24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 มกราคม 2566

08 ม.ค. 2566 | 05:58:37

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 มกราคม 2566 

>> นายกฯ ยินดีนิตยสาร Forbes จัดประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 9 ของประเทศที่น่าอาศัยอยู่หลังเกษียณในปี 2566 

09.00 น. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบผลการสำรวจของเว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ซึ่งเปิดเผย Annual Global Retirement Index 2023 ซึ่งจัดอันดับประเทศที่ค่าครองชีพถูกและเหมาะสำหรับอาศัยอยู่หลังเกษียณ ในปี 2566 โดยได้จัดอันดับให้ประเทศไทย อยู่ในอันดับ 9 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย 

นายกรัฐมนตรียินดีที่ประเทศไทยยังคงเป็นจุดมุ่งหมายของชาวต่างชาติทั้งจากการมาท่องเที่ยว และการมาอาศัยอยู่หลังเกษียณ โดยไทยมีธรรมชาติที่สวยงาม และมีมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ซึ่งเป็นที่น่าสนใจในหมู่ชาวต่างชาติ โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว และแรงจูงใจสำหรับชาวต่างชาติให้เดินทางมาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังขอบคุณไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวของ และขอบคุณประชาชนทุกคนที่มีส่วนในการทำให้ประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของชาวต่างชาติ และได้รับความสนใจจากทั่วโลกเรื่อยมา 

>> กองทัพเรือ ลุยค้นหากำลังพลที่สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ต่อเนื่อง 

11.00 น. พลเรือเอกปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าปัจจุบัน กองทัพเรือยังคงดำเนินการค้นหาผู้สูญหายจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตามแนวชายฝั่ง ซึ่งยังคงจัดกำลังออกเป็น 2 หมู่เรือ โดย หมู่เรือที่ 1 ประกอบด้วย เรือหลวงตากสิน เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงเทพา เรือ ต.115 รวมถึงเครื่องบินแบบดอร์เนีย เฮลิคอปเตอร์ แบบ S-76 อากาศยานไร้คนขับและชุดปฏิบัติการพิเศษจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ และในส่วนของ หมู่เรือที่ 2 ประกอบด้วย เรือหลวงราวี เรือ ต.268 และ ชุดประดาน้ำ จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ 

นอกจากนั้น ได้รับความร่วมมือจาก ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) ศรชล.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ศรชล.จ.ชุมพร รวมถึง ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เข้าดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหาย บนเกาะต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามสภาพอากาศในวันนี้ค่อนข้างเป็นอุปสรรคเนื่องจาก ได้มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียว ซึ่งมีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าใกล้ปลายแหลมญวน ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะดังกล่าวเป็นผลทำให้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และทะเลอันดามัน มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน มีกำลังแรงขึ้น เป็นอุปสรรคต่อการค้นหาของเรือขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามตลอดวานนี้ได้มีการจัดชุดค้นหาทั้งบนผิวน้ำรวมถึงการเดินเท้าสำรวจตามชายฝั่ง และเกาะต่างๆในพื้นที่จังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี จนถึงในขณะนี้ ยังไม่พบผู้สูญหายแต่อย่างใด 

ผลการปฏิบัติจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่ม ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าทางสำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบและโอกาสต่อไป 

>> คุมตัวมือปืนรัวยิง อดีตวิศวกรชาวอังกฤษเสียชีวิต 

12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี ชาวอังกฤษอดีตวิศวกร ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต เหตุเกิดภายในซอยเขามะกอก 1 หมู่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา 

ล่าสุด นายอภิชา บุญสวัสดิ์ หรือ บิ๊ก อายุ 32 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนกล็อก ขนาด 9 มม.พร้อมเล่าถึงสาเหตุที่ลงมือสังการผู้เฒ่าชาวอังกฤษรายนี้ โดยเจ้าตัวได้พยายามยกมือไหว้ พร้อมทั้งพูดในน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมขอโทษ ขอโทษ สังคมด้วยนะครับ” ก่อนจะควบคุมตัวไปสอบสวนที่ห้องประชุมชั้น 3 ของ สภ.ห้วยใหญ่ จากนั้นควบคุมตัวไปค้นบ้านพัก เลขที่ 26/202 ซอย 12 หมู่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหมู่ดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยมีหน่วยสวาทบูรพา 491 พร้อมอาวุธครบมือตามประกบดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนา จากการตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย หรือหลักฐานอื่นๆ 

ตำรวจมีการสอบปากคำ ถึงสาเหตุ โดยนายอภิชา บุญสวัสดิ์ ได้เล่าว่า สาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ฟังว่า ไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน โดยก่อนเหตุการณ์ที่บริเวณแยกชัยพฤกษ์ ถนนสุขุมวิท หน้าร้านอาหารจุกโจ้ ในจังหวะกำลังชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวซ้ายกลับบ้านพัก โดยต่อท้ายรถกระบะคันข้างหน้า แต่จู่ๆฝรั่งที่ขี่รถจยย.ตามหลังมา เกิดบีบแตรรถ และทุบรถของตน ซึ่งตนก็พยายามจะบังฝรั่งเพื่อจะหยุดรถ เพื่อพูดคุย จนเกิดมีปากเสียงกัน แล้วก็เป็นไปตามคลิปที่ตนได้ขับแซง รถจยย.ของชาวต่างชาติดังกล่าว แล้วเดินลงจากรถใช้อาวุธปืนยิงดังกล่าว ซึ่งตนก็ขอโทษสังคม และครอบครัวผู้เสียชีวิตกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย พร้อมขอรับผิดทุกอย่าง 

เบื้องต้น ทางผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งระหว่างการสอบปากคำได้มีทนายส่วนตัวเข้ามาร่วมรับฟังการสอบสวนในครั้งนี้ด้วย โดยในชั้นสอบสวนทาง สภ.ห้วยใหญ่ ได้มีการคัดค้านการประกันตัว อย่างไรก็ตามจะได้ควบคุมตัวส่งศาลฝากขังในช่วงเช้าวันจันทร์ 

>> บุกทำลาย “ไร่ฝิ่น” พร้อมเข้าทวงคืนผืนป่า ในพื้นที่แม่สอด 

13.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปราม จ.ตาก, พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบ พื้นที่่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอด (พื้นที่เตรียมการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ) 

สืบเนื่องจาก บก.ปทส. ได้รับแจ้งมีการลักลอบทำไร่ฝิ่น ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการลาดตระเวนยังบริเวณพื้นที่เป้าหมายด้วยวิธีการเดินเท้า พบว่ามีผู้ลักลอบปลูกฝิ่นแทรกอยู่ในป่า เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่จริง อีกทั้งยังมีการหลบเลี่ยงการตรวจสอบทางอากาศเนื่องจากอยู่ติดตะเข็บชายแดน พื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทย และเมียนมา โดยพบร่องรอยการกรีด และเก็บขี้ฝิ่น (ยาง) ไปแล้วก่อนหน้านี้ และพบกลุ่มคนจำนวนหนึ่งขับขี่รถยนต์กระบะออกจากพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก ด้วยท่าทีมีพิรุธ จึงได้ติดตาม 

กระทั่งไปถึงพื้นที่ที่กลุ่มคนดังกล่าวขับขี่รถออกมา ซึ่งมีการแผ้วถางพื้นที่ป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อเตรียมเผาต้นไม้ โดยขุดเจาะกลางลำต้นไม้ เพื่อเตรียมการจุดเผาให้กลายเป็นที่โล่ง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกจำนวน 1 แปลง เนื้อที่จำนวน 3-0-08 ไร่ พร้อมด้วยของกลางเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พบพระ เพื่อให้ดำเนินตามกฎหมาย และจะได้ทำการสืบสวนจับกุมตัวผู้กระทำความผิดต่อไป 

>> ไฟไหม้รถเก๋งยี่ห้อหรู ย่านปากเกร็ด เสียหายหมดทั้งคัน 

15.00 น. สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 8 ถนนประชาชื่น-ปากเกร็ด ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 

โดยที่เกิดเหตุพบไฟกำลังโหมไหม้รถนั่งส่วนบุคคล ยี่ห้ออาวดี้ สีน้ำเงินคันหนึ่ง อย่างรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครปากเกร็ด เร่งช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมไว้ได้ โดยหลังเพลิงสงบพบรถคันดังกล่าวถูกไฟเผาวอดได้รับความเสียหายหมดทั้งคัน 

จากการสอบถามเจ้าของรถคันดังกล่าว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถไปให้ช่างซ่อมเกียร์ ที่อู่ย่านหลักสี่ แต่ปรากว่าช่างยังไม่สะดวกซ่อมให้ จึงขับรถกลับมาที่บ้าน แต่พอมาถึงบ้านจู่ๆเกิดควันไฟพวยพุ่งออกมาจากห้องเครื่อง เพียงครู่เดียวก็เกิดเปลวไฟลุกลามไปทั่วทั้งคันอย่างรวดเร็ว 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเกิดจากระบบไฟฟ้าในห้องเครื่องลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป 

>> รมว.ยุติธรรม หารือวางแนวทางร่างกฏหมายส่งเสริมปศุสัตว์ 

15.30 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมปศุสัตว์ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการเบื้องต้นแล้ว อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยทางกระทรวงยุติธรรมได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึก เช่น กฎหมายของประเทศออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ และล่าสุดเราได้เชิญหน่วยงานต่างๆ มาช่วยกันกำหนดแนวทางและเสนอความเห็น คือ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และภาคเอกชน ซึ่งหากมีกฎหมายนี้จะช่วยให้ประชาชน ได้สร้างอาชีพ มีรายได้ จากสัตว์พันธุ์พื้นเมือง เช่น วัวชน ไก่ชน และม้า ผ่านกิจกรรมในเชิงวัฒนธรรม สันทนาการ การท่องเที่ยวและกีฬา สร้างเศรษฐกิจขนาดใหญ่ให้กับประเทศ 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนขอยกตัวอย่าง วัวชนราคาขายตัวละประมาณ 50,000 บาท แต่หากเป็นพันธุ์ดี ลักษณะสวยงามราคาก็จะเพิ่มอีกหลายเท่า ซึ่งปัจจุบันมีคนเลี้ยงอยู่ประมาณ 100,000 ตัวทั่วประเทศ ซึ่งก็จะสร้างรายได้อย่างอื่นอีก เช่น หญ้าที่วัว 1 ตัวกินประมาณ 30 กิโลกรัมต่อวัน ราคากิโลกรัมละ 3-4 บาท อาหารเสริมกิโลกรัมละ 10 บาทกินตัวละ 2 กิโลกรัม ยารักษาโรคเฉลี่ยตัวละ 1,000 บาทต่อปี ส่วนขี้วัวก็สามารถนำไปขายทำเป็นปุ๋ยได้ แค่ภาคการเกษตรนี้มีเงินหมุนเวียนถึง 10,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนภาคการกีฬา ก็มีเรื่องของการขายบัตรเข้าชม การขายอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ และการเช่าคอกวัวสำหรับแข่ง รวมๆแล้วการแข่ง 1 ครั้งมีมูลค่าถึง 30 ล้านบาท 

>> ไฟไหม้ร้านขายของชำ ย่านคลองหลวง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย 

17.00 น. สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ร้านขายของชำและมีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 

ที่เกิดเหตุ พบต้นเพลิงอยู่ข้างหลังอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง มีแสงไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงและมีคนเจ็บติดอยู่ด้านในตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมน้ำฉีดเข้าสกัดไฟเพื่อไม่ให้ลุกลาม โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบ และพบผู้บาดเจ็บอยู่ภายใน 3 คน จึงรีบนำตัวออกมา เป็นผู้หญิง 1 ผู้ชาย 2 คน ทราบชื่อ นายอารยะ อายุ 52 ปี นายกฤษฎา อายุ 36 ปี และ น.ส.ลัดดา อายุ 55 ปี 

เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุขอการเกิดเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสาน พฐ.เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนดำเนินการต่อไป 

>> ลุงโพธารามวัย 61 เสียชีวิตเดียวดาย คาบ้านพักข้ามปี 

20.30 น. ร้อยเวร สภ.โพธาราม พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้ง พบผู้เสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 25 ถนนร่วมมิตร เขตเทศบาลโพธาราม จ.ราชบุรี 

ที่เกิดเหตุประตูรั้วบ้านถูกล็อคด้านใน มองเข้าไปที่โชฟาพบร่างผู้เสียชีวิตนอนขึ้นอึดอยู่บนโชฟา มีน้ำเหลืองปนเลือดไหลนองพื้น เจ้าหน้าที่จึงปีนรั้วข้ามไปเปิดประตู ทราบต่อมาผู้ตายชื่อนายบุญมา ดีมังกร อายุ 61 ปี พักอยู่เพียงลำพังคนเดียว ส่วนญาติพี่น้องอยู่ กทม. จากการตรวจพลิกศพไม่พบบาดแผล ผู้ตายเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 7 วัน คาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ตรวจสอบภายในบ้านไม่มีการรื้อค้น จึงแจ้งญาติให้ทราบ ซึ่งทางญาติเล่าว่า ผู้ตายทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการหลักจากเกษียณอายุรายการ ก็มาพักที่บ้านหลังนี้ ประกอบกับผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายโรคด้วย 

จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้ฝากร่างผู้เสียชีวิตไว้ที่สุสานของมูลนิธิก่อน เพื่อรอญาติมาติดต่อแต่ถ้าญาติติดใจการตายก็จะส่งผ่าพิสูจน์ต่อไป 

>> เพลิงไหม้โกดังเก็บของเก่า ย่านฉลองกรุง เสียหายวอดทั้งหลัง 

21.27 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เกิดเพลิงไหม้โกดังเก็บของเก่า สถานที่เกิดเหตุไม่มีเลขที่ ซอยฉลองกรุง 49 ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 

ประกอบกิจการ รับซื้อของเก่า ลักษณะที่เกิดเหตุ เป็นเพิงพักไม้หลังคามุงสังกะสี ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในเพิงพัก เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 40 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ 

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดกระบัง 

>> หนุ่มวัย 40 ขี่รถจักรยานยนต์ ชนกับรถบัส เสียชีวิต 

00.05 น. รับแจ้งจาก สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา เกิดอุบัติเหตุ ถนนเส้นทางโพธิ์พญา – ท่าเรือ บริเวณใกล้เคียงวิทยาลัยการอาชีพมหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา 

โดยที่เกิดเหตุ พบรถบัส สีน้ำเงิน ทะเบียน สระบุรี ชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายอาการสาหัส อาสากู้ภัยพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ เร่งดำเนินการช่วยเหลือทำ CPR แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสารทราบชื่อ นายสมโชค อายุ 40 ปี ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มหาราช 

>> ไฟไหม้บ้านย่านอุดมสุข เสียหายวอดทั้งหลัง 

00.29 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ เลขที่ 36 ซอยอุดมสุข 56 แยก 3 ถนนสุขุมวิท 103 แขวงบางนาเหรือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 

ลักษณะที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเดี่ยวคอนกรีต 3 ชั้น ประกอบกิจการ ที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 1 เพลิงลุกไหม้ชั้นที่ 1 เสียหายหมดทั้งชั้น พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 80 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งชั้น ที่เกิดเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย (รายที่ 1) เพศหญิง อายุประมาณ 30 ปี มีอาการสำลักควัน (รายที่ 2) เพศหญิง อายุประมาณ 26 ปี มีอาการสำลักควัน (รายที่ 3) เพศหญิง อายุประมาณ 12 ปี มีอาการสำลักควัน อาสาสมัครนำทั้ง 3 รายส่งโรงพยาบาลศิครินทร์ พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางนา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา 

>> อุบัติเหตุรถชนประสานงา เสียชีวิตกลางถนนอ่อนนุช 

02.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บริเวณ ถนนอ่อนนุช บริเวณหน้าซอยอ่อนนุช 44 พื้นที่เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 

โดยที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กทม. ชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซุเปอร์คับ สีฟ้า ทะเบียน กทม. ทำให้มีผู้บาดเจ็บชายอาการสาหัส 2 ราย โดยมี 1 รายอาสากู้ภัยต้องเร่งทำ CPR แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ พื้นที่ สน.พระโขนง  

>> รถ จยย.  ชนกับรถบรรทุก เสียชีวิต 

02.29 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนกับรถบรรทุก 10 ล้อ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน ถนนนวมินทร์ บริเวณใกล้เคียงร้านไทวัสดุ 

เพิ่มเติมที่เกิดเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ คาวาซากิ แซด-300 สีส้ม-ดำ ทะเบียน กทม. ชนกับรถบรรทุก ฮีโน่ ไม่มีป้ายทะเบียน ทำให้มีผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นาย อลงณ์กต อายุ 33 ปี พื้นที่ สน.โคกคราม  

>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 8 มกราคม 2566 เวลา 05.00 น. 

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 668,180,063 ราย รักษาอาการดีขึ้น 639,531,399 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,710,559 ราย 

1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 103,079,445 ราย เสียชีวิต 1,121,074 คน (เพิ่มขึ้น 15 คน) 

2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,681,017 ราย เสียชีวิต 530,718 คน (เพิ่มขึ้น 11 คน) 

3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 39,401,170 ราย เสียชีวิต 161,643 คน (ยังไม่อัปเดต) 

4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,509,539 ราย เสียชีวิต 162,688 คน (เพิ่มขึ้น 170 คน) 

5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 36,487,021 ราย เสียชีวิต 694,823 คน (เพิ่มขึ้น 198 คน) 


Share this: