ส่องปรากฏการณ์ ‘ลิซ่า’ ฟีเวอร์! ปลุกสีสันท่องเที่ยว ‘บุรีรัมย์’ ยุคโควิด – กรุงเทพธุรกิจ

โดยเฉพาะบางช่วงบางตอนของมิวสิกวิดีโอซึ่งมี “ปราสาทหิน” ปรากฏเป็นฉากหลัง คนไทยอย่างเราๆ ได้ชมเป็นครั้งแรกต่างคาดว่าน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ปราสาทหินพนมรุ้ง” สัญลักษณ์ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ บ้านเกิดของลิซ่าจนเกิดกระแสแห่เที่ยวตามรอยกันอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวคนไทยให้ความสนใจไปเยือนจำนวนมาก เรียกได้ว่าลิซ่าพาบุรีรัมย์กลับมาปัง…ปัง…ปังอีกครั้ง!!! ในยุคที่ยังพบการระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ

ยิ่งไอดอลสาวให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ “Woody Show” เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า “หลังจากไม่ได้กลับมาเมืองไทยมานานกว่า 1-2 ปี คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ คิดถึงอาหารที่พวกท่านทำให้กิน อยากไปบุรีรัมย์มากๆ อยากกลับไปเจอคุณยาย และไหว้คุณตา” และเมื่อพิธีกร “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” ถามว่า “และได้ข่าวว่าจะกลับไปกินลูกชิ้นยืนกินด้วยหรือเปล่าครับ” ลิซ่าถึงกับหัวเราะเสียงใสแล้วตอบว่า “มันเป็นอะไรที่ป็อปปูลาร์มากที่เราจะต้องไปกินลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ มันเด็ดตรงที่น้ำจิ้มของบุรีรัมย์เจ้านั้นเป็นน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่มีน้ำพริกเผา”

อ่านข่าว : แห่ตามรอย “ลิซ่า blackpink” เซลฟี “พนมรุ้ง” คาดวันหยุดนี้ยอดทะลุพันคน

เพียงเท่านั้นก็ทำให้ “ลูกชิ้นยืนกิน” (YuenKin Meatballs) หลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ สตรีทฟู้ดอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งมีมายาวนานกว่า 50 ปี เป็นที่รู้จักลือลั่นภายในข้ามคืน! ส่งอานิสงส์ให้ยอดขายพุ่งทั้งบนออนไลน์และออฟไลน์ พ่อค้าแม่ขายยิ้มแก้มแตกไปตามๆ กัน ทอดขายหน้าร้าน แพ็คลูกชิ้นส่งขายออนไลน์แทบไม่ทัน

บทสัมภาษณ์ของลิซ่ายังส่งแรงกระเพื่อมถึง “งานเทศกาลลูกชิ้นยืนกิน 2564” ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีของ จ.บุรีรัมย์ จัดโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดบุรีรัมย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย สาธารณสุขจัดหวัดบุรีรัมย์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-23 ก.ย.นี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม เรียกได้ว่ามา “ถูกที่ ถูกเวลา” จริงๆ

ก่อนหน้าที่จะเกิดกระแสฟีเวอร์ “ลูกชิ้นยืนกิน” หากพูดถึงชื่อของบุรีรัมย์ หนึ่งในภาพจำคือการ “รีแบรนด์” เปลี่ยนบ้านแปลงเมืองครั้งใหญ่ ใช้ “กีฬา” และ “อีเวนต์” เป็นตัวขับเคลื่อน แนะนำเมืองให้แก่ทุกสายตาได้สัมผัสความรู้สึกแปลกใหม่! ว่าบุรีรัมย์ไม่ได้มีดีแค่ภูเขาไฟและปราสาทหินพนมรุ้ง

โดยเฉพาะอีเวนต์การแข่งขันกีฬาที่เข้ามาพลิกรายได้การท่องเที่ยวของ จ.บุรีรัมย์ อย่างชัดเจนเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว

และหนึ่งในอีเวนต์ที่ทุกคนจดจำคือการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2561 และปี 2562

เมื่อเจาะผลการดำเนินงานการแข่งขันโมโตจีพีปีที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.2562 พบว่าสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวของคนไทยและชาวต่างชาติได้อย่างมาก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 3,134.90 ล้านบาท เกิดการจ้างงานรวม 5,466 ตำแหน่ง โดยมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนทั้งหมด 226,655 คน ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมงานชาวไทย 167,130 คน คิดเป็น 73.7% และผู้เข้าร่วมงานชาวต่างชาติ 59,525 คน คิดเป็น 26.3% โดยแบ่งเป็นชาวต่างชาติผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทยจำนวน 14,681 คน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 44,844 คน

แต่พอถึงปี 2563 เจอวิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันต่อเนื่องมาจนถึงปี 2564 โดยเมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทางสหพันธ์จักรยานยนต์ระหว่างประเทศ, สมาคมทีมแข่งนานาชาติ และ ดอร์นา สปอร์ต ประกาศ “ยกเลิก” การแข่งขันรายการ “OR Thailand Grand Prix 2021” ซึ่งมีกำหนดจัดการแข่งขัน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ใน จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 15-17 ต.ค.2564 แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างเต็มที่จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่การระบาดของโรคโควิด-19 ยังอยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เป็นผลทำให้มีความจำเป็นที่ต้องยกเลิกการจัดการแข่งขันในปีนี้

ทั้งนี้การจัดการแข่งขันโมโตจีพี ยังเป็นเงื่อนไขหลักของการเปิดพื้นที่นำร่องใน จ.บุรีรัมย์ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถเดินทางมาเข้าชมการแข่งขันได้ แต่พอต้องเลื่อนการจัดงานฯไปเป็นปี 2565 แทน ทำให้ภาครัฐต้องเลื่อนแผนการเปิดเมืองบุรีรัมย์ตามไปด้วย

หลังจากเมื่อปี 2563 อ้างอิงจากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จ.บุรีรัมย์ มีนักท่องเที่ยวคนไทยมาเยือน 951,939 คน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8,524 คน ลดลงจากปี 2562 ก่อนเจอวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางมาเยือน จ.บุรีรัมย์ จำนวน 2.25 ล้านคน ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติมี 77,874 คน

แม้ปีนี้จะไม่มีการแข่งขันโมโตจีพี แต่กระแส “ลิซ่าฟีเวอร์” ก็มาได้ทันเวลาพอดี! ในช่วงที่ภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางภายในประเทศ และเตรียมกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยโครงการรัฐที่ยังค้างท่ออย่างโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” และ “ทัวร์เที่ยวไทย” ซึ่งเตรียมเปิดจองสิทธิวันที่ 8 ต.ค.นี้ และเริ่มให้ใช้สิทธิออกเดินทางจริงตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.นี้เป็นต้นไป

หวังว่าจะช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ปลุกสีสันและกู้ชีพภาคท่องเที่ยวของ จ.บุรีรัมย์ ให้ฟื้นคืน!