Motor Sport Sponsored

เที่ยวเมืองสามหมอก ลุยรับหนาว 5 วัน 4 คืน เปิดทริปตะลอนสไตล์คนโสด

Motor Sport Sponsored
Motor Sport Sponsored

ท้าลมหนาว สัมผัสทะเลหมอก จ.แม่ฮ่องสอน เที่ยวคนเดียวยังไงให้สนุกตามประสาคนโสด นั่งเครื่อง-เช่ารถ ตะลอนจากตัวเมืองสู่ปาย ย้ายมาจ่าโบ่ โยกมาบ้านรักไทย “5วัน 4 คืน”

หน้าหนาวทั้งทีต้องไปแล้ว ไปกันเถอะ ไปแอ่ว จ.แม่ฮ่องสอน ดินแดนที่สมญานามว่า “เมืองสามหมอก” เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน อากาศจึงค่อนข้างมีหมอกปกคลุมตลอดเวลา “เมืองสามหมอก” จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ปักหมุดมาเที่ยวซักครั้งในชีวิต เรื่องการเดินทางนั้นไม่ยาก แต่การที่จะไปกับใครนี่แหละสำคัญกว่า บางคนเพื่อนว่างตรงกันก็จัดไป บางคนควงแขนแฟนไปสวีทกิ๊ดกิ้ววว แล้วไปคนเดียวละไปได้มั้ย คำเดียว ไปโล้ดดดเลยจ้า

รวมที่เที่ยว “อุทยานแห่งชาติ” กางเต็นท์สัมผัสสายหมอก ชมทะเลดาวยามค่ำคืน

“ดอกศิลาวารี” ดอกไม้พันธุ์หายาก ออกดอกรับหนาว ที่คลองชมพู

อุปสรรคของการเที่ยวคนเดียวไม่ใช่ปัญหา หลายคนโสด หรือไม่โสดก็อาจชอบแบบนี้ บอกเลยเฟี้ยวสุด พรรณนาจนน้ำท่วมทุ่งไปนาน เริ่มกันเลยดีกว่า ทริปตะลุยเมืองสามหมอกครั้งนี้ วางแผนคร่าวๆ ว่าเอาให้สุด 5 วัน 4 คืน ต้องเที่ยวให้ได้มากที่สุด เริ่มเล่อออ ทริปนี้เลือกนั่งเครื่องบินไป เนื่องด้วยเวลาจำกัด สายการบินที่บินลง จ.แม่ฮ่องสอน ก็มีอยู่สายการบินเดียว เพื่อนๆ ต้องแอบวางแผนดีๆ นะ…

วันแรกของการเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 20 นาที เวลาบ่ายนิดๆ ก็ถึงเมืองแม่ฮ่องสอนแล้ว ประเดิมด้วยการเข้าที่พัก ล้างหน้าล้างตาซะหน่อย นอนสบายที่เกสท์เฮาส์ในเมือง ใกล้ถนนคนเดิน เพราะค่ำๆ ท่องราตรีได้สบายๆ อ่ะใช้เวลาพักผ่อนร่างให้พอหายเหนื่อย หาเช่ามอเตอร์ไซด์ด่วนๆ แวะไปวัดจองคำ -วัดจองกลาง สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเมืองไทใหญ่ เพราะวัดแฝดที่ตั้งอยู่ในกำแพงเดียวกัน ตั้งอยู่ข้างหนองจองคำ เราสามารถเห็นภาพสะท้อนน้ำที่สวยงามได้ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน เกือบลืมบอกไป อากาศช่วงนี้ในไม่ร้อนมาก แต่ก็แอบมีแดดนิดหน่อย มีลมเบาปะทะผิวกาย

มาต่อกันที่ วัดพระธาตุดอยกองมู วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนดอยกองมู ขับมอเตอร์ไซด์ขึ้นดอยไม่ยาก แวะสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลกันหน่อย ที่สำคัญจุดนี้เราสามารถเห็นวิวได้แบบ 180 องศา รวมถึงได้เห็นพระอาทิตย์อัสดงท่ามกลางขุนเขานับสิบๆ ลูก

ท้องเริ่มร้อง ก็บึ่งรถมาเลยจ้า ณ ถนนคนเดินหนองจองคำ ร้านค้าเพียบ อาหารแน่น พ่อค้าแม่ขายตั้งร้านรอให้เรามาเลือกซื้อเลือกหาได้ตามใจชอบ บรรยากาศฟินสุดๆ อาหารก็อร่อย เพลิดเพลินจนลืมว่าอ้วนเด้อ!!! เอาละหมดไป 1 วัน เก็บพลังตะลุยในเช้าวันพรุ่งนี้กัน

เข้าสู่เช้าวันที่ 2 ก่อนออกเดินทาง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แวะไปตลาดสายหยุด ตลาดในเมืองแม่ฮ่องสอน ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองที่ใครมาต้องห้ามพลาด นั่นก็คือ “ถั่วพูอุ่น” อาหารพื้นเมืองของชาวไทใหญ่ เห็นครั้งแรก งงซิงง อิหยังว่ะ เอ้าสั่งก็สั่ง ใครไปใครมาเขาสั่งกันทั้งนั้น บอกตัวเองมาทั้งทีต้องลอง เจ้าถั่วพูอุ่น ระหว่างนั่งรอก็ถามแม่ค้าว่ามันทำมาจากอะไร แม่ค้าก็ไม่รีรอ อธิบายโดยด่วน จากที่จับใจความได้ คือ มันมีลักษณะคล้ายซุปข้นๆ ทำจากถั่วลูกไก่ แต่ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว และก็ยอดถั่วลันเตาลวกลงไป จากนั้นโรยหน้าด้วยข้าวแรมฟืนทอด ต้นหอม ผักชี และกระเทียมเจียว ชิมซิ…ว้าว!! รสชาติหวานมัน อร่อยไปอีกแบบ เวลายังเหลือ ไปเยือนหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว สัมผัสวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ตามที่วางไว้

ได้เวลาออกเดินทาง ทริปนี้วางแผน คือ ขึ้นเครื่องไป-กลับที่แม่ฮ่องสอน เลยต้องเช่ารถยนต์ไปตามจุดปลายที่วางแผนไว้ มุ่งหน้าสู่ อ.ปาย เปิด Map บอกว่า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ระยะทางก็ประมาณร้อยกิโลเมตร เราก็คิดว่าแปปเดียว ที่ไหนได้ ที่เขาบอกว่ากิโลแม้ว มันใช่เลย โค้งเพียบ ทั้งขึ้นเขา ลงเขา สุดไปเล๊ยยย แนะนำว่าถ้าใครขับรถไม่แข็ง ขอให้จ้างคนขับด้วยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน กว่าจะถึงเอาซะเกร็งไปทั้งตัว สรุปใช้เวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมงกว่าจะถึง แต่ก็คุ้มจริงๆ ถึงที่พัก (จองไว้ไม่ห่างถนนคนเดินมาก แค่ปั่นจักรยานมาแปปเดียว) วิวดีสุดๆ นาข้าวสีเหลืองทองอร่าม รวงข้าวตั้งท้องพร้อมให้เก็บเกี่ยว ขอไปนั่งชิวที่กระต๊อบปลายนาก่อนเถอะ

แสงอาทิตย์เริ่มจางหาย ได้เวลาออกท่องราตรีที่ถนนคนคนเดิน โอ้วววโหหห ฝรั่งเพียบ!! Hello Hi แสงสียามค่ำคืนที่ปายมันดีจริงๆ จะเลือกกินไปด้วยเดินไปด้วยก็ได้ จะนั่งร้านเสพบรรยากาศเพลินก็ดี

ยังไงละ อากาศที่ปาย ขอบอกเลยว่าตั้งแต่ช่วงเย็นๆ ตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป เปิดดูแอปฯ คุณพระ 21 องศา มืดลงมาอีกนิด 17-19 องศาไปเลยจ้าาา ไม่ไหวจะนั่งอยู่ได้ ขอนำพาตัวเองเข้าห้องพัก เพราะพรุ่งนี้ตั้งเป้าเจอทะเลหมอกให้ได้ 

เวลา 05.00 น. โอ้ววเย็นเฉียบ 16 องศา เบาๆ ยอมตื่นเช้านิด ขับรถไปชมทะเลหมอกหยุนไหล หมู่บ้านสันติชน พอถึงลานจอด ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก สอบถามเราว่านั่งรถที่ชาวบ้านแถวนั้นคอยขับบริการพาขึ้น ค่าบริการไม่แพง ไอ้เราก็ถามว่าไกลไหม พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า 2 กิโลเมตร (ในใจนี่คิดแล้ว 2 กิโลเมตรไม่มีอยู่จริง ซึ่งมันก็จริงด้วย) ทางที่นั่งรถไปชันๆ มาก จับให้แน่น ไม่เกิน 10 นาทีก็มาถึงจุดหมาย 

ไม่เสียแรงที่ตื่นเช้าจริงๆ ทะเลหมอกเริ่มเคลื่อนเข้ามา ถูกรายล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ ของจริงไม่จกตา ดื่มด่ำให้สุด เก็บภาพรัวๆ สำหรัลคำว่าหยุนไหล เป็นภาษาจีนกลาง หมายถึง แหล่งที่เมฆไหลมารวมกัน สามารถชมได้ทั้งฤดูฝนและฤดูหนาว ตรงจุดชมวิว ทำเป็นระเบียงชมวิว กับจุดถ่ายภาพน่ารักๆ แถมยังมีบริการเครื่องดื่มชาร้อนใส่มาในกาน้ำร้อน ให้จิบไปชมวิวไปได้ การมาชมจุดชมวิวที่นี่ เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาทเท่านั้นเอง เต็มอิ่มกับวิวเต็มๆ แล้วก็ถึงเวลานั่งรถลงมา หน้าชาไปเลย เลือกนั่งท้ายกระบะ ปะทะทั้งลมทั้งหมอกเต็มๆ ลงมาถึงข้างล่าง ที่นี่เค้าก็มีจุดให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมชาวจีนยูนาน เลือกซื้อของฝากได้ตามใจชอบ 

ข้อแนะนำสำหรับการมาชมทะเลหมอก คือ เวลาประมาณ 6.00-8.00 น. 

กลับมาที่พัก พักผ่อนนิดหน่อย เช็กเอาท์ ไปต่อๆ อ.ปาย ยังมีอีกหลายที่รอเราอยู่ไม่ว่าจะเป็น วัดพระธาตุแม่เย็น หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว ปายแคนยอน หรือกองแลน ที่เกิดจากการที่ดินทรุดตัวบนภูเขาสูง และถูกกัดเซาะเป็นร่องลึกคล้ายหน้าผา ต่อกันเป็นบริเวณกว้าง เลยทำให้เกิดเป็น ปายแคนยอน

มุ่งหน้าต่อไปที่บ้านจ่าโบ่ อ.ปางมะผ้า หมู่บ้านเล็กๆ ที่ขอนำเสนอ เป็นหมู่บ้านที่โครตชิว ธรรมชาติยังคงอยู่ ทุกทิศทุกทางถูกโอบล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ อากาศเย็นสบาย เรียกได้ว่าถูกปรุงแต่งน้อยมาก ที่บ้านจ่าโบ่ ส่วนใหญ่ไฮไลท์จะอยู่ที่ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา เพราะความพิเศษของมันอยู่ที่ กินไป ชมทะเลหมอกที่ลอยมาอยู่ตรงหน้าเรา ฟินสุดๆ แต่ถ้าสายคาเฟ่ ก็ไม่ต้องผิดหวัง เพราะที่นี่ก็มีร้านคาเฟ่น่ารักๆ ให้เราได้แชะ ชิว ชิม ตามสไตล์ชิคๆ

บ้านจ่าโบ่ ขอบอกว่า อากาศดีเว่อร์วังมาก ไม่เกิน 19 องศา ต้องใส่ถุงเท้านอนกันเลยทีเดียว เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีที่สุด คือ เครื่องทำน้ำอุ่น เท่านั้น บรรยากาศช่างสุดแสน โรแมนติก แต่ติดว่ามาคนเดียว ฮาๆๆ ไม่สน โนว์แคร์ มืดๆ ปุ๊ปเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดสนิท เอ๊ยยย นี่มันทะเลดาว ดวงดาวนับร้อยนับพัน ส่งแสงกระจายทั่วนภา บอกเลยต้องมาเห็นกับตาเท่านั้น นั่่งตรงระเบียบไม่นาน ร่างกายเกินต้านกับอากาศที่เย็น ขอเข้าไปนอนซุกผ้าห่ม ก่อนพรุ่งนี้จะไปบ้านรักไทย 

 

ตะลอนกันต่อกับบ้านรักไทย ขับลัดเลาะทิวเขามาเรื่อยๆ เหนื่อยๆ เมื่อยๆ ก็จอดแวะได้ เพราะตลอดเส้นทาง มีจุดให้เราได้ลงมายืดเส้นยืดสาย คลายความล้า สบายอุรากับการซื้อของฝากพื้นบ้านจุกๆ หรือจะถ่ายรูปเก็บความทรงที่ดอยกิ่วลมก็ยังได้ ขับรถไปอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว บ้านรักไทย มาถึงทั้งที ขอกินอาหารขึ้นชื่อซะหน่อย ขาหมูหมั่นโถว ขาหมูแบบนุ่มๆ หมั่นโถวร้อนๆ เริศมากเพ่!

บ้านรักไทย ในช่วงนี้ใครจะมา ขอบอกว่าต้องจองที่พักล่วงหน้า แบบล่วงหน้าจริงๆ เพราะที่นี่ที่พักเต็มยาว บางที่ห้องถูกจองไปถึงเดือนกุมภาพันธ์นู้นนน แต่มาครั้งนี้ได้ที่พักฝั่งเขื่อน เพราะตกกลางคืน เราจะได้ดื่มด่ำกับแสงไฟจากที่พักบริเวณเนินเขา สะท้อนกับผืนน้ำ ขอ 3 คำ “มัน สวย มาก” ส่วนอากาศที่นี่ไม่ต้องพูดถึงน้ำค้างลงตั้งแต่ทุ่มนิดๆ ของนั่งทอดกายกับเสื้อหนาว สูดบรรยากาศให้เต็มปอด ก่อนพรุ่งนี้ต้องจากลา 

มอนิ่ง!!! เช้าแห่งความสดชื่น แม้จะไม่ได้เห็นไอหมอกลอยบนผิวน้ำ แต่ความเย็นไม่แพ้ที่ไหน ออกไปนั่งจิบชาชมวิวอีกซะหน่อย ส่วนใหญ่ที่นี่นิยมสั่งชาอู่หลง กับชายอดน้ำค้าง ค่อยๆ จิบ ปล่อยหัวสมองแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก

เผลอแปปเดียวนั่งเพลินไปหน่อย ต้องรีบเก็บเสื้อผ้า มุ่งหน้าเข้าเมือง แต่ไฟล์ทบ่ายแก่ๆ ก็ยังพอมีเวลาให้เราแวะได้อีกซักที่ สองที่ ทั้งปางอุ๋ง ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทย และสะพานซูตองเป้ สะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจกันของพระภิกษุสงฆ์ และชาวบ้านหมู่บ้านกุงไม้สัก ที่ช่วยกันสานไม้ไผ่เป็นแผ่นทอดยาวข้ามทุ่งนา

ปิดทริปท่องเมืองสามหมอก หรือ จ.แม่ฮ่องสอน ใครที่ยังไม่มีแพลนไปเที่ยวไหน จังหวัดนี้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้มาสัมผัสความเป็นธรรมชาติ วิถีชีวิตผู้คน มาซักครั้งแล้วจะติดใจ หลีกหนีความวุ่นวาย แล้วมาเอนกายกันเถอะ

ไม่พลาดทุกเหตุการณ์ติดตามข่าวจาก PPTV ได้ที่ Subscribe

Motor Sport Sponsored
แข่งรถ รถแข่ง

การแข่งรถ (หรือเรียกว่าแข่งรถยนต์ หรือ รถแข่ง) เป็นมอเตอร์สปอร์ตที่เกี่ยวข้องกับการแข่งโดยใช้รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ รถจักรยาน สำหรับการแข่งขัน

This website uses cookies.