ไขข้อสงสัย ทำไมครั้งหนึ่งเราเคยเรียก GTA ว่า “

Grand Theft Auto มีชื่อเล่นสากลเรียกกันว่า “GTA” แต่สำหรับชาวไทยสมัยก่อน เคยมักเรียก GTA เล่น ๆ ขำ ๆ กันว่า “เกรียน เทพ อัตโนมัติ” หรือไม่ก็ “เกมขโมยรถ” แม้ชื่อเกมขโมยรถอาจจะดูธรรมดา ไม่มีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษ แต่ชื่อนั้นได้ติดปากคนไทยมานานช่วงหนึ่ง และชื่อขำ ๆ ดังกล่าวก็มีความหมายตรงกับที่ตัวเกมได้นำเสนอออกมาด้วย

แล้วทำไมครั้งหนึ่งเราเคยเรียก GTA ว่า “เกมขโมยรถ” และเป็นชื่อเล่นที่ดูสมเหตุสมผล บทความนี้มีคำตอบ

Grand Theft Auto กับชื่อ “เกมขโมยรถ” ที่ชาวไทยชอบเรียก

เกมเมอร์ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า Grand Theft Auto มีชื่อเล่นสากลที่เรียกกันว่า “GTA” แต่หากย้อนกลับไปในอดีต ในช่วงที่เกม GTA III, Vice City และ San Andreas กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามใน PlayStation 2 ตอนนั้น พวกเราสมัยเด็กได้ตั้งชื่อ GTA ภาษาไทยแบบขำขันกันว่า “เกรียน เทพ อัตโนมัติ” หรือไม่ก็เรียกชื่อเกมแบบง่าย ๆ ตรง ๆ เลยว่า “เกมขโมยรถ”

ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เราจะเรียกชื่อเกม GTA แบบนั้น เพราะธรรมชาติของเกมแอ็กชัน Open-World ที่มอบความอิสระให้แก่ผู้เล่น (Player Freedom) ตั้งแต่เริ่มบังคับตัวละครก้าวแรก ทำให้ผู้เล่นสามารถทำอะไร “เกรียน ๆ” ได้ทุกอย่าง ตั้งแต่การกดสูตรระเบิดรถ ใช้สูตรชาวบ้านฆ่ากันเอง หรือไม่ก็ก่อวินาศกรรม จนถึงขั้นต้องนำกองทัพมาหยุดคุณให้ได้

และแน่นอน สาเหตุที่ GTA โดนเรียกว่า “เกมขโมยรถ” เพราะสามารถขโมยรถของชาวบ้านได้เกือบทุกคัน แต่รู้หาไม่ว่า “เกมขโมยรถ” ที่คนไทยเคยชอบเรียกนั้น มันมีความหมายที่ถูกต้องด้วย

ต้นกำเนิดของชื่อ Grand Theft Auto

GTA Vice City

ย้อนกลับไปสมัยปี 1995 ตอนนั้น ทีมพัฒนาเกม DMA Design (ปัจจุบันคือ Rockstar North) กำลังพัฒนาเกมหนึ่งที่มีชื่อไม่เป็นทางการว่า “Race’n’Chase” เกมแข่งรถไล่ล่าระหว่างตำรวจกับโจรในแผนที่ขนาดใหญ่ พร้อมตั้งเป้าสุดทะเยอทะยานว่า “ต้องเป็นเกมที่สนุก ติดพัน และมีเกมการเล่นรวดเร็ว ตามฉบับเกม Racing จนรถต้องพังกันไปข้างหนึ่ง”

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการทดสอบเล่น ก็ค้นพบว่า Race’n’Chase เป็นเกมที่เล่นแล้วไม่สนุกสนานเอาซะเลย แม้ DMA Design มีความพยายามเปลี่ยนแนวทาง กับปรับปรุงเกมหลายครั้ง แต่ก็ส่งผลลัพธ์ให้การพัฒนาเกมขาดความราบรื่น ใช้เวลาพัฒนานานเกินไป และแก้ปัญหาไม่ได้ จนว่ากันว่า Race’n’Chase เกือบโดนพับลงถังขยะไปแล้ว

Race'n'chase

ภาพ Mock Up ของเกม Race’n’Chase (ไม่ใช่ภาพจากเกมจริง)

แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้น อ้างอิงจาก Gary Penn ผู้กำกับด้านรีเอทีฟของ DMA Design ในช่วงนั้น เปิดเผยเบื้องหลังการสร้างเกมผ่านสื่อ Gamasutra ว่าระหว่างการพัฒนาเกม จู่ ๆ ได้เกิดบั๊กอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ตำรวจมีพฤติกรรมดุดันราวกับ “คนโรคจิต” พวกมันไล่ล่าผู้เล่นจนสุดแผ่นดิน มันชนรถของผู้เล่นอย่างไม่ปรานี ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ Race’n’Chase กลายเป็นเกมลุ้นระทึก มีความวุ่นวาย และยากท้าทายในระดับหนึ่ง หรือหมายความว่าจากเดิมที่เป็นเกมไล่ล่าแสนน่าเบื่อ กลายเป็นเกมสนุกสนานเร้าใจทันที

ด้วยเหตุผลดังกล่าว DMA Design จึงรื้อตัวเกมแล้วสร้างใหม่เกือบทั้งหมด จากเดิมเป็นเกมเส้นตรง กลายเป็นเกมที่เปิดกว้างอิสระกว่าเดิม จากเกมแข่งรถ กลายเป็นเกมแอ็กชัน-อาชญากรรมที่สามารถเดินออกจากรถ ใช้อาวุธปืนต่อสู้กับตำรวจ และขโมยรถตามท้องถนน เพื่อหลบหนีจากการไล่ล่าจากเจ้าหน้าที่ได้

GTA 2

GTA 2

เนื่องจากแนวทางของเกมเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทีมพัฒนาจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อโครงการเกม Race’n’Chase กลายเป็นชื่อเกมทางการว่า “Grand Theft Auto” ซึ่งมีความเข้ากับธีมที่ตัวเกมต้องการนำเสนอมากกว่าชื่อเก่า

Grand Theft Auto กับเชื่อมโยง “เกมขโมยรถ”

Gta (2)

แม้ Rockstar North ไม่เคยเผยสาเหตุว่าทำไมจึงใช้ชื่อเกมว่า Grand Theft Auto แต่ถ้าหากเข้าใจความหมายของมันอย่างแท้จริง ก็พบว่าชื่อดังกล่าวนั้น มันเข้ากับธีมเกมมากเลยทีเดียว

อ้างอิงจากเว็บไซต์สำนักงานกฎหมาย Bruno Law Office คำว่า “Grand Theft Auto” ในประเทศสหรัฐฯ มีความหมายไว้ใช้สำหรับเรียกข้อหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมยานพาหนะ เช่น รถยนต์ จักรยานยนต์ โดยคำดังกล่าวเป็นประมวลกฎหมายอาญาที่ใช้ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

เนื่องจากยานพาหนะทุกคัน มักมีมูลค่าราคาสูงเกิน 950 เหรียญฯ ขึ้นไป (ราว 33,500 บาท) กฎหมายแคลิฟอร์เนียจึงบัญญัติว่าว่าการโจรกรรมยานพาหนะ เข้าข่ายเป็น “การโจรกรรมครั้งใหญ่” (Grand Theft) ซึ่งมีโทษหนักกว่าการโจรกรรมแบบลักเล็กขโมยน้อย (Petty Theft) เช่น วิ่งราว

แน่นอน Grand Theft Auto ที่แปลว่า “การโจรกรรมยานหนะ” ก็เป็นชื่อเกมที่ดูสมเหตุสมผล เพราะตลอดทั้งการเล่น GTA ผู้เล่นต้องคอยขโมยยานพาหนะจากชาวบ้าน เพื่อเดินทางจากจุด A ไป B ให้ได้รวดเร็วที่สุด และแน่นอน บางครั้งผู้เล่นต้องยอมปะทะต่อสู้กับ NPC หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขโมยรถให้สำเร็จ

Grand Theft Auto

ภาพจาก Quinnan Law

แม้ตอนนี้ Grand Theft Auto เป็นเกม Open-World ที่เน้นการออกแบบโลกในเกมอย่างมีชีวิตชีวา และนำเสนอเนื้อเรื่องผ่านตัวละครสีเทาที่ต้องใช้ชีวิตในวงการใต้ดินด้วยเหตุผลที่จำเป็น แต่การขโมยรถ ก็ยังเป็นคอร์เกมเพลย์หลัก และเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ GTA ที่สร้างมาตรฐานให้แก่เกม Open-World ธีมอาชญากรรมไปตลอดกาล

แหล่งอ้างอิง: Gamasutra, Grand Theft Wiki