SAWAD ตั้งเป้ารายได้-พอร์ตลูกหนี้ปีนี้โต 20-30% คุม NPL ไม่เกิน 3-5% – ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  SAWAD เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ”ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น”ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 2 มี.ค.2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้

ตัวเลขผลประกอบการ SAWAD ปี 64 เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่

ในส่วนของกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 5,056.39 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 4,788.28 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5.60% โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,230.83 ล้านบาท ทั้งนี้รายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากรายได้ค่าธรรมเนียม รวมถึงรายได้จากธุรกิจใหม่นายหน้าประกันชีวิตและวินาศภัย

โดยในปี 2564 รายได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 6,855.33 ล้านบาท เทียบกับรายได้ดอกเบี้ยของปีก่อน 8,166.09 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 1/2564 บริษัทได้ขาย “บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด” ไปให้ธนาคารออมสิน ตามนโยบายร่วมทุน มีผลทำให้จำนวนพอร์ตลูกหนี้ลดลง เนื่องจากบริษัทไม่ได้นำลูกหนี้ที่อยู่ในบริษัทร่วมมารวมแสดงอยู่ในงบการเงินรวมของบริษัท

“ในส่วนรายได้ดอกเบี้ยในส่วนเงินสดทันใจที่หายไปนั้นผลตอบแทนจะกลับมาในรูปของค่าบริการที่โดยรายได้ก็จะอยู่ในส่วนของรายได้อื่นๆ อย่างไรก็ตามทีมผู้บริหารมองว่าเมื่อเศรษฐกิจกลับมาปกติจากโควิดคลี่คลาย พอร์ตสินเชื่อคาดาว่าจะเติบ 20-30% ในส่วนตรงนี้รายได้ดอกเบี้ยก็คาดว่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง”

นอกจานี้ปี 2564 รายได้อื่นๆอยู่ที่ 3,375.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.41 เทียบกับปีก่อน 2,826.94 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากธุรกิจประกันชีวิตและวินาศภัย

ตั้งเป้ารายได้-พอร์ตลูกหนี้ปี 65 เติบโต 20-30%

สำหรับกลุ่ม SAWAD มีรายได้ดอกเบี้ยและรายได้อื่นๆและเกิดจากพอร์ตลูกหนี้เป็นสำคัญ โดยเชื่อว่าพอร์ตลูกหนี้โดยรวมของกลุ่มไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสินเชื่อจำนำบ้าน,ที่ดิน,รถยนต์,รถสิบล้อ และเช่าซื้อจักรยานยนต์ใหม่ และเครื่องใช้ไฟฟ้า คาดว่าพอร์ตจะเติบโต 20-30% โดยในพอร์ตที่เติบโตหลักๆจะมาจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ บ้านและที่ดิน และเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ โดยเชื่อว่า 2 ธุรกิจนี้จะคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 80% ส่วนแนวโน้มอัตรากำไรสุทธิหลังจากจับมือกับธนาคารออมสินมีคาดว่าในปีนี้ตัวมาร์จิ้นของกลุ่มจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

สินเชื่อตัวไหนที่จะเป็นเรือธง SAWAD ในปีนี้บ้าง

โดยจุดเด่นในปีนี้จะมี 2 ธุรกิจเป็นหลักๆจะมาจากกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ บ้านและที่ดิน  และเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ใหม่ นอกจากนี้จะมีบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ SCAP ส่วนแนวโน้มส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลปีนี้คาดว่าจะกลับมาหลังสถานการณ์โควิดปลายไตรมาส2/2565 เริ่มคลี่คลาย ดังนั้นคาดว่าความต้องการใช้เงินจะเริ่มฟื้นตัว

คุม NPL ปีนี้คาดไม่เกิน 3-5%

บริษัทพยายามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์โควิดมีความรุนแรง เพราะฉะนั้นมีความมั่นใจว่าในส่วนของ NPL จะพยามให้อยู่ในระดับ 3-5% โดยคาดว่าจะเป็นทิศทางขาลงและมีคุณภาพที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์โควิดยังระบาดขณะนี้กลุ่มธุรกิจบริษัทถือเป็นกลุ่มทางเลือกให้คนมาใช้บริการเงินฉุกเฉินเพื่อให้ผ่อนคลายความต้องการใช้เงิน เพราะฉะนั้นเชื่อว่าความต้องการดังกล่าว ณ ปัจจุบันค่อนข้างมาก แต่ในการบริหารความเสี่ยงเราก็จะมีเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดตาระยะเวลาที่ต่างกัน

ส่วนความสามารถในการชำระเราให้บริการเต็มที่ในช่วงนี้ โดยเห็นได้ชัดเจนไตมาส 3-4 ปี 2564โควิดเบาบางความสามารถชำระดีขึ้น เนื่องจากคนได้กลับมาใช้ชีวิตมากขึ้น และทันทีที่โควิดเป็นโรคประจำ เชื่อว่าเศรษฐกิจก็น่าจะค่อยๆกลับมาความสามารถในการชำระหนี้จะฟื้นตัวดีขึ้น

เอส ลีสซิ่ง” สินเชื่อเช่าซื้อจักรยานใหม่ทำไมกลับมาคึกคัก

ในส่วนบริษัท เอส ลีสซิ่ง จำกัด ดำเนินธุรกิจเช่าซื้อจักรยานยนต์ใหม่ปีนี้คึกคัก โดยมองว่าโควิดระบาดเป็นส่วนหนึ่งทำให้คนใช้ระบบการเดินทางสาธารณะน้อยลง แต่ทุกคนจำเป็นต้องเดินทางและมียานพาหนะ ทำให้มอเตอร์ไซค์กลายเป็นทางเลือกแรก และด้วยกลุ่ม SAWAD มีเน็ตเวิร์ก (network) ทั่วประเทศในส่วนนี้น่าจะช่วยให้การเติบโตธุรกิจได้ และทำให้หลายๆเจ้าเห็นถึงการเติบโตในธุรกิจนี้ทำให้หลายเจ้าหันมารุกธุรกิจด้านนี้มากขึ้น ส่วนอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์มีความเสี่ยงมากโดยอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 20-30% เป็นแบบต้นลดดอกเบี้ยลด

สินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าคาดหวังกับธุรกิจนี้อย่างไรบ้าง

ในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้บริษัทตั้งเป้าพอร์ตลูกหนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยปีนี้เป็นปีแรกและเพิ่งดำเนินการได้ประมาณ 1 เดือน และได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการใช้สาขาของธนาคารออมสินไปเชื่อมโยงธุรกิจตรงนี้