“สมชาย” หนุ่มลูกจ้างโรงกลึง ดัน PACO ไทยไปไกลทั่วโลก

HoonSmart.com>>“สมชาย เลิศขจรกิตติ”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ (“PACO”)  และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  PACO น้องใหม่ป้ายแดง ที่จะเข้าซื้อขายในตลาด MAI วันที่ 22 มี.ค.นี้

มาถึงวันนี้ นับเป็นความภูมิใจของเด็กหนุ่มลูกจ้างโรงกลึง ที่หารายได้เสริมหลังเลิกเรียน กระทั่งคิดการใหญ่ จากโรงกลึงห้องแถว สู่โรงงานผลิตอะไหล่ทดแทนแผงแอร์รถยนต์ ที่ส่งขายไปทั่วโลก ทั้งแบรนด์ของ PACO และรับจ้างผลิต (OEM) ยอดส่งออก 53% ของการขายและส่งขายตัวแทนจำหน่ายในประเทศ 47%

This image is not belong to usปัจจุบัน PACO เป็นผู้นำผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์ ในตลาดอะไหล่รถยนต์ทดแทน (REM หรือ AFTERMARKET) ที่มีผลิตภัณฑ์กว่า 2,600 รุ่น เป็นอะไหล่ของแผงคอยล์แอร์ร้อน (Conderser) และแผงคอยล์แอร์เย็น  (Evaporator)  สำหรับรถยนต์ทุกยี่ห้อตั้งแต่รุ่นเก่ายันรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ใช้น้ำมัน หรือรถยนต์ไฟฟ้า ล้วนต้องมีแอร์เย็นฉ่ำทุกคัน ผลิตภัณฑ์ของ PACO จึงไม่ได้รับผลกระทบจาก Disruption นี้

กว่า “สมชาย” และ PACO จะขึ้นมาเป็นแถวหน้าตลาดอะไหล่แผงแอร์ของไทย ที่ขายไปทั่วโลก ไม่ใช่เรื่องได้มาง่าย ๆ แต่มาด้วยสมองและสองมือของ “สมชาย”

This image is not belong to us“สมชาย” เล่าว่า  เขาลูกคนที่ 5 จากทั้งหมด 6 คน  ฐานะทางบ้านไม่ดี  ชีวิตวัยรุ่น 16 ปี ระหว่างเรียนมัธยาต้น ตัว “สมชาย” ช่วยทางบ้านหารายได้พิเศษหลังเลิกเรียน ช่วงเย็นรับจ้างทำงานโรงกลึง หลังจบม.ศ. 3 สมัยน้้นหรือเทียบเท่า ม. 4 สมัยนี้ เขาได้ซื้อเครื่องกลึงรับจ้างกลึงน็อต สกรู ซึ่งเป็นหัวสายรถมอเตอร์ไซด์

ด้วยความขยัน หมั่นหาความรู้ในอาชีพ การรับจ้างกลึงงาน เติบโตขึ้นตามลำดับ จากการรับกลึงหัวน็อต สกรู แตกขยายผลิตภัณฑ์มากมาย เช่น ที่พักเท้ารถมอเตอร์ไซด์ ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ ลูกค้าเริ่มขยับขายเข้าสู่ค่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ชื่อดังของไทย

เงินลงทุนหลักหมื่น ที่ได้จากการขึ้นแชร์ของแม่ จำนวน 25,000 บาท “สมชาย” กำเงินก้อนนี้ไปซื้อเครื่องกลึง เครื่องแรก กระทั่งต่อยอดเครื่องกลึง 40 -50 เครื่อง กิจการเริ่มเติบโต

” เมื่องานรับจ้างกลึงชิ้นงานอะไหล่รถยนต์ ส่งขายร้านค้าแถว วรจักร และสวนมะลิ ซึ่งเป็นย่านค้าส่งอะไหล่รถยนต์ ผมมองว่า งานรับจ้างไม่มีโอกาสเติบโต ถูกกดราคา ผมจึงเริ่มคิดว่า ต้องผลิตสินค้าขายในแบรนด์ตัวเองให้ได้ และได้เริ่มผลิตสินค้าแบรนด์ตัวเองช่วงอายุ 22 ปี เป็นต้นมา ”

มาถึงปี 1985 หรือ 36 ปีที่ผ่านมา จุดเปลี่ยนสำคัญของ “สมชาย” พัฒนามาถึงจุดที่เขาเจอเพื่อน ทำโรงงานคอนเดนเซอร์รถยนต์ เสนอขายโรงงานให้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นทำคอนเดนเซอร์ ตั้งแต่นั้นมา

ต่อมาปี 1988 เริ่มส่งออกคอยล์แอร์รถยนต์ไปสิงคโปร์ รวมทั้งนำเข้าอะไหล่แอร์จากสิงคโปร์ เข้ามาขาย พัฒนาไปถึงการซื้อเครื่องจักรทำคอนเดนเซอร์ แผง Parallel Flow ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ถึงปัจจุบัน  เป็นแผงที่ใช้เหล็กแป๊บแบน ระบบเชื่อมติดกัน ใช้นำยาแอร์ 134 A ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

เมื่อถามถึงส่วนแบ่งการตลาดชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน โดยเฉพาะแผงคอยล์แอร์ร้อน-เย็น “สมชาย” บอกว่า PACO มีมาร์เก็ตแชร์ 20% ไม่นับรวม OEM ให้รายใหญ่ชื่อดัง

สิ่งที่ PA กำลังจะเดินไปข้างหน้าจากนี้ หลังได้รับเงินจากการระดมทุน คือ การขยายโรงงานรองรับการเติบโตปีนี้ 15-20%  , การชำระคืนเงินกู้บางสว่น เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน  รุกการขยาย ” PACO  AUTOHUB”  หรือศูนย์กระจายสินค้า ที่เริ่มเมื่อต้นปีแล้ว 150 แห่ง เป้าหมายปีนี้ 300 แห่ง

” พาโก้ ออโต้ฮับ”  เป็นความร่วมมือของ PACO กับร้านค้า ที่ทำตลาดไปในทิศทางเดียวกัน สนับสนุนการตลาดและสินค้าแบรนด์ PACO  เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ความน่าเชื่อถือ ซึ่งเดือนมิ.ย.นี้จะครบ 200 แห่ง เป้าหมายปีนี้ดันไปให้ถึง 300 แห่ง แค่คลิกพาโก้ จะพาไปสาขาที่ใกล้ เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า” สมชายกล่าวและให้คำนิยามหุ้น PACO เป็นหุ้นเติบโตสูง มีปันผล

ทั้งนี้ ภายหลังการขาย IPO กลุ่มครอบครัวนายสมชาย เลิศขจรกิตติ จะถือหุ้นสัดส่วน 44.4% กลุ่มครอบครัวนายสมศักดิ์ เลิศขจรกิตติ  29.6% , ผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 26%  และมีนักลงทุนขายออนไลน์อะไหล่รถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐ ให้ความสนใจหุ้น PACO ด้วย

สำหรับ PACO  มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิระดับสูง ปี 2563 PACO มีกำไรสุทธิ  76.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.19 ล้านบาท คิดเป็น 150.63% เมื่อเทียบกับปี 2562 เป็นผลจากการนำ เครื่องจักรอัตโนมัติ มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น ลดต้นทุนค่าแรงและค่าล่วงเวลาได้อย่างมีนัยสำคัญ

ด้านราคาเสนอขาย PACO ที่ 1.40 บาท  พี/อี 18 เท่า เทียบกลุ่มอะไหล่รถยนต์แอร์ทั่วโลก 21-20 เท่า หลังเพิ่มทุน PACO มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท

บริษัทฯ มีโรงงานผลิต 3 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015


จำนวนผู้ชม
0