23 ต.ค. 2565 | 05:44:23
>> คนหลั่งไหลเที่ยว “ดอยอินทนนท์” หวังสัมผัสความหนาว ชมทะเลหมอกยามเช้า
06.30 น.65 นายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เผยว่า ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งได้เข้ามาพักแรมนอนกางเต็นท์ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้เพื่อรอสัมผัสบรรยากาศยามเช้าที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานและยอดดอย ซึ่งสภาพอากาศยามเช้าหนาวแล้ว โดยนักท่องเที่ยวต่างต้องการขึ้นมาเพื่อสัมผัสความหนาวและชมทะเลหมอก หรือดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า แต่ก็ต้องผิดหวังอีก 1 วัน เนื่องจากสภาพอากาศปิด มีแต่หมอกลงขาวโพลนเต็มไปหมด ส่วนอุณหภูมิที่วัดได้ต่ำสุดเช้าวันนี้ 10 องศาฯ ที่ยอดดอย กิ่วแม่ปาน 11 องศาฯ ส่วนที่ทำการอุทยานวัดได้ 18 องศาฯ บรรยากาศช่วงวันหยุดยาวเริ่มคึกคักขึ้น โดยนักท่องเที่ยวต่างขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อขึ้นไปบนดอย และขอแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังด้วยเนื่องจากช่วงเช้าบริเวณทางขึ้นดอยและกิ่วแม่ปาน หมอกลงค่อนข้างหนาทำให้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นลดลง อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ และกิ่วแม่ปานจะเปิดให้บริการในช่วงวันที่ 1 พ.ย. 65 เป็นต้นไป จึงแจ้งนักท่องเที่ยวเพื่อทราบ
>> รถพ่วง 18 ล้อ ทับขบวนฮาร์เลย์ ดับ 1 ศพ
09.50 น. ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งว่ามี อุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่บนสะพานต่างระดับมิตรภาพ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้รีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายชัยสงคราม อายุ 28 ปี สวมหมวกกันน็อกสีดำ ขับรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์-เดวิดสัน สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ชนกับ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกม้ามาเต็มคันรถ 26 ตัว , รถนั่งส่วนบุคคล และรถตู้ รวมชนกัน 4 คัน เบื้องต้นทราบว่า ขบวนรถฮาร์เลย์หลายสิบคัน ขี่จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปโคราช เพื่อจะไปงานประกวดรถ โดยรถฮาร์เลย์คันดังกล่าว คาดว่าน่าจะวิ่งมาช่องกลาง และน่าจะเกิดเสียหลัก ทำให้รถล้ม โดนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทับเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวคู่กรณีทั้งหมดไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองสระบุรีต่อไป
>> โจรอาละวาดลักทรัพย์คืนเดียว ก่อเหตุ 10 หลังรวด
12.00 น. จนท.ตรวจสอบหมู่บ้าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยเป็นหมู่บ้านโครงการใหญ่ มีบ้านเรือนประมาณ 270 หลัง โดยในกลุ่มผู้เสียหายบ้าน 10 หลัง ที่ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ได้ให้การกับตำรวจ ระบุว่าคนร้ายไม่ได้ก่อเหตุแค่เพียงหลังเดียว แต่ยังไปก่อเหตุปีนบ้านหลังอื่นอีก และไม่มีร่องรอยการงัดแงะ มีเพียงรอยเท้าของคนร้าย และร่องรอยรื้อค้นทรัพย์สินตามห้องต่างๆ ซึ่งทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปส่วนใหญ่จะเป็นเงินสด ซึ่งบ้านที่สูญเงินมากสุดคือ 2,000 บาท โดย ผกก.สภ.หนองปรือ เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้ส่งฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและเบาะแสของคนร้ายแล้ว โดยกำลังให้ไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ และจะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
>> ฝาท่อระบายน้ำระเบิดลอยลอยสูงกว่า 5 เมตร กระแทกรถที่จอดข้างทาง
14.00 น. ตำรวจ สภ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา เร่งตรวจสอบบริเวณหน้าปั๊มเชลล์ ริมถนนสุขุมวิท ขาเข้าพัทยา ก่อนถึงเมืองจำลอง รับแจ้งเกิดฝาท่อระบายน้ำระเบิดจำนวนหลายฝา เป็นระทางกว่า 50 เมตร
ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน พบฝาท่อระบายน้ำระเบิดลอยออกมากระแทกรถเสียหาย โดยพยานที่เกิดเหตุกล่าวว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด แล้วก็เห็นฝาท่อระบายน้ำลอยสูงกว่า 5 เมตร ก่อนตกลงมา และมีกลุ่มควันพุ่งออกจากท่อ แต่ไม่มีกลิ่นแก๊สแต่อย่างใด เบื้องต้นสาเหตุการสะสมของก๊าซภายในท่อจึงเกิดแรงดัน ซึ่งทางผู้เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงของกระเกิดระเบิดจนฝาท่อระบายน้ำลอยขึ้นมา โชคดีไม่กระเด็นถูกคนบาดเจ็บ
>> แจ้ง 3 ข้อหา เมียยิงตำรวจพระโขนง ล่าสุดอาการปลอดภัย
15.30 น. จากกรณีสารวัตรสอบสวน สน.พระโขนง ถูกคนร้ายบุกใช้อาวุธปืนยิง 1 นัดขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน สน.พระโขนง กระสุนเข้าที่หน้าท้องฝังใน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.พระโขนง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ และทำการสอบสวนแล้ว เจ้าตัวรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุ ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องปัญหาครอบครัว แต่ไม่ขอลงรายละเอียดว่าเรื่องอะไร ส่วนปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้ยิง เป็นปืนของผู้ก่อเหตุเอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชนโดยใช่เหตุ” ส่วนอาการบาดเจ็บของ พ.ต.ท.กษิติ์ยศ ขณะนี้ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว
>> ยังปูพรมค้นหา แหม่มรัสเซีย ทั้งทางบก ทะเล อากาศ แต่ไร้วี่แวว
16.00 น. จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวรัสเซียทราบชื่อคือ น.ส.อิเลนา ราซเนนโก อายุ 53 ปี ลักษณะมีอาการหลงลืมและเหม่อลอย ได้หายตัวออกจากที่พัก ซึ่งมีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายที่หาดในทอน ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อคืนวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ค้นหาพบแต่รองเท้าถูกถอดทิ้งไว้ริมหาด จากนั้นได้ระดมกำลังทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.สาคู และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต.สาคู ระดมกำลังออกค้นหาตามจุดต่างๆ แบบปูพรมค้นหา ทั่วหาดภูเก็ตทั้งทางบก ทะเล อากาศ ยังไร้วี่แวว
>> ‘พิตบูล’ รุมขย้ำเจ้าของสาหัส ประธานชุมชนย้ำเตือนประจำ
16.30 น. หน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา รับแจ้งจากพลเมืองดีมีเหตุขอความช่วยเหลือที่หมู่บ้านประกอบพัฒนา จ.นครราชสีมา ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชายสูงวัยถูกสุนัขพันธุ์พิตบูล รุมกัด มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง และมีสัญญาณชีพต่ำ จึงได้ประสานรถโรงพยาบาลเอกชนมาดำเนินการซีพีอาร์และรีบนำไปรักษาโดยด่วน อาการล่าสุดเป็นตายเท่ากัน ภายในบ้านมีสุนัขพันธุ์พิตบูล อายุประมาณ 3-4 ปี จำนวน 3 ตัว และลูกสุนัขพิบูล อายุ 2-3 เดือน 3 ตัว เดินอยู่รอบตัวบ้าน เมื่อเห็นคนแปลกหน้าได้ส่งเสียงเห่า เบื้องต้นบ้านหลังนี้เลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบูล นิสัยดุร้ายมาก ชาวบ้านในชุมชนต่างหวาดกลัวมาก ตนเคยเตือนให้เจ้าของดูแลอย่างเข้มงวดเกรงจะกัดทำร้ายคนอื่น เจ้าของสุนัขได้รับปาก แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นรู้สึกตกใจมาก
เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เสียหาย 1 หลัง พบผู้เสียชีวิต 1 คน
20.50 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนบ้านคลองเตย โดยมูลนิธิร่วมกตัญญู คอนสาร , มูลนิธิร่วมกตัญญู เกษตรสมบูรณ์ จึงได้ออกตรวจสอบ และได้ประสานรถดับเพลิงมาระงับเพลิง ที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 375 ม.13 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยเจ้าหน้าที่ใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลา 21:50 น. และจากการตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวพบว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้าน 1 คน ทราบชื่อ นายคุณกฤต โพธิ์ชัย อายุ 42 ปี ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยาง
>> ลุยตรวจซุปเปอร์คาร์-รถแต่งซิ่งรวมตัว 5 คันขึ้นไป ถือว่าพยายามแข่งรถในทาง มีโทษ 2 ใน 3 ของความผิด
22.00 น. ที่ปั๊มน้ำมันปตท.ทางด่วนพิเศษศรีรัช ฝั่งขาออก แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ประชาชื่น พร้อมตำรวจบก.จร. เจ้าหน้าที่ขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ กรมสรรพสามิต สำนักงานเขตบางซื่อ และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมตรวจสอบรถซุปเปอร์คาร์ และรถยนต์แต่งซิ่งดัดแปลงสภาพ ที่มารวมตัวกันในยามค่ำคืน สร้างผลกระทบทางเสียงต่อผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถยนต์ที่มีการดัดแปลงสภาพ และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พบผู้กระทำผิดหลายคัน จึงได้ดำเนินการพร้อมทำความเข้าใจกับเจ้าของรถเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มโทษ แว้น ซิ่ง แข่งรถในทาง จากเดิมที่จะต้องมีการกระทำความผิดแข่งรถกันในทางสาธารณะ แต่ปัจจุบันหากมีการรวมกลุ่มมั่วสุมในทางสาธารณะ หรือสถานที่ใกล้ทางสาธารณะ ตั้งแต่ 5 คันขึ้นไป ถือว่าพยายามแข่งรถในทาง มีโทษ 2 ใน 3 ของความผิดฐานแข่งรถในทาง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับ 5000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
Share this: