16 พ.ค. 2564 เวลา 3:00 น.148
ETRAN คว้าเงินระดมทุน 100 ล้านบาท ในรอบซีรีส์ A เดินหน้าออกแบบ-พัฒนาผลิตภัณฑ์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ขยายสถานีชาร์จ เตรียมรุกตลาดกลุ่มผู้ขับขี่ดีลิเวอรี หลังเทรนด์ส่งด่วนโตพุ่ง ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 ภายใน 3 ปี
นายสรณัญช์ ชูฉัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด สตาร์ทอัพผู้ออกแบบ และพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เปิดเผยว่า ในปีนี้จะเห็นได้ว่าธุรกิจขนส่งและดีลิเวอรีในทุกภูมิภาคมีการเติบโตอย่างชัดเจน ETRAN จึงมุ่งเน้นไปที่การทำตลาด ETRAN MYRA ที่ออกแบบเพื่อการขนส่งโดยเฉพาะเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ดีลิเวอรี พร้อมขยายการเติบโตไปพร้อมกับสถานีชาร์จ (Power Station) และจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Swap Station) โดยตั้งเป้าขยายจุดบริการทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล
“ETRAN ตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะขึ้นแท่นเบอร์ 1 หรือมีส่วนแบ่งตลาดมาก กว่า 50% ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยเน้นเจาะ 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ขนส่งดีลิเวอรี 2.จักรยานยนต์รับจ้าง และ 3. ภาครัฐ”
ขณะที่การระดมทุนนในรอบ ซีรีส์ A นั้น ETRAN ได้รับเงินระดมทุนจาก บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) และ Angle Investor จำนวน 100 ล้านบาท โดยจะนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายสถานีชาร์จ และจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่ ทำการตลาดเพื่อสร้างการเติบโต ในปีนี้ ETRAN เน้นการทำตลาด 2 รุ่น คือ รุ่น KRAF สำหรับทำตลาดในกลุ่มผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป 30% และรุ่น MYRA 70% เพื่อรองรับการเติบโตกลุ่มดีลิเวอรี ขณะที่จุดบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ตั้งเป้า 100 จุดภายใน 3 ปี เน้นพื้นที่กรุงเทพ มหานคร โดยตั้งเป้ายอดการจำหน่าย 100 คันต่อเดือนและ 5,000 คันภายใน 3 ปี
ด้านนายอาร์ชวัส เจริญศิลป์ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมกับการผลักดันให้เกิดการใช้จักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยผลสำรวจจาก IBM พบว่าผู้บริโภค 70% มีความต้องการที่จะบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม 60% มีความพร้อมที่จะทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยคนส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้มีความพร้อมที่จะจ่ายพรีเมียมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งใน การลดมลพิษ เมื่อคนในยุคมิลเลนเนียล หรือ Gen Z เติบโตขึ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งยังเป็น กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมเป็นอย่างมาก รวมถึงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงและมีความปลอดภัย นอกจากนี้รัฐบาลกำลังผลักดันเรื่องของการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และอินเซนทีฟทางภาษีในการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดซึ่งความชัดเจนของภาครัฐช่วยให้ภาคเอกชนมีความมั่นใจ
“ETRAN คาดหวังว่าภาครัฐควรเข้ามาสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างเรื่องของสถานีชาร์จ รวมถึงมาตรการทางภาษีที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐเพื่อเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน”
ด้านนายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า สำหรับการลงทุนในรอบนี้ NDR จะเป็น Lead Investor โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 60.2 ล้านบาท และมี Angle Investor ลงทุนอีกมูลค่า 43 ล้านบาท NDR มั่นใจว่ายานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นเทรนด์ของธุรกิจที่มีการเติบโตดี ซึ่งในปี 2564 นี้จะเน้นสร้างไลน์ผลิตและเริ่มจำหน่ายในช่วงปลายปี ตามแผนการดำเนินธุรกิจ ETRAN ในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ อยู่ที่ประมาณ 300-500 ล้านบาท และในปี 2566 คาดว่ารายได้จะเติบโตก้าวกระโดดแตะระดับ 1,000 ล้านบาท
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,679 หน้า 16 วันที่ 16 – 19 พฤษภาคม 2564