เงินบาทเปิด 35.34 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดรอรายงานประชุมเฟด-ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐ : อินโฟเควสท์

ข่าวเศรษฐกิจ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.34 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.52 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากเย็นวาน สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เดือนก. ค. ออกมาแบบผสม คือ มีทั้งดีกว่าที่ตลาดคาด และแย่กว่าที่ตลาดคาด โดยในส่วนของตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค. ลดลงต่ำสุด ตั้งแต่ ก.พ.64 ในขณะที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ส่งผลให้บาท ปรับตัวแข็งค่า

“เมื่อคืนนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแบบผสม ทั้งผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และตัวเลขบ้าน ทำให้ดอลลาร์ย่อตัวลง ส่ง ผลให้บาทแข็งค่า ด้านสกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่ก็แข็งค่าเช่นกัน”

นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.30-35.50 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ รายงานการประชุมเฟดรอบเดือนก.ค. และตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ

THAI BAHT FIX 3M (16 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.71597% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.81266%

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.19 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 134.10 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0173 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0130 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.412 บาท/ดอลลาร์

– ธปท. เตรียมออกมาตรการใหม่ “สินเชื่อปรับตัว” คาดวงเงิน 6.5 หมื่นล้าน รองรับขอกู้ “เอสเอ็มอี” เพียงพอ หวัง ช่วยลูกหนี้ พลิกฟื้นธุรกิจหลังโควิด-19 ชี้ปัจจุบันมีลูกหนี้ขอเข้าโครงการช่วยเหลือพุ่ง เหตุต้นทุนพุ่ง

– “แบงก์ชาติ” เปิดรับฟัง ร่างฯ คุมธุรกิจลีสซิ่งไม่ให้ดอกเบี้ยสูงเกินไป “บล.หยวนต้า” ชี้ดบ.เช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ใหม่ หากต่ำกว่า 26% กดดัน “ศรีสวัสดิ์” มากที่สุด แต่เชื่อ ธปท.รับรู้ต้นทุนไม่กำหนดต่ำจนธุรกิจไม่รอด หากเคาะเพดานดบ.ชัดเจนเป็นสัญญาณ เชิงบวกหุ้นไฟแนนซ์

– ธปท. โชว์ผลงานธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ฟันกำไร 6.47 หมื่นล้าน โต 7.2% ชี้ปล่อยสินเชื่อยังโตต่อเนื่องที่ 6.3% ส่วนหนี้เสียลดมาอยู่ที่ 5.27 แสนล้าน มองขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่ทำให้หนี้เสียเพิ่มขึ้น

– ครม.เห็นชอบแนวทางมาตรการ Quick Win และมาตรการต่อเนื่อง แก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ

– รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ที่จะเริ่มวันที่ 5 ก.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะ มีการเพิ่มหน่วยงานเข้ามาช่วยตรวจสอบคุณสมบัติมากขึ้น จากครั้งก่อน มี 23 หน่วยงาน เพิ่มเป็น 47 หน่วยงาน เพื่อเพิ่มความแม่นยำใน การระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และป้องกันไม่ให้คนจนตัวปลอมเข้ามาได้รับสิทธิ

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 9.6% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.446 ล้าน ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.540 ล้านยูนิต โดยได้รับผลกระทบ จากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และราคาวัสดุก่อสร้าง

– การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากทรงตัวในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ ตัว เลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค

– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (16 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค. ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทาง อัตราดอกเบี้ยของเฟด

– สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,789.7 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (16 ส.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทน พันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด

– นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ชะลอตัวลง ในเดือนก.ค. และถือเป็นข้อมูลในเชิงบวกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 3 ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าว ต่ำกว่าระดับ 2.5% ที่มีการระบุก่อนหน้านี้

– ผลการศึกษาของ Merchant Machine ซึ่งเป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบการชำระเงินพบว่า สหรัฐเป็นประเทศที่มีการ ใช้คริปโทเคอร์เรนซีสูงสุดในโลก ขณะที่ไทยติดอันดับ 5

– ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ลงนามบังคับใช้กฎหมายลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) ซึ่งประกอบ ด้วย เงินงบประมาณลงทุน 4.3 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ, มาตรการที่จะทำให้ยาตามใบสั่งแพทย์มี ราคาถูกลง และการเก็บภาษีขั้นต่ำ 15% สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ที่ทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งจะสร้างรายได้ใหม่มากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 65)

Tags: ค่าเงินบาท, เงินบาท