เจาะลึกวิถี “พนักงานส่งพัสดุ” BEST Express

เจาะลึกวิถี

มากกว่า 875 อำเภอ ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย ที่พนักงานส่งพัสดุ หรือ Courier (คูเรียร์) ในแต่ละพื้นที่ออกปฏิบัติงานนำส่งและเข้ารับพัสดุตั้งแต่เช้ามืดจนถึงเย็น ด้วยปริมาณพัสดุประมาณการต่อปี (รวมทุกค่าย) กว่า 2 พันล้านชิ้น สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศอย่างมหาศาล รวมถึงสร้างโอกาสในหน้าที่การงานของพนักงานส่งพัสดุทั่วประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงทำให้บริษัทขนส่งทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างต้องเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งด้านบริการและคุณภาพเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการและสร้างความประทับใจกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด

BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) หนึ่งในแบรนด์บริษัทโลจิสติกส์ ที่ให้บริการรับ-ส่ง พัสดุด่วนทั่วไทย มีสาขาให้บริการกว่า 1,200 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ และดำเนินธุรกิจการบริหารงานในรูปแบบแฟรนไชส์ 100% ภายใต้การดูแลของบริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่าถึงภาพรวมวิถีการปฏิบัติงานของ “พนักงานส่งพัสดุ” ในแต่ภูมิภาคว่า การออกปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานส่งพัสดุในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ทั้งในช่วงของเวลาการจัดส่งและการเข้ารับ รวมถึงการใช้ยานพาหนะในการเข้ารับและจัดส่ง ขึ้นอยู่กับปริมาณพัสดุ ขนาดพัสดุ สภาพภูมิประเทศ สภาพการจราจร และสภาพอากาศ ซึ่งต้องมีการวางแผนล่วงหน้าในการออกปฏิบัติงานทุกวันอยู่เสมอ เพื่อลดความผิดพลาดและทำงานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น

คุณธนสิทธิ์ เพิ่มพูน พนักงานส่งพัสดุ (คูเรียร์มอเตอร์ไซต์) ประจำ BEST Express สาขานวลจันทร์ กรุงเทพฯ ได้เล่าถึงการปฏิบัติงานในพื้นที่รับผิดชอบนำส่งพัสดุว่า “ผมมีพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่ซอยรามอินทรา 40 ประเสริฐมนูกิจ 27, 29 ประเสริฐมนูกิจฝั่งคู่-คี่ และลาดปลาเค้า จะวิ่งส่งพัสดุจากใกล้ไปไกล ตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึงบ่าย 3 ส่งพัสดุมากกว่า 70 ชิ้นต่อวัน เคยส่งพัสดุชิ้นใหญ่ที่สุดคือกระสอบผ้าหนักเกือบ 60 กิโลกรัมนำใส่ท้ายรถ โดยลูกค้าเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสอง ผมได้ช่วยขนพัสดุไปส่งถึงหน้าห้องให้ลูกค้า ปัญหาหลักในช่วงที่ผ่านมาคือ ฝน หากตกน้อยจะหาผ้ามาคลุมพัสดุและใส่เสื้อกันฝนส่งต่อไป แต่ถ้าตกหนักต้องโทรแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าไม่สามารถนำส่งได้ ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจ ทุกครั้งก่อนส่งพัสดุจะโทรหาลูกค้าให้ติด ให้ลูกค้ารับ พยายามแจ้งลูกค้าให้ได้ว่าจะเอาของไว้ตรงไหน หรือลูกค้าให้วางตรงไหน โดยเราก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้าได้รับพัสดุของเราให้รวดเร็วที่สุด”

คุณนิติกุล ปัทวัง พนักงานส่งพัสดุ (คูเรียร์รถกระบะตู้ทึบ) ประจำ BEST Express สาขาขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ได้เล่าถึงประสบการณ์ในการนำส่งพัสดุว่า “ในพื้นที่ห่างไกลหรือถิ่นทุรกันดาร จะมีอุปสรรคในการขนส่ง ถ้าเป็นหน้าฝนยิ่งลำบาก รถเข้าถึงยาก ถ้าลูกค้าไม่รับสาย และเราไม่รู้จักบ้านลูกค้า ก็จะแก้ปัญหาด้วยการโทรหาผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยบอกทางไปบ้านลูกค้า ลูกค้าหลายคนดีใจและชมว่าทำไมมาส่งเร็ว เพิ่งสั่งเมื่อวาน เพราะพวกเราส่งพัสดุวันต่อวัน พยายามส่งให้เต็มที่ อยากส่งลูกค้าให้ทันทุกวัน”

และอีก 1 ตัวอย่างที่น่าสนใจจากพนักงานส่งพัสดุ (คูเรียร์มอเตอร์ไซต์) BEST Express สาขาบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพราะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลการขนส่งพัสดุค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมและพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขนส่ง โดยเฉพาะการส่งไปตามเกาะต่าง ๆ ด้วยความตั้งใจของเบสท์ เอ็กซ์เพรส ที่พยายามส่งพัสดุให้ได้เร็วที่สุด จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคและปรับวิธีการส่งตามสภาพท้องถิ่น คุณบุญริทธิ์ โสภา พนักงานส่งพัสดุ สาขาบางละมุง เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี กล่าวถึงวิธีการทำงานอย่างท้าทายว่า “ส่งพัสดุไปที่เกาะ 3 วันต่ออาทิตย์ ด้วยตัวคนเดียว ต้องมาขึ้นเรือตอน 7 โมงเช้า ถึงเกาะ 8 โมงแล้วแยกพัสดุนำขึ้นรถซาเล้ง และเริ่มส่งพัสดุตั้งแต่ 9-10 โมงเช้า ซึ่งใช้เวลาส่งพัสดุประมาณ 1-2 ชั่วโมง พัสดุที่ส่งมีทั้งชิ้นเล็กและใหญ่ เช่น ประตู โต๊ะ เบสท์ เอ็กซ์เพรส ก็ส่งได้ แต่ด้วยพื้นที่บนเกาะมีความยากต่อการส่ง เพราะจะมีตรอกซอยเยอะ และลูกค้าบางคนก็เปลี่ยนที่อยู่ บางคนลงบ้านเลขที่ผิด จึงต้องโทรเช็คก่อนส่งพัสดุทุกครั้ง เพื่อให้การส่งของให้ลูกค้าถูกต้องและครบถ้วนอยู่เสมอ”

พนักงานส่งพัสดุ หรือคูเรียร์ BEST Express ทุกพื้นที่ทั่วไทย มีความตั้งใจเดียวกัน คือ มุ่งมั่นที่จะส่งพัสดุทุกชิ้นให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว ครบถ้วน และปลอดภัย เพราะถือเป็นจรรยาบรรณในการบริการของเรา สำหรับผู้สนใจใช้บริการส่งพัสดุด่วน BEST Express คลิกที่นี่ https://www.best-inc.co.th/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 02-108-8000 หรือคลิกลิงก์ที่นี่ http://nav.cx/yKWubHS