ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เดินหน้าในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์การแข่งขัน MOTO2 ต่อเนื่องอีก 3 ปี – อาร์วายที9

ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เดินหน้าในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์การแข่งขัน MOTO2 ต่อเนื่องอีก 3 ปี  ตลอดฤดูกาล 2022 - 2024

ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์เพียงรายเดียวของการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกรายการ FIM Moto2 ยังคงเดินหน้าสนับสนุนขุมกำลังสามสูบ 765ซีซี ที่สามารถทำลายสถิติความเร็วในการแข่งขันได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกรายการ FIM Moto2 ต่อไปอีกสามฤดูกาล ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปี 2022-2024

ทั้งนี้ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลในปี 2019 ที่ผ่านมา ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้เริ่มบทบาทในการเป็นผู้จัดเตรียมเครื่องยนต์สามสูบ 765ซีซี ที่ปรับแต่งมาเพื่อใช้ในการแข่งขันให้กับทุกทีมโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ Street Triple RS ขุมกำลังระดับชั้นนำที่ถูกพัฒนาต่อยอดให้เครื่องยนต์ระบายอากาศได้ดีขึ้น สามารถทำรอบเครื่องยนต์ได้สูงขึ้น จึงทำให้มีกำลังสูงสุดมากกว่า 140 แรงม้า ซึ่งมีกำลังสูงกว่ารถจักรยานยนต์รุ่นที่ผลิตเพื่อจำหน่ายกว่า 17% ประสิทธิภาพอันทรงพลังของเครื่องยนต์สามสูบขนาด 765ซีซี ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ได้เข้ามาพลิกโฉมและยกระดับการแข่งขันให้ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามองยิ่งขึ้น

จากความมุ่งมั่นของ Dorna ที่ต้องการนำการแข่งขัน Moto2 ให้เข้าใกล้ MotoGP มากขึ้น ไทรอัมพ์จึงได้ทำการเพิ่มกำลังและแรงบิดให้สูงขึ้น พร้อมทั้งผสมผสานระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความล้ำหน้ายิ่งขึ้น ตลอดจนมีการจัดฝึกอบรมในหัวข้อที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและปรับปรุงการแข่งขันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตามกว่า 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา นักแข่งจากรายการ Moto2 ต่างได้ก้าวขึ้นบนโพเดี้ยมและสามารถคว้าชัยชนะในฤดูกาลแรกของการแข่งขันระดับพรีเมียร์คลาสอย่าง MotoGP โดย นักแข่งแชมป์โลก Moto2 ของปี 2019 อย่าง Alex Marquez สามารถคว้าอันดับสองถึง 2 สนามของการแข่งขัน MotoGP ในปี 2020 และทางด้านคู่แข่งอย่าง Brad Binder ก็ได้ชัยชนะหนึ่งครั้งใน MotoGP ฤดูกาล 2020 และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้คว้าชัยชนะอีกครั้งในการแข่งขันที่ออสเตรียในปี 2021 นอกจากนี้ยังมี Jorge Martin นักแข่งที่คว้าชัยชนะ Moto2 ครั้งแรกในปี 2020 และถัดมาอีกหนึ่งปีเขาก็ได้คว้าชัยชนะครั้งแรกในการแข่งขัน MotoGP

โดยสามารถคว้าชัยถึง 2 สนามในการแข่งขัน MotoGP ปี 2021 ดังนั้นในมุมมองของ ดอร์น่า (Dorna) จึงอาจกล่าวได้ว่าผลลัพธ์การคว้าชัยชนะอันน่าทึ่งจากการแข่งขันเหล่านี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการแข่งขันรายการ Moto2 ได้กลายเป็นก้าวสำคัญสำหรับการขึ้นมาแข่งขันในรายการ MotoGP

นอกจากนี้ จากผลการแข่งขันของผู้ชนะทั้ง 14 คนตั้งแต่ปี 2019 ยังแสดงให้เห็นว่าในแต่ละปีเครื่องยนต์ของไทรอัมพ์ได้ทำลายสถิติใหม่มาอย่างต่อเนื่อง สามารถทำลายสถิติความเร็วรอบได้ 34 สนาม และเป็นครั้งแรกสำหรับ Moto2 ที่ทำสถิติความเร็วสูงสุดเกิน 300 กม./ชม. ซึ่งสถิติล่าสุดอยู่ที่ 301.8 กม./ชม. ที่เกาะฟิลลิป ประเทศออสเตรเลีย

จากการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ทำให้ไทรอัมพ์ ได้รับเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมและได้เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับเหล่านักแข่งและทีมงาน รวมไปถึงเสียงชื่นชมจากแฟนของไทรอัมพ์ทั่วโลก ไทรอัมพ์จึงได้ตัดสินใจเดินหน้าความร่วมมือกับ ดอร์น่า (Dorna)

ผู้ถือลิขสิทธิ์จัดแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก MotoGP และ เอ็กซ์เทินโปร (Externpro) สานต่อความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรและเซ็นสัญญาฉบับใหม่ เพื่อสนับสนุนเครื่องยนต์สำหรับการแข่งขันต่อเนื่องไปอีก 3 ปี

นายสตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “Moto2 เป็นการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบในการพิสูจน์ความน่าเชื่อถือและข้อได้เปรียบของประสิทธิภาพเครื่องยนต์สามสูบของไทรอัมพ์ ซึ่งเราได้เห็นศักยภาพของเครื่องยนต์ด้วยเวลาในรอบคัดเลือกของ 20 อันดับแรกที่ทำเวลาห่างกันเพียงเสี้ยงวินาที สำหรับการเข้าร่วมกับ Moto2 นอกจากจะเป็นการยกระดับโปรไฟล์และความน่าเชื่อถือของไทรอัมพ์ในเวทีโลกแล้ว ความสำเร็จของ Moto2 ยังจุดประกายความหลงใหลในการแข่งรถจักรยานยนต์อีกด้วย ไทรอัมพ์มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการคว้าชัยชนะของเหล่านักแข่ง และตื่นเต้นที่จะได้เห็นการต่อสัญญาไปอีก 3 ปี โดยจะมุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้ดียิ่งขึ้นและมั่นใจว่าจะได้รับการชื่นชมจากทั้งนักแข่งและทีมงานอย่างแน่นอน”

ทางด้าน นายคาร์ลอส เอสเปเลต้า กรรมการผู้จัดการ ดอร์น่า กล่าวว่า “ในปีแรกของการร่วมมือเรียกได้ว่าทุกฝ่ายต่างได้รับความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม และทางดอร์น่าขอขอบคุณไทรอัมพ์สำหรับความช่วยเหลือและการทำงานหนักในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตของโรคระบาด โดย FIM, IRTA และ ดอร์น่า ต่างพอใจกับผลลัพธ์ของความร่วมมือครั้งนี้รวมทั้งความสำเร็จของทั้ง 3 รายการแข่งทั้ง Moto3, Moto2 และ MotoGP และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความร่วมมือกันในอีก 3 ปีหลังจากนี้ และหวังว่าจะได้จะมีประสบการณ์ที่น่าจดจำร่วมกันเป็นอย่างดี”