หนุ่มโชว์พญานาค หลังปิดเงียบมานาน 5 ปี เผยบูชาแล้ว ทำให้ชีวิตดีขึ้น – ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต – หนุ่มภูเก็ตโชว์พญานาค หลังเก็บเงียบมานานกว่า 5 ปี เผยตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อมาอยู่ด้วยและบูชาแล้ว ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 135/85 หมู่บ้านศรีสุชาติแกรนด์วิว 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านของนายกิตติศักดิ์ มากี อายุ 41 ปี เจ้าของซากสัตว์ที่ระบุว่าเป็นพญานาค โดยภายในบ้านได้ตั้งโต๊ะหมู่บูชาพร้อมเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ และยังมีภาพถ่ายพญานาคที่ใส่กรอบไว้ นอกจากนี้ยังมีการนำวัตถุลักษณะคล้ายซากสัตว์ส่วนหัวมีหอนปลายแหลมคล้ายพญานาคเลี่ยมใส่กรอบและห้อยคออยู่ตลอดเวลา นำมาให้ทางผู้สื่อข่าวได้ดู พร้อมระบุว่า เรื่องดังกล่าวได้เก็บเป็นความลับมา 5 ปี ตอนแรกก็ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ แต่หลังจากที่ได้บูชาก็ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยก่อนหน้านี้ทำงานเป็นลูกจ้างที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และการใช้ชีวิตก็ไม่ได้สะดวกสบายแต่อย่างใด

นายกิตติศักดิ์ มากี กล่าวว่า ก่อนที่จะได้ซากพญานาคมาครอบครอง เกิดนิมิตว่าท่านมาขออยู่ด้วย แต่ในนิมิตนั้นมาเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 35-40 ปี ผิวขาว มาบอกว่า “เราจะมาขออยู่ด้วยนะ เราชื่ออนันตนาคราช” ตอนแรกก็ไม่เชื่อ คิดว่าฝันลมๆแล้งๆ และคิดว่ามันไม่น่าจะมีจริงหรอก เพราะโดยตามปกติแล้วไม่เคยเห็นพญานาคของจริง และไม่เคยเห็นของจริงที่เป็นแบบนี้ หลังจากนั้นก็ผ่านไปประมาณ 4-5 วัน ท่านก็ได้มาหาอีกเป็นครั้งที่ 2 ในคืนที่ฝนตกหนักมาก ก็เป็นผู้ชายเหมือนเดิม แล้วท่านก็บอกว่า “เรามาอยู่กับเธอแล้วนะ เรามาอยู่แล้ว”ซึ่งตนเองก็ยังคิดอยู่ว่าจะมาอยู่ยังไง แล้วพอตอนเช้า ขณะจะไปทำงานตามปกติ พอเปิดประตูบ้านมาก็กลิ่นคาวคละคลุ้งเต็มหน้าบ้านไปหมด ตอนแรกคิดว่าใครเอาปลาหรืออะไรมาโยนไว้หน้าบ้าน และได้เดินตามหากลิ่นคาว ว่าถ้าเกิดจากอะไรจะได้เอาไปทิ้ง หรือว่าจะได้ดูว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ก็หาไม่เจอ

จึงไปขึ้นค่อมรถมอเตอร์ไซด์เพื่อที่จะสตาร์ทรถไปทำงาน และเห็นว่ามีสัตว์บางชนิดรูปร่างลักษณะคล้ายกับพญานาค เป็นงูมีหงอน ผิวกายมีเมือกลื่นๆ และมีกลิ่นคาวคละคลุ้ง มาเกาะอยู่ที่หน้าไมล์รถจักรยานยนต์ ตอนแรกยังไม่เชื่อว่าเป็นพญานาค แต่เห็นว่าผิวกายมีเมือกลื่นๆมีน้ำเต็มกายไปหมด ด้วยความสงสัยจึงเอามือไปจับดูว่าสิ่งๆนี้คืออะไร ทำไมจึงมาเกาะอยู่บริเวณหน้าไมล์รถมอเตอร์ไซด์ และสิ่งที่ตนเองจับอยู่ มันมีเหตุอัศจรรย์ใจอย่างหนึ่ง คือเมื่อตนได้หยิบจับกายของท่านแล้ว ตอนนั้นท่านยังมีหางอยู่ แล้วหางของท่านเกิดขาด แต่หางนั้นไม่ได้หายไปไหน แต่สลายหายไปต่อหน้าต่อตา พอหยิบจับขึ้นมาทำให้ตนเองมีความเชื่อว่าสิ่งนี้คือ พญานาคแน่นอน สิ่งนี้ต้องเป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างแน่นอน หลังจากนั้นตนได้เก็บท่านไว้บนพานหิ้งที่บ้านทำขัน 5 รับ ตามความเชื่อว่าท่านพญานาคมาอยู่ที่บ้าน เพื่อรับท่านให้มาเพื่อเป็นมงคลขึ้นกับตัวเอง

หลังจากนั้นได้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นเรื่อยๆ คือ ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตนก็ไม่คิดไม่ฝันว่ากายของท่านเมื่อมาอยู่กับตน 5 ปีกว่ากายของท่านจะไม่เน่าไม่เปื่อย ตอนแรกคิดว่าน่าจะแห้งไปตามปกติ หรือไม่ก็เน่าสลายไปประมาณนี้ แถมบางเวลาผิวกายท่านขึ้นเป็นขาวๆบางทีก็มีเหมือนไอน้ำขึ้นมาเกาะที่กายท่านจนผิวกายเปล่งปลั่งสลับแบบนี้มาตลอด ระยะเวลา 5 ปีกว่า

นายกิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า การที่มาเปิดเผยในวันนี้ เพื่อหวังให้คนรุ่นหลังได้มีความเชื่อว่าสิ่งดังกล่าวมีจริง ซึ่งใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ และหวังว่าตนจะเป็นสิ่งเล็กๆที่สามารถช่วยเหลือประชาชนชาวภูเก็ตได้บ้างในช่วงที่ภูเก็ตกำลังเกิดวิกฤติของโรคระบาดในขณะนี้ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นหรือเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังลำบากได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวในการทำความดีต่อสังคมและเพื่อนมนุษย์ต่อไป