ให้กลับมาใหญ่สุดท้ายได้แค่สร้างแต่ติดตั้งไม่ได้ แถมโครงที่วางไว้ยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นี่สิสำคัญ หากตกลงมาบนท้องถนน คนเคราะห์ร้ายคงหนีไม่พ้นประชาชนผู้สัญจร จากการลงพื้นที่สอบถามประชาชน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ เพราะมองว่าสิ้นเปลือง และเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า เพราะยังมีอีกหลายด้านที่ อบต.ราชาเทวะ รอการพัฒนาอยู่ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน นี่ไม่รู้กี่โครงการของ อบต.ราชาเทวะ ที่จบลงแบบใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า และส่อว่าจะมีการทุจริต สาเหตุที่ทำให้มีการใช้เงินกันมือเติบ เป็นเพราะ อบต.ราชาเทวะ มีรายได้สูงเป็นอันดับสองของ อบต.ทั่วประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2565 มีรายได้ที่จัดเก็บเองกว่า 28 ล้านบาท รายได้ที่รัฐบาลจัดเก็บให้มา”ตามคำสัญญา”อีกกว่า 369 ล้านบาท ! รวม 397 ล้านบาท และยังมีเงินอุดหนุนที่รัฐจัดให้มาตาม”คำมั่นแลัสัญญา”อีก 60 ล้านบาท พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง รวมงบประมาณปี 2565 กว่า 457 ล้านบาท แต่เงินเหล่านี้ไม่ใช่ของผู้บริหาร อบต.ราชาเทวะนะท่านนาย ก เป็นเงินของแผ่นดิน ที่ต้องใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน เข้าใจบ้างมั้ยเข้าใจบ้าง ฝาก ถปปช. ช่วยสงเคราะห์หน่อย ช่วยเร่งชี้มูลมาเร็วๆ หน่อย มากเรื่องเรื่องมากเหลือเกิน ชาวบ้านรอดูอยู่ นี่ใช่ว่าแต่ อบต. ราชาเทวะ อย่างนี้ยังมีอีกหลายท้องถิ่น ระเริงละแลงงบประมาณ ของถูกซื้อแพง ของแพงคุณภาพชุ่ย ของชุ่ยใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ก็ไม่ได้ใช้ คิดถึง สตง. จัง เอาเป็นว่าฝากคอลัมน์หมายเลข 7 ไปตามติดกลโกงลากไส้ออกมาให้ดูกัน !

**ไม่รู้ไม่ได้แล้ว รู้แล้วต้องปฏิบัติ กฎหมายบังคับใช้เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต เด็กอายุต่ำ 6 ขวบ ต้องนั่งคาร์ซีท และเด็กสูงไม่เกิน 135 ซม. ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามอุ้มนั่งเด็ดขาด ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2 พันบาท มีผลบังคับใช้ 5 ก.ย.นี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 บัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ในขณะขับรถยนต์ ผู้ที่อยู่ในรถยนต์ต้องปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) ผู้ขับขี่ ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะขับรถยนต์ (2) คนโดยสาร (ก) คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย ไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์ (ข)*คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ (ค)*คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วย เข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด (ข้อยกเว้น)ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือคนโดยสารมีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย ไว้กับที่นั่งได้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง แต่บุคคลนั้นต้องมีวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

** ปืนเถื่อนซึ่งมีเกือบทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นอาวุธสงครามก็ตามแต่ เมื่อไหร่ปัญหาเหล่านี้จะหมดสิ้นไป คงจะต้องฝากให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์  หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ไปลุยเพื่อแก้ปัญหาปืนเถือน อาวุธสงครามให้น้อยลงก็ยังดี  

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ‘บิ๊กป้อม’ สั่งระดมทุกหน่วย แก้ปัญหายาเสพติด เร่งฟื้นฟูทั้งระบบ ย้ำ ‘ผู้ติดยา คือ ผู้ป่วย’ ร่วมมือ ‘คืนคนดี สู่สังคม’ ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขที่เป็นศูนย์คัดกรองติดต่อภาคีเครือข่ายภาคเอกชน จัดบริการรถรับ-ส่งผู้ขอเข้าบำบัดยาเสพติด และสั่งเข้มให้ทุกหน่วยงานช่วยกันปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สิ้นซากตามนโยบายที่ได้กล่าวไว้ ต้องขอชมเชย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ใส่ใจเรื่องปัญหายาเสพติด เพื่อให้ลูกหลานหลุดพ้นเรื่องยาเสพติดอย่างจริงจัง สื่อมวลชลและประชาชนชื่นชมอย่างยิ่ง

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ที่แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ก็ยังดูแลทุกข์สุข เพื่อนพ้อง พี่น้อง เป็นตำรวจที่จริงใจ และจริงจังอย่างมาก ถือเป็นตำรวจตัวอย่างที่น่าเคารพอย่างยิ่ง   ….ลิป ออนนิวส์

** ใกล้โค้งสุดท้ายเข้ามาแล้ว ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่ละคนก็ลงพื้นที่ตามหัวเมืองต่างๆ บางคนก็เล่นเจาะเอาตัวเมืองชั้นใน พูดถึง พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครหมายเลข 6 ลงพื้นที่ไปที่ไหนก็มีคนต้อนรับอย่างดี ทั้งยังมีคนบอกให้สานต่อเรื่องปัญหาน้ำท่วมซึ่งได้ทำไว้ก่อนหน้านั้น ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วก็คงจะมีหวังในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. อีกสมัยหรือเปล่า

** ส่วนนาย พงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ กลุ่มรักษ์กรุงเทพ หมายเลข 4 ส.ก. เขตยานนาวา ก็ขยันลงพื้นที่พร้อมทั้งแนะนำตัวให้ชาวบ้านโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเรียกว่าตั้งแต่เช้าจรดเย็นทำให้ชาวบ้านในเขตยานนาวา ต่างก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีว่า ก็ขอให้ได้เป็น ส.ก. ในเขตยานนาวานี้ด้วยน่ะ

** พื้นที่ในจังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้ร้องเรียนมาว่า เต็มไปด้วยยาเสพติดแทบทุกชนิดระบาดไปทั่วก่อให้เกิดพวกขี้ยาที่กลายเป็นโจรผู้ร้ายขึ้นมาทันที แล้วยังมีบรรดาอันธพาล ฝาก พ.ต.อ. ธัชชัย ทิพเนตร ผกก. สภ. สุพรรณบุรี มีคำสั่งไปยังทุก สภ. ของ สุพรรณบุรี ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พร้อมทั้งจับกุมแก๊งยาเสพติดทุกแก๊งให้ราบคาบ พร้อมทั้งพวกขี้ยาที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด และอันธพาลที่คอยรังแกชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ด้วย 

** ปราจีนบุรี พื้นที่นี้ก็เหมือนกันยาเสพติดระบาดไปทั่ว จนทำให้พวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายขึ้นมาทันที คงจะต้องฝากให้ พ.ต.อ. กสินธุ์ ธำรงศรีสุข ผกก. สภ. ปราจีน มีคำสั่งเป็นลายลักอักษรณ์ไปยังทุก สภ. ของ ปราจีนบุรี ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่าเป็นจริงอย่างที่ชาวบ้านร้องเรียนมาหรือเปล่า ถ้าหากเป็นความจริงแล้วก็คงจะต้องลงพื้นที่ไปกวาดล้างแก๊งยาเสพติดทุกแก๊งโดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น และพวกขี้ยาที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอดให้ราบคาบไปเลย

** เช่นเดียวกันกับพื้นที่ สน. ดอนเมือง ยาเสพติดทุกชนิดระบาดไปทั่วทุกซอกซอยอย่างกับซื้อขายขนมอย่างนั้น แก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊งสั่งให้ลูกน้องเดินขายยาเสพติดกันอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ฉะนั้นแล้วคงต้องฝากให้ พ.ต.อ. รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก. สน. ดอนเมือง ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาให้จับกุมแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊งให้ถอนรากถอนโคนไปเลยก็จะดี เพราะพวกขี้ยาในพื้นที่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด ไม่ว่าจะงัดแงะฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ของชาวบ้านให้ราบคาบไปเลยก็จะดี

** พื้นที่ สน. บางโพ ก็มีผู้ร้องเรียนมาว่า เต็มไปยาบ้าระบาดแทบทุกชนิด ทำให้ก่อเกิดพวกขี้ยากลายเป็นโจรร้าย แถมซ้ำเวลาไม่มีเงินซื้อยาบ้ามาเสพ มันก็จะเที่ยวจี้ปล้นเขา คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผกก. สน. บางโพ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อตรวจสอบว่าเป็นจริงอย่างที่ชาวบ้านร้องเรียนมาหรือเปล่า หากว่าเป็นจริงแล้วอย่าไปเห็นแก่หน้าอินหน้าพรมทั้งสิ้น แก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊งปราบให้ราบคาบไปเลย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด

** ย่านถนนเชื้อเพลิง ถนนพระราม 3 มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มียาบ้าระบาดอย่างหนัก จนทำให้พวกขี้ยาเวลาไม่มีเงินซื้อมาเสพก็เที่ยวจี้ปล้นชาวบ้านเขามาตลอด คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก. สน. ทุ่งมหาเมฆ รีบลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อที่จะปราบปรามอย่างจริงจังกับแก๊งยาเสพติดทุกแก๊ง และบรรดาพวกขี้ยาที่กลายเป็นโจรผู้ร้ายสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านไม่รู้จักจบสิ้นสักที

** มีผู้ใช้รถใช้ถนนร้องเรียนมาว่า การจราจรตั้งแต่ถนนพระราม1 ยันไปถึงสยามสแควร์ว่ารถติดหนึบชนิดที่เรียกขยับเขยื้อนไม่ได้เลย คงต้องฝากให้ รองผู้กำกับจราจร ช่วยลงไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้ง สว.จร. สน. ปทุมวัน เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรให้ได้จะได้บรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้คล่องตัวขึ้น

** ผู้นำในโลกนี้ถ้าบริหารงานไม่ดี ก็จะได้รับการต่อต้านจากประชาชน

** โลหิตยังขาดแคลนเป็นจำนวนมาก โปรดบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ได้กุศลแรง

ไมโครโฟน