เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาวเมียนมายังคงออกมาชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาพยายามใช้กลยุทธ์ทุกวิถีทางในการสกัดการลุกฮือแสดงพลังต่อต้านของกลุ่มผู้ประท้วงด้วยการบล็อกสัญญาณอินเตอร์และการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้ามารับมือม็อบผู้ประท้วงที่ยังไม่มีวี่แววจะล่าถอยไป
ที่ย่างกุ้ง กลุ่มผู้ประท้วงหลายหมื่นคนกลับมาปักหลักต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพในบริเวณเจดีย์สุเล ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และอีกจุดชุมนุมใหญ่อยู่บริเวณสี่แยกใกล้กับมหาวิทยาลัยดากอง โดยการลงถนนประท้วงของกลุ่มผู้ชุมนุมยังเป็นไปอย่างสันติ แต่การเคลื่อนไหวแสดงอารยะขัดขืนต่อต้านรัฐประหารของกลุ่มผู้ประท้วง เช่น การนำรถยนต์รถบัสมาแกล้งจอดเสียขวางถนน และการขี่มอเตอร์ไซด์เป็นขบวนอย่างช้าๆ เพื่อมุ่งขัดขวางการเคลื่อนไหวของกองกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ก็ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจให้ไม่ได้รับความสะดวกไปด้วย แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบยังคงบอกว่าไม่เป็นไร เพราะสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประท้วง
ที่มัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันเรียกร้องให้ปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ 2 คน ที่ถูกทางการจับกุมตัวไปในช่วงเกิดเหตุรัฐประหาร ส่วนที่เมืองพุกาม อดีตเมืองหลวงเก่าของเมียนมา กลุ่มผู้ประท้วงส่วนหนึ่งเดินขบวนไปที่วัดแห่งหนึ่ง และร่วมกันสาปแช่งผู้นำเผด็จการทหาร
มีรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาได้เปิดฉากยิงกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงในเมืองมัณฑะเลย์ ขณะเผชิญหน้ากับพนักงานรถไฟที่หยุดงานประท้วงและขัดขวางการเดินรถไฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงอารยะขัดขืน เหตุปะทะกันดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายจากการถูกกระสุนปืนยางฝังเข้าที่ขา
ขณะที่ในช่วงค่ำวันเดียวกัน รัฐบาลทหารเมียนมาได้ออกมาหมายจับบุคคลที่มีชื่อเสียง 6 คน ที่มีทั้งผู้กำกับภาพยนตร์ นักแสดงและนักร้องคนดัง ซึ่งถูกจับกุมภายใต้กฎหมายต่อต้านการปลุกปั่นยั่วยุ จากการปลุกเร้าให้ข้าราชการพลเรือนเข้าร่วมหยุดงานประท้วง จนทำให้หน่วยงานภาครัฐหลายแห่งกลายเป็นอัมพาต
ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองของเมียนมาเปิดเผยว่า นับแต่เกิดเหตุรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนนำโดยนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(เอ็นแอลดี) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีผู้ที่ถูกทางการเมียนมาจับกุมตัวไปแล้ว 495 คน ในจำนวนนี้ 460 คนยังคงอยู่ในความควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่
ล่าสุดมีท่าทีมาจากกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ที่แถลงว่า รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์และอินโดนีเซียสนับสนุนข้อเสนอให้มีการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการขึ้นเพื่อหารือถึงสถานการณ์ในเมียนมา ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ได้พบหารือกับนายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์
