รถมอเตอร์ไซค์สำหรับการแข่งขัน มักจะมีจุดเด่นที่แตกต่างไปจากรถในท้องตลาดด้วยลวดลายที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษและการติดตั้งตราสัญลักษณ์ของสปอนเซอร์หลักของทีมที่แปลกตาทำให้รถแข่งเหล่านี้มักมีแรงดึงดูดต่อเหล่าสายซิ่งหลายๆ คน และในบทความนี้เราจะขอพาเพื่อนๆไปชม 10 ลวดลายบนตัวรถแข่งที่สุดจัดปลัดบอกในประวัติศาสตร์ MotoGP กันครับ
คันแรกขอเริ่มต้นที่อาวุธคู่ใจของแชมป์โลก Honda RC213V Repsol Honda Fotory Team กันก่อน โดยตัวรถนั้นจะใช้สีส้มที่เป็นสีหลักของแบรนด์ Repsol ผู้ประกอบกิจการน้ำมันและก๊าซจากประเทศสเปน หลังจากเข้ามาสนับสนุนค่ายปีกนก Honda มาอย่าวยาวนานถึง 25 ปี ผ่านมือนักแข่งมาแล้วกว่า 15 คนซึ่งในฤดูกาล 2020 นับเป็นปีสุดท้ายของ Repsol กับค่าย Honda และมีแววว่าทาง Repsol จะยังคงไม่ปล่อยมือจากทีมระดับโลกไปอย่างง่ายๆ
ย้อนกลับไปในยุคสองจังหวะครองสนามกับเจ้า Suzuki RGV500 รถที่ถูกขนานนามว่ายอดเยี่ยมที่สุดจากบรรดารถแข่งต่างๆ จากค่ายคนบ้า Suzuki ซึ่งการรวมเข้ากับบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของอเมริกา ในปี ค.ศ. 1988 พร้อมกับสองนักแข่ง Rob McElnea พร้อมกับดาวรุ่งพุ่งแรงในเวลานั้นอย่าง Kevin Schwantz แต่ด้วยสัญญาที่มูลค่าจำนวนมหาศาลทำให้ Pepsi กับ Suzuki อยู่ร่วมกันได้เพียง 2 ฤดูกาลก่อนแยกย้ายกันไป แต่ก็นับว่า Suzuki เป็นทีมแข่งทีมแรกๆ ที่ใช้บริษัทผู้ผลิตสินค้าเครื่องดื่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับวงการอุตสหกรรมยานยนต์มาเป็นสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการ
ย้อนกลับไปในช่วงยุค 80’s เป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยาสูบแข่งขันกันอย่างหนัก โดยแผนงานของบริษัทผู้ผลิตบุหรี่หรือยาเส้นต่างๆ ก็มุ่งเน้นไปที่กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตเป็นหลักทั้งในการแข่งขันรถสี่ล้ออย่าง F1 หรือ Le Mans ซึ่งก็รวมไปถึง WorldGP หรือ MotoGP ในปัจจุบัน ก็เป็นตลาดใหญ่ของวงการยาสูบที่ใช้เป็นพื้นที่โฆษณาทั้งสิ้น และหนึ่งในนั้นก็คือ Rothmans บริษัทยาสูบยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษของมีเอี่ยวกับการแข่งขันนี้ด้วย ถึงแม้จะถูกกีดกันจากคณะผู้จัดการแข่งขันบริษัทยาสูบต่างๆ แต่ทาง Rothmans ก็ลงทุนในการเลือกที่จะติดตราสัญลักษณ์ประจำของแบรนด์แต่เปลี่ยนรูปแบบของตัวอักษรใหม่บนโลโก้ของทีมแข่งขันแทน (แต่ก็ยังมีโลโก้เหมือนบนหน้าซองบุหรี่ติดบนตัวรถอยู่ดีนั่นแหละ)
มาถึงรุ่นใหม่ที่หลายๆ คนเริ่มคุ้นตากันบ้างกับเจ้า KTM Tech3 Red Bull หลังจากสร้างภาพจำด้วยธีมสี เหลืองดำบนรถ Yamaha YZR-M1 อยู่นานสองนาน จนปี 2019 ปีแรกของ Tech3 ที่ออกจากชายคา Yamaha มาสู่อ้อมอกของ KTM ซึ่งการเลือกใช้ธีมสีที่แปลกตานั้น กลับมาความคล้ายกับธีมของรถแข่ง F1 ของ Toro Rosso แต่ในทางกลับกันเจ้า KTM Tech3 กลับสามารถดึงเอาอัตลักษณ์ของชุดสี น้ำเงิน เงิน ส้ม ออกมาได้อย่างชัดเจนกว่าและดูสวยงามลงตัวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะยามเมื่อมองเห็นด้วยตาของตัวเอง
ทีม Satelite ของ Honda สร้างชื่อมาตั้งแต่ช่วงกลางของยุค 90 กับผลงานสุดแจ่มของ Aaron Slight ตำนานนักแข่งจากประเทศนิวซีแลนด์ ที่จบฤดูกาล WorldSBK ด้วยตำแหน่ง Top 3 สลับอันดับสองหรือสามตั้งแต่ปี 1995-1998 และค่อนๆ โรยราไปในปี 2000 ก่อนที่ทีมจะย้ายข้ามฝั่งมายัง MotoGP หลังจากประสบความสำเร็จในการทำทีมในระดับ 125 ซีซี ที่คว้าตำแหน่งรองแชมป์ได้ถึงสองปีซ้อน ในปี 1998 และขยับขึ้นสู่ระดับ MotoGP ในปี 2006 พร้อมกับนักแข่งดาวรุ่ง Casey Stoner ถึงแม้ว่าทีมจะอยู่ในระดับสูงสุดอยู่นานแต่ก็มีนักแข่งไม่กี่คนที่คว้าแชมป์การแข่งขันภายใต้สีเสื้อของทีม ซึ่งนั่นก็คือ Cal Crutchlow นั่นเอง
Valentino Rossi แชมป์โลก 9 สมัยชาวอิตาเลี่ยน นับว่าเป็นผู้มีบทบาทในวงการ MotoGP เป็นอย่างมาก ซึ่งความเป็นตำนานที่ยังหายใจอยู่นั้นเจ้าตัวมักจะมีเรื่องที่ไม่ธรรมดาและเหนือกว่านักแข่งคนอื่นเสมอๆ อย่างเช่นการทดสอบในช่วง Winter Test ที่บรรดาทีมแข่งต่างๆจะขนรถโมเดลสำหรับแข่งในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น มาทำการอำพรางด้วยลวดลายพื้นๆ หรือใช้รูปแบบที่ไม่เหมือนกับรถแข่งที่เราเคยเห็น แต่กับ Rossi นั้นมักจะสร้างความแตกต่าง โดยเริ่มต้นในช่วง Winter Test ในปี 2012 ที่เจ้าตัวใส่ลวดลาย Sun And Moon ที่เจ้าตัวเป็นคนออกแบบเอง และใช้ประดับบนหมวกกันน็อคของตัวเองมาตั้งแต่ยุคสองจังหวะ มาประดับบนตัวรถแข่ง แทนที่จะเป็นสปอนเซอร์หรือการอำพรางสีใหม่ของรถแข่งในปีนั้นๆ ซึ่งมันสร้างความแตกต่างและน่าตื่นเต้นให้กับผู้คนที่ได้รับชมเป็นอย่างมาก
สำหรับลายแข่งนี้นับว่าเป็นภาพจำสำหรับสาวก Suzuki เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ Suzuki ได้โบกมืออำลาจาก Pepsi ในปี 1989 และมาจับมือกับ Lucky Strike บริษัทผู้ผลิตยาสูบจากอเมริกา หลังจากหมดสัญญากับยอดทีมที่กุมบังเหียนโดย Kenny Robert อดีตตำนานนักแข่งอเมริกันเจ้าของแชมป์โลก 500 ซีซี 3 สมัย เข้าสู่ชายคาของ Suzuki ด้วยความหวังที่จะเป็นผู้สนับสนุนแชมป์โลกคนล่าสุดอย่าง Eddie Lawson แต่ที่เจ็บแสบกว่าคือ Eddie Lawson กลับย้ายไปสังกัดทีม Yamaha อีกในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลเพียงไม่กี่เดือน และในปี 1990 แชมป์ของฤดูกาลนั้นกลับกลายเป็น Wayne Rainey จากทีม Marlboro Team Roberts อดีตทีมเดิมที่ Lucky Strike ให้การสนับสนุนอยู่ และยังครองแชมป์ติดต่อกันอีกถึง 2 สมัยในปี 1991 และ 1992 ก่อนจะโดย Kevin Schwantz ที่สามารถคว้าแชมป์แรกมาครองได้ในปี 1993 ส่วน Eddie Lawson ที่ Lucky Strike ฝากความหวังไว้ก็ไม่ได้อยู่ในเส้นทางของแชมป์ เพราะอยู่กับ Marlboro Team Robert ได้เพียงฤดูกาลเดียวก็ต้องระเห็ดไปอยู่กับ Cagiva Corse ในฤดูกาล 1991 และปิดฉากอาชีพนักแข่งกับทีมเดียวกันนี้ในปี 1992 และไม่มีชื่อเป็นผู้ชนะเลยแม้แต่สนามเดียวตลอด 3 ฤดูกาลสุดท้ายในอาชีพ
นี่คือลวดลายแข่งที่เป็นที่จดจำของคนทั่วโลก กับลาย Speed Block ของ Kenny Robert ตำนานนักแข่งอเมริกันของทีม Yamaha ที่คว้าสามแชมป์โลก 500 ซีซี ในปี 1978-1980 บนรถ Yamaha YZF500 สองจังหวะที่ดีที่สุดของค่าย Yamaha จนต่อมาลวดลายแข่ง Speed Block นี้ถูกยกให้เป็นลวดลาย Signaure ของค่าย Yamaha จนถึงปัจจุบัน
มาถึงทีมน้องใหม่อย่าง Petronas Yamaha SRT ทีมแข่งสัญชาติมาเลเซีย ที่มีสนามแข่งรถระดับโลกอย่าง Sepang International Circuit เป็นผู้ควบคุมทีม ถึงแม้ว่าจะใหม่ในวงการ MotoGP แต่ Petronas เองขึ้นชื่อกับวงการมอเตอร์สปอร์ตในการทำทีม F1 ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้ ส่วนลดลายบนตัวรถนั้นนับว่าเป็นการออกแบบที่ลงตัวการเลือกคู่สีที่ตัดกันอย่างสีเขียวมิ้นต์และสีดำแดง ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นในวงการ MotoGP สักเท่าไหร่ แต่ที่น่าจะโดดเด่นและส่งผลให้ตัวรถนั้นดูดีขึ้นก็คือผลงานของ Rookie of The Year อย่าง Fabio Quartararo เองก็เป็นเครื่องยืนยันได้ถึงความสามารถและความพร้อมของทีม และมีแววที่จะขึ้นไปฟัดกับแชมป์โลกคนปัจจุบัน Marc Marquez ได้อีกด้วย
นี้ไม่ใช่การโปรโมทหนังตลกสายลับล้อเลียนเรื่อง Austin Power แต่อย่างใด แต่เป็นรถแข่งในสนามสุดท้ายของตำนานอิตาเลี่ยน Valentino Roosi กับค่าย Honda ที่เกิดขึ้นในสนาม Valencia ในปี 2003 ก่อนที่เจ้าตัวจะโยกไปอยู่กับ Yamaha และเป็นตำนานของทีมมาจนถึงปัจจุบัน โดยสาเหตุที่หลายๆ คนเรียกเจ้า RC211V คันนี้ว่า Austin Power ก็เพราะรูปแบบของตัวอักษรบนตัวรถนั้นมันคล้ายกับตัวโลโก้ของหนัง Austin Power นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motogp.com www.visordown.com
เรื่องฮิตล่าสุด!
This website uses cookies.