วันที่ 23 ก.พ. นายวุฒิพงศ์ เอี่ยมบุญก่อ อายุ 52 ปี ชาวตำบลหงาว อ.เมือง จ.ระนอง ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ตนเองถูกทำร้ายร่างกายจากผู้บริหารเทศบาลและพวกในพื้นที่ โดยได้มีการแจ้งความและร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมไว้แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจและเกรงจะเกิดอันตรายกับตัวเองและครอบครัว
นายวุฒิพงศ์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานที่เทศบาลตำบลหงาว มานานกว่า 8 ปี ในตำแหน่งพนักงานดับเพลิง ในช่วงหลังได้รับคำสั่งให้ไปทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับนายกเทศมนตรี ตนได้พูดคุยกับปลัดเทศบาลว่า อยากจะขอย้ายตำแหน่งจากพนักงานดับเพลิงมาเป็นพนักงานขับรถ เนื่องจากมีปัญหาที่ต้องดามเหล็กที่ขาทั้งสองข้าง โดยทางปลัดก็เห็นชอบและมีคำสั่งออกมา จนกระทั่งมีการเลือกตั้งและได้ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่
ทางนายกเทศมนตรีได้มีคำสั่งให้ตนกลับไปปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานดับเพลิงเหมือนเดิม ต่อมาได้มีคำสั่งให้ตนไปปฏิบัติงานกวาดขยะริมถนน ซึ่งตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ไปทำหน้าที่ตามคำสั่งนั้นจนกระทั่งสุดท้ายได้มีคำสั่งให้ตนไปปฏิบัติหน้าที่เป็นคนงานตัดหญ้า ตนจึงได้ขอลาออกจากพนักงานเทศบาล
นายวุฒิพงศ์ เล่าต่อว่า ตนได้พยายามพูดคุยกับปลัดเทศบาลถึงสาเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันดีๆ สักครั้ง โดยทางเขามองว่าตนกำลังไปหาเรื่องจนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในขณะที่ตนกำลังขับรถกระบะไปซื้อของที่ตลาดบ้านหงาว พร้อมกับมารดาอายุ 72 ปี ตนได้จอดรถไว้ข้างทาง โดยให้มารดานั่งรออยู่บนรถ แล้วตัวเองลงไปเอาปลาที่สั่งไว้ที่แผงริมทาง ในขณะนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ 3 คันขับมาในจุดที่ตนจอดรถ
รถคันหนึ่งขับมาโดยรองนายก โดยมีนายกเทศมนตรีนั่งซ้อนท้ายมาด้วย และอีกคันหนึ่งเป็นรถของปลัดเทศบาลโดยทั้ง 2 คันได้มาจอดขวางหน้ารถกระบะของตนเอาไว้ และอีกคันหนึ่งเป็นรถของญาติพี่น้องของรองนายกซึ่งมาพร้อมกับนักเรียนชายคนหนึ่ง ทราบว่าเป็นลูกชายของปลัด โดยทั้ง 4 คนได้เดินเข้ามาพูดกับตนว่ามีปัญหาอะไร ในขณะที่นายกเทศมนตรีนั่งดูเหตุการณ์อยู่บนมอเตอร์ไซค์
นายวุฒิพงศ์ เล่าอีกว่า หลังจากได้พูดคุยกันไม่เกิน 2 นาทีก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่งเข้ามาล็อกคอตนทางด้านหลัง ในขณะที่อีก 4 คนก็เริ่มลงมือรุมทำร้ายตน จนกระทั่งมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาห้ามแล้วบอกว่าอย่ารุมกัน หลังจากแยกออกมาแล้ว ก็พบว่าตนได้รับบาดเจ็บ มีเลือดไหลบริเวณหว่างคิ้ว ดั้งจมูก และหางตาขวา ตนจึงได้ขับรถกระบะไปแจ้งความที่ สภ.ราชกรูด ทั้งที่ยังมีอาการมึนงงและแว่นสายตาก็แตกหักเสียหายไปแล้ว โดยทาง พ.ต.ต.สุรศักดิ์ จินตนา สว.สืบสวน สภ.ราชกรูด ได้รับแจ้งความเบื้องต้นและออกเอกสารให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
“วันนี้ผมได้ไปที่สถานีตำรวจอีกครั้ง ทางตำรวจได้นัดให้มาอีกรอบหนึ่งในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เพราะต้องการให้ผมไปเรียบเรียงข้อมูลให้สอดคล้องกับกล้องหน้ารถอีกครั้งหนึ่ง ผมจึงได้เข้าไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมต่อรองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เพื่อให้ทางจังหวัดได้รับทราบข้อมูลก่อนที่จะเดินทางมาพบกับผู้สื่อข่าว เพราะต้องการให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้องและเป็นธรรม อีกทั้งมีความหวั่นเกรงต่ออิทธิพลในพื้นที่ เพราะที่บ้านมีเพียงแม่ ภรรยา และน้องสาว ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้หญิง ส่วนร่างกายผมก็ไม่ได้สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนคนปกติ เพราะต้องดามเหล็กที่ขาทั้งสองข้างอยู่ด้วย อีกทั้งมองว่าการที่ปลัดเทศบาลพาลูกชายซึ่งยังเป็นนักเรียนมาร่วมทำพฤติกรรมแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควร”
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ พ.ต.ต.สุรศักดิ์ จินตนา สว.สืบสวน สภ.ราชกรูด เพื่อสอบถามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งหากมีความคืบหน้าอย่างไรนำมารายงานให้ทราบต่อไป