บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 และ ส.ส.สงขลา เขต 6 ไล่บี้กันจนวัน สุดท้าย ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ว่าเป็นเดิมพันครั้งใหญ่ของประชาธิปัตย์ พร้อมเสนอให้พรรคถอนตัวจากรัฐบาล กลับไปสู่จุดยืนความเป็นประชาธิปไตย
“จุรินทร์” ลั่นบอกแล้วได้ไม่คุ้มเสีย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ม.ค. ที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขารัตนาธิเบศร์ (แคราย) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.แข่งขันกันเอง ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลว่า เคยเตือนไปแล้ว โดยหลักถ้าพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเสียที่นั่ง ไม่ควรส่งคนลงแข่ง เพราะสุดท้ายกลายเป็นการแข่งกันเอง ไม่เกิดผลดีกับรัฐบาล นอกจากเกิดความหมางใจกัน รัฐบาลไม่ได้อะไรเพราะได้ที่นั่งเท่าเดิม ได้ไม่คุ้มเสีย พูดไปหมดแล้ว ไม่ไปตำหนิใคร เมื่อเขาตัดสินใจแล้วก็สุดแล้วแต่ ไปห้ามเขาก็ไม่ได้ แต่ตอนตั้งรัฐบาลใหม่ๆ เคยพูดคุยกันแล้วว่าหากพรรคร่วมเสียที่นั่ง จะไม่ส่งลงไปแข่งกันเอง สุดท้ายข้อตกลงนี้ก็ถูกละเมิดไป
สุดท้ายไม่วายกระทบกระทั่ง
เมื่อถามว่า เหตุกระทบกระทั่งกันในการเลือกตั้ง อาจเป็นเงื่อนไขไปสู่อุบัติเหตุการเมืองเร็วขึ้นหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ตอบไม่ได้ เราไม่สามารถคาดการณ์อะไรล่วงหน้าได้ คาดการณ์ได้อยู่แล้วว่าถ้าลงไปแข่งกันเอง สุดท้ายมันก็ต้องกระทบ กระทั่งกันบ้าง เมื่อถามย้ำถึงการยกผลงานโครงการคนละครึ่ง ขึ้นมาเคลมในเวทีหาเสียงของบางพรรค นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่อยากไปถกเถียงอะไรมาก มันอยู่ในป้ายหาเสียงคนก็เห็นกันหมด แต่ข้อเท็จจริงคือ เป็นนโยบายของรัฐบาลผสมชุดนี้ ที่ร่วมกันทำในช่วงโควิด
“พนิต” ชี้เดิมพันใหญ่ยุถอนตัว
นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า การเลือกตั้งซ่อมในภาคใต้ 2 เขต เป็นเดิมพันครั้งใหญ่ของประชาธิปัตย์ เชื่อว่าเรามีโอกาสชนะสูง แต่ถ้าผลออกมาตรงกันข้าม ก็แทบนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ผลลัพธ์นี้ส่งผลกับพรรคแน่นอน โดยเฉพาะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ในฐานะสมาชิกพรรค ถ้าหากเป็นผู้บริหารพรรค อาจต้องถามตัวเองว่าเราทำผิดพลาดอะไรไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เลยทำให้ประชาชนในพื้นที่พิพากษาไม่ให้เราชนะ มีข้อเสนอแนะว่าเราต้องถอนตัว เพื่อกลับสู่พื้นฐานของเราในความเป็นประชาธิปไตย ให้ความสำคัญในผลประโยชน์ประชาชนเป็นอันดับแรก หวังว่าพรรคจะมีแนวทางแก้ไขเพื่ออนาคตของพวกเรา
“บิ๊กป้อม” ไร้หมัดเด็ดโค้งสุดท้าย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ไม่มีหมัดเด็ดอะไรในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ที่ชุมพร และสงขลา เมื่อถามย้ำว่าไม่มีหมัดเด็ดเลยจริงหรือ พล.อ.ประวิตร ตอบตัดบทว่า “ไม่มี” เมื่อถามว่าแสดงว่ามั่นใจว่าจะชนะใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า “ไม่รู้” เมื่อถามอีกว่าเป็นหัวหน้าพรรคจะไม่รู้ได้อย่างไร พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว และขึ้นรถยนต์ออกจากทำเนียบฯไปทันที
ปธ.กกต.ลงชุมพรดูความพร้อม
ที่ จ.ชุมพร นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 8 หน่วย หน่วยละ 9 คน รวม 72 คน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 มี น.ส.จันทิมา พันธมนต์ รอง ผอ.สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดชุมพร รักษาการ ผอ.สนง.กกต. จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ นายอิทธิพรให้สัมภาษณ์ยืนยันความพร้อมการจัดเลือกตั้งซ่อมว่า มีการประสานขอความร่วมมือ ผบ.ตร. ช่วยดูแลความปลอดภัย และในพื้นที่มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยจากกระทรวงมหาดไทยมาดูแลทุกหน่วยเลือกตั้ง ในส่วน กกต. มีการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง มีชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดหาข่าว เรื่องนี้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทุกฝ่ายแล้ว
ป้องปรามไม่ให้กระทำผิด
นายอิทธิพรกล่าวว่า เชื่อว่าจะมีการป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิดในเขตเลือกตั้งได้ ส่วนมาตรการป้องกันโควิด เราใช้รูปแบบและมาตรการจัดหน่วย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ไม่พบการแพร่ระบาดและติดเชื้อในหน่วยเลือกตั้ง ส่วนเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พบว่ามีเรื่องร้องเรียน 2 เรื่องในการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สงขลา ส่วนที่ จ.ชุมพร ยังไม่มีเรื่องร้องเรียน คาดว่าทั้ง 2 แห่ง จะมีผู้มาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ขอให้ประชาชนสละเวลามาใช้สิทธิ และขอให้ผู้สมัครตระหนักถึงหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย
“กล้า” ร้องกลับ “สรัลรัศมิ์” ใส่ร้าย
ด้านนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครเลือกตั้ง ซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 จตุจักร-หลักสี่ พรรคกล้า กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงตลาดย่านหลักสี่ว่า มอบหมายให้นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคกล้า เป็นผู้แทนยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ผอ.กกต.กทม. ให้ตรวจสอบการกระทำของนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ ว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) กรณี ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนน นิยมหรือไม่ นายณัฐนันท์กล่าวว่า มีการพาดพิงนายอรรถวิชช์ กล่าวหาว่าดูถูกเพศแม่ มีพฤติกรรมที่ดูถูกผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งไม่เป็นความจริง จึงต้องมายื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบ หากพบว่ามีการกระทำความผิด อาจนำมาสู่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือการดำเนินคดีอาญาต่อไป
“เจ๊หลี” อ้อมแอ้มพูดเรื่องจริง
นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 พรรค พปชร.กล่าวว่า ขอดูก่อนว่านายอรรถวิชช์ร้องกลับเรื่องอะไร แต่ที่เราไปยื่นเรื่องกับ กกต.เป็นเรื่องจริงทั้งหมด เมื่อถามว่านายอรรถวิชช์ทวงคำขอโทษ จะนัดเคลียร์ใจกันหรือไม่ นางสรัลรัศมิ์ตอบว่า นายอรรถวิชช์ควรขอโทษตนมากกว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่ออะไรกัน ไม่หนักใจที่ช่วงนี้พรรคตกเป็นเป้าโจมตีหลายเรื่อง โดยเฉพาะข้อวิพากษ์วิจารณ์คำปราศรัยร้อนแรงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ จ.สงขลา
“บิ๊กป้อม” ยกทัพใหญ่ลุยสงขลา
สำหรับบรรยากาศการหาเสียงที่ จ.สงขลา เวลา 18.00 น. ที่โรงเรียนสะเดาขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทีมแกนนำพรรค พปชร. อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กรรมการบริหารพรรค และ ผอ.เลือกตั้ง ส.ส.สงขลา เขต 6 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รองหัวหน้าพรรคนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กรรมการบริหารพรรค ส.ส.สงขลา และ ส.ส.กว่า 20 คน ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงช่วยนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา เขต 6 พรรค พปชร. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก
ก้าวไกลใช้กลยุทธ์ดาวกระจาย
ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าที่ จ.สงขลา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และนายธิวัชร์ ดำแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หาเสียงในเขตเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จ.สงขลา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นายพิธากล่าวว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายพรรคไม่มีการจัดปราศรัยใหญ่ แต่ใช้กลยุทธ์ดาวกระจาย
“จุรินทร์” นำทีมปักหลักชุมพร
ที่ลานหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร อ.เมืองชุมพร เมื่อเวลา 18.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ผอ.เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ ส.ส.พรรคขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยนายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียง โดยชูจุดแข็งความเป็นคนรุ่นใหม่ มีศักยภาพ มีความรู้ดี มีความพร้อม และตั้งใจเข้ามาทำงานการเมือง มีประสบการณ์การเมืองระดับท้องถิ่น เข้าใจปัญหาในพื้นที่เป็นอย่างดี เพราะคลุกคลีอยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด
“เสี่ยต่อ” แบ่งทีมช่วย “น้ำหอม”
ส่วนที่ จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรค นำทีมกลุ่ม ส.ส.รุ่นใหม่ ลงพื้นที่ตลาดชุมชนคลองแงะ ต.พังลา ช่วยนางสุภาพร กำเนิดผล “น้ำหอม” ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียง ต่อมาช่วงค่ำมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่โรงเรียนบ้านคลองแงะ นำทีมโดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค
กกต.ใบเหลือง “วัฒนา” ส.ส.ลำปาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักงาน กกต. เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขต 4 ใหม่ แทนนาย วัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง พรรค พปชร. ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 133 และให้ดำเนินคดีอาญากับนางเกี๋ยงมา ปุพพโก ตามมาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158 จากการสอบสวนพบว่า นางเกี๋ยงมาได้มอบธนบัตรที่เย็บติดกันจำนวน 2 ชุด ชุดละ 300 บาทให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจริง เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้กับนายวัฒนา เป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ โดยนายวัฒนาได้รับประโยชน์จากการกระทำของนางเกี๋ยงมา เป็นเหตุให้การเลือกตั้งดังกล่าว ไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ส่วนที่มีการร้องว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯขณะนั้น ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบ จูงใจให้เลือกนายวัฒนา รวม 4 ข้อกล่าวหา กกต.เห็นว่าข้อเท็จจริงยังฟัง ไม่ได้ว่า ร.อ.ธรรมนัสกระทำการตามที่กล่าวหา จึงมีมติให้ยกคำร้อง
ฝ่ายค้านยื่นซ้อมซักฟอก 21 ม.ค.
วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติวันที่ 21 ม.ค.นี้ โดยจะนัดประชุมเพื่อกำหนดประเด็นการอภิปรายในวันที่ 19 ม.ค. เบื้องต้นจะเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ทั้งวิกฤติในปัจจุบัน เช่น เรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ราคาสินค้าแพง โรคระบาด วิกฤติความศรัทธา และความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เสถียรภาพรัฐบาลที่ง่อนแง่นมาตลอด เพราะอ้างตัวว่าเป็นเสียงข้างมาก แต่แท้จริงแล้วเป็นเสียงข้างน้อย ที่เป็นเสียงข้างมากได้เพราะการรวมตัวกันเฉพาะกิจ การเลือกตั้งซ่อมเริ่มมีข้อเท็จจริงออกมาว่าอยู่ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์เป็นสัญญาณที่อาจทำให้รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้
จี้ ป.ป.ช.ฟัน “ประภัตร” ละเว้นหน้าที่
ช่วงสายที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ขอให้สอบเอาผิดนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ผิดพลาดล้มเหลว ปกปิดการแพร่ระบาดเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) นายศรีสุวรรณกล่าวว่า นายประภัตรมีหน้าที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์โดยตรง เมื่อเกิดปัญหาความผิดพลาด ล้มเหลวรัฐมนตรีต้องร่วมรับผิดชอบด้วย แต่ไม่มีความรับผิดชอบใดๆจากกรมปศุสัตว์ และรัฐมนตรีที่เพิกเฉยหรือใช้อำนาจที่กำกับดูแลดำเนินการแก้ไขตามกฎหมาย ถือว่าจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร เข้าข่ายความผิดที่ ป.ป.ช.ต้องไต่สวนเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
“สมชัย” เดินสายลบอำนาจ ส.ว.
ที่พรรคเพื่อไทย คณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี นำโดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าพบนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค ขอเสียงสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 นายสมชัยกล่าวว่าเราพยายามพบพรรคการเมืองต่างๆให้มากที่สุด เพราะอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม และขัดแย้งในบ้านเมืองไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าทำสำเร็จจะทันต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.มากที่สุดในสภาฯ สามารถใช้กลไกพรรคส่งข่าวสารถึงประชาชนได้ทั่วถึง ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกันเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หวังว่าพรรคเพื่อไทยจะอภิปรายสนับสนุน และลงมติรับทั้ง 3 วาระ
“ชลน่าน” ยันเพื่อไทยหนุนเต็มที่
นพ.ชลน่านกล่าวว่า มาตรา 272 เราไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก แต่เขาอ้างการออกเสียงประชามติของประชาชน ซึ่งเราก็ยอมรับแต่ไม่เห็นด้วยกับหลักการ เพราะเป็นการสืบทอดอำนาจจากรัฐบาล คสช.โดยเอานายกฯคนเดิมมาบริหารต่อเรายินดีอย่างยิ่งสนับสนุน พร้อมใช้กลไกพรรคเพื่อให้ประชาชนและสมาชิกพรรคร่วมเข้าชื่อเสนอแก้ไขยืนยันว่า ไม่ได้ยกเลิกมาตรา 272 แค่ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯเท่านั้น เราให้คำมั่นสนับสนุนเต็มที่ทุกมติ ทั้ง 3 วาระ และพรรคจะเข้าชื่อเสนอกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรานี้ พร้อมกับร่างของประชาชนด้วย เรื่องนี้เราไม่ท้อ เพราะเคยเสนอมาตั้งแต่ปี 63 แต่เราไม่ได้รับการเห็นชอบ ด้านนายชัยเกษมกล่าวว่า รัฐธรรมนูญเป็นผลพวงรัฐประหาร เป็นฉบับยัดเยียดให้ประชาชนต้องรับ พบปัญหาตลอดเวลา การแก้ไขมาตรการ 272 เป็นการจุดประกายมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ หากได้รับความร่วมมือจากประชาชนและ ส.ส.ในสภาฯ ก็จะนำไปสู่การแก้ไขสิ่งอื่นๆในอนาคต
ตั้ง “อนุชา” คุมทีมแก้หวยแพง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว. กลาโหม ออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 8/2565 ลงวันที่ 12 ม.ค. แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่กลุ่มต่างๆเรียกร้องให้พิจารณาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินมาตรา 11 (6) แต่งตั้งให้นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วย รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานฯ มีหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ อาทิ อัยการสูงสุด ปลัดสำนักนายกฯ ปลัดกระทรวงการคลัง
ศาลสั่งปล่อย “เบนจา” ไปเรียนต่อ
ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดฟังคำสั่งกรณีน.ส.เบนจา อะปัญ สมาชิกแนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ผู้ต้องหามาตรา 112 กรณีชุมนุมอ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2563 และอ่านแถลงการณ์หน้าตึกซิโน-ไทย เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2564 ขอปล่อยตัวชั่วคราว นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิ มนุษยชน กล่าวภายหลังศาลอ่านคำสั่งว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัว น.ส.เบนจา และปล่อยตัวชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 22 พ.ค. เพื่อให้กลับไปเรียนหนังสือต่อ มีเงื่อนไขห้ามกระทำการเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามทำกิจกรรมก่อความวุ่นวายในบ้าน เมือง ต้องอยู่ในเคหสถานตั้งแต่ 18.00-06.00 น. และห้ามออกนอกราชอาณาจักร วางเงินประกัน 1 แสนบาท โดยศาลออกหมายปล่อยตัวชั่วคราวไปที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ให้ปล่อยตัวเวลา 19.00 น.วันที่ 14 ม.ค. ทั้งนี้ น.ส.เบนจา มีหมายขังเพียง 3 คดี คือคดีของศาลอาญากรุงเทพใต้ 2 คดี และศาลอาญาที่ให้ประกันไปแล้ว 1 คดี ในคดีละเมิดอำนาจศาล จากการชุมนุมที่บันไดศาลอาญา เมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 วางเงินประกัน 5 หมื่นบาท ไม่มีเงื่อนไข