ผลพวงมาจากการเปิดตัวโมเดล Prototype สองรุ่นในการแข่งขัน Suzuka 8 Hours เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้มีกระแสข่าวลือจากต่างประเทศรายงานว่า ทางค่ายยักษ์เขียวเองกำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมเปิดตัวสองผลิตภัณฑ์พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีที่ถึงนี้
ไม่ค่อนน่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะจากข้อมูลและเอกสารสิทธิบัตรที่ Kawasaki ถือครองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น จะมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนยานพาหนะด้วยพลังงานไฟฟ้า และเราเองก็ได้เห็นการลงทุนในการพัฒนาตัวรถ RV อย่างจริงจังของทางค่าย จาก EV Project ที่นำเอา Ninja 250 มาทำการปรับแต่งใหม่และใช้ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้ามาแล้ว
สอดคล้องกับการแข่งขัน Suzuka 8 Hours ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4-7 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยในงานนี้ Kawasaki ได้นำเอาสองโมเดลระบบขับเคลื่อนใหม่ มาทำการวิ่งโชว์รอบสนาม ประกอบไปด้วยมอเตอร์ไซค์เนกเกตสปอร์ต ที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับ Z250 แต่ใช้งานมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า และรถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งที่เป็นลูกผสมระหว่าง Ninja 400 และ H2 โดยใช้รหัส HEV ซึ่งจะเป็นมอเตอร์ไซค์ไฮบริดรุ่นแรกของทางค่าย
จากการโชว์ตัวในครั้งนี้ ทำให้สายข่าวในยุโรป พากันเชื่อมโยงรหัสปริศนาที่ทาง Kawasaki ได้ยื่นขอครอบครองเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยจะพบรหัส E2 EV และ E2-R EV ซึ่งเมื่อลองเอาข้อมูลมาทำการเปรียบเทียบแล้ว ก็สอคคล้องกับโมเดล Prototype ที่วิ่งโชว์ใน Suzuka ที่หนึ่งในสองโมเดลที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจะมีชื่อว่า Z E1 และเมื่อรุ่นการผลิตจริงก็น่าจะมีการปรับเปลี่ยนตัวเลขใหม่จนมาถึง E2 นั่นเอง ส่วน E2-R ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย มันจะเป็นชื่อที่ระบุถึงโมเดลพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งแบบไม่ต้องสงสัย
ข้อมูลนี้ยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อทาง BMF หรือ British Motorcyclists Federation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ช่วยเหลือด้านผลประโยชน์ของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับยุโรป ได้รายงานว่า Kawasaki เตรียมจะเปิดตัว 2 โมเดลพลังงานไฟฟ้า ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โดยทั้งสองโมเดลจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 11 kW ซึ่งจะเทียบเท่ากับ 14 แรงม้า (HP) ให้กำลังสูงสุดใกล้เคียงกับกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปขนาด 125 ซีซี ตามใบอนุญาตขับขี่แบบ A1 License และมอเตอร์ไฟฟ้านี้สามารถปรับกำลังสูงสุดได้เป็นสองเท่า ซึ่งจะเทียบเท่ากับ 30 แรงม้า (HP) และเป็นไปตามข้อกำหนดของใบอนุญาตขับขี่แบบ A2 License อีกด้วย
ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า ทั้งสองโมเดลที่ Kawasaki เตรียมจะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้ อาจจะไม่ได้มีกำลังที่เท่ากัน แต่จะมีรูปแบบและตัวเลขกำลังที่แตกต่างกัน หรืออาจจะมีมากกว่า 2 โมเดล หรืออาจจะมีตัวเลือกมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ขนาดตามที่ผู้ซื้อถือครองใบอนุญาตขับขี่อยู่ สุดท้ายเราคงต้องรอดูกันว่าเรื่องราวนี้จะเป็นจริงหรือไม่ รอกันอีกไม่นาน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com
