แม่น้องลูกปลาเหยื่อรถแข่งกะพัง ขอช่วยเหลือหลังผู้จัดชดเชยเงินให้แค่ 1 แสน

ภูมิภาค

แม่น้องลูกปลาเหยื่อรถแข่งกะพัง ขอช่วยเหลือหลังผู้จัดชดเชยเงินให้แค่ 1 แสน

วันพฤหัสบดี ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 12.07 น.

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางลงไปบ้านของ น.ส.ลัดดาวัลย์ หีดเภา อายุ 46 ปี มารดาของนายมณฑล ชูยัง หรือน้องลูกปลา อายุ 16 ปี นักเรียนระดับชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลังเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ (3 ก.ค.) จากเหตุการณ์รถแข่ง 150 ซีซี เสียหลักพุ่งชนน้องลูกปลาซึ่งเป็นผู้เข้าชมการแข่งขัน เสียชีวิตบริเวณขอบสนามชั่วคราวในการแข่งขันมอเตอร์ไซด์ทางเรียบการกุศล กะพังสุรินทร์โรดเรซซิ่งภายในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง

น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ทางผู้จัดงานได้มอบเงินสดให้ในงานศพจำนวน 1 แสนบาท หลังจากนั้นทางผู้จัด 2 คนได้เข้ามาขอไกล่เกลี่ยครั้งที่ 1 แม่เรียกเงินเยียวยา 1 ล้าน 3 แสนบาท แต่ทางผู้จัดบอกพร้อมกับยืนกรานจ่ายให้ได้แค่ 3 แสนบาท หลังจากได้ยินคำพูดอย่างนั้นแม่รับรู้ได้ว่าเขาไม่เต็มใจที่จะชดเชยให้ และการมาไกล่เกลี่ยก็เหมือนไม่เต็มใจมาพบ มาเพื่อเพียงแค่เป็นพิธีเนื่องจากทางพนักงานสอบสวนเรียกมา ไม่รู้จะยื้อหรือประวิงเวลาในเรื่องใด แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะแม่เป็นคนที่ไม่รู้กฎหมาย

 

น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าวอีกว่า วันนี้อยากเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจริงๆ ออกมาพูดคุย ไม่ใช้เอาผู้จัด 2 คนนี้มาคุย ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร อาจจะเป็นนอมินีให้กับใครบางคน เพราะแม่เชื่อว่าคนที่จัดงานจริงๆไม่ใช้คนที่ปรากฏชื่ออยู่แน่ อยากให้ผู้ที่รู้กฎหมายช่วยเหลือ ตนเป็นชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง จะทำยังไงจะเอายังไงก็ได้ และอีกอย่างทางทีมผู้จัดก็เป็นคนมีชื่อเสียง เป็นคนใหญ่โต

 

นางมนทิรา เลี้ยงสกุล หรือแม่สาว อายุ 39 ปี แม่ของ นายกฤษฏา เลี้ยงสกุล หรือน้องกฤษ อายุ 16 ปี เพื่อนของนายมณฑล หรือน้องลูกปลา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน เปิดเผยว่า ขณะที่ลูกชายนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลทางทีมผู้จัดได้นำกระเช้าไปเยี่ยมและขอโทษ พร้อมทั้งแจ้งและรับปากว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ก็ไม่จ่าย ปล่อยให้รอเก้อ แม่ต้องเป็นคนจ่ายเอง จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยาอะไรแม้แต่บาทเดียว ซึ่งตนก็ได้ยื่นเสนอไปให้ทางผู้จัดเยียวยา 3 แสนบาท แต่กลับได้รับคำตอบว่าจ่ายให้ได้แค่ 3 หมื่นบาท แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อใดๆเข้ามา หลังจากนี้จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพราะลูกชายขาหักยังเดินไม่ได้ และมีอาการเกี่ยวกับสมอง เนื่องจากกะโหลกศีรษะร้าว โรงเรียนไม่ได้ไป 

 

อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวลืออย่างกว้างขวางว่า ผู้จัดงานตัวจริงในการแข่งรถดังกล่าว เป็นสท.รายหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันที่ก่อเหตุปัดกล้อง ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ประจำ จ.ตรัง ทำข่าวเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีการให้นอมินีคนอื่นมาเป็นผู้จัดแทนเนื่องจาก สท.รายดังกล่าวมีตำแหน่งทางการเมือง ทำให้ติดในระเบียบข้อบังคับไม่สามารถขอจัดเองได้

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่