ประธานสภาเอสเอ็มอีไทยเผยความสำเร็จจับคู่ธุรกิจงาน ”สุรินทร์โมเดล 2” หลายรายเตรียมนำสินค้าบุกตลาดกัมพูชา ขณะผู้ประกอบการไทยและกัมพูชาสุดปลื้มจับมือทำตลาดสินค้าร่วมกัน คาดครั้งต่อไปเตรียมยกคาราวานผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจัดที่ด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษปลายปีนี้
ดร.ศุภชัย แก้วศิริ ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยหรือสภาเอสเอ็มอีไทยกล่าวถึงผลสำเร็จในการจัดงาน “การพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา” (Thailand – Cambodia Cross Border Trade Expo) หรือสุรินทร์โมเดล 2 จัดโดยคณะกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ สภาผู้แทนราษฎร์ ร่วมกับสภาเอาเอ็มอีไทย , จ.สุรินทร์ สถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐและเอกชน ระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ณ ตลาดอาเซียน ด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยระบุว่าประสบผลสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ แม้ว่าจะมีปัญหาอุปสรรคในด้านสภาพภูมิอากาศมีฝนตกลงมาต่อเนื่องตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงานก็ตาม ทำให้ประชาชนมาร่วมงานค่อนข้างบางตาในขณะที่การจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับกัมพูชาหรือบีทูบี ซึ่งเป้าหมายหลักของสภาเอสเอ็มอีนั้นถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างมาก มีการเจรจาในหลายคู่ธุรกิจ มีทั้งการลงนามเอ็มโอยู(MOU) ในวันงานและการจับคู่เจรจาจนได้ข้อสรุปเพื่อลงนาม(MOU) ในโอกาสต่อไป
สำหรับ ในส่วนผู้ประกอบการจำนวน 80 รายที่นำสินค้ามาจำหน่ายประกอบด้วยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเช่น บจก.มารีนโกล์ด โปรดักส์ นำกุ้งแช่แข็ง มาจำหน่าย
บจก.โปรแพลนอุตสาหกรรม, บจก.ไกรทองอินเตอร์ฟูด สินค้าเครื่องปรุงรส น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มไก่ ฯสินค้าอาหารทะเลแห้งแปรรูปจากวิสาหกิจชุมชนทรัพย์ส่องแสงหรือผลิตภัณฑ์จากอินผาลัมแปรรูป
บจก.ไอเบฟ(ประเทศไทย) และ บจก.อินทผลัมภาคตะวันตก,มะพร้าวน้ำหอมและปลาสลิดจากสหกรณ์การเกษตรประสานกสิกิจ (บ้านแพ้ว), ใช่กี่บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง เครื่องดื่มรังนก หจก.พรมัฆวานอินเตอร์เทรด
นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจอาหารเสริม บจก.ดิไอคอน กรุ๊ป, กลุ่มสมุนไพรสบู่กระชายจากบ้านสวนสุชัมบดี, บจก.199 คลินิก เวชกรรม, ลูกประคบ สมุนไพร จากสุวรรณมาลีบ้านสวนแม่ริม เชียงใหม่, ชุดเสังฆภัณฑ์ จากร้านทำบุญกัน By รุ่งสิน, ธุรกิจผ้าไหม เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าลำลอง ”แกมโบล”
รองเท้าผ้าใบ “บาโอจิ” กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และเทคโนโลยี อิเลคทรอนิคส์ รถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า “KRONOS” น้ำมันเครื่องน้ำมันหล่อลื่น บมจ.บางจากฯ หุ่นยนต์ บจก.สมาร์ท คอนเนค และไปรษณีย์ไทยจังหวัดสุรินทร์ มาคอยให้บริการรับ-ส่งสินค้าภายในงานฯ อย่างไรก้อดีงานนี้อาจจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย ขณะเดียวกันก็ตรงกับงานวันไหว้บรรพบุรุษหรืองานประเพณีแซนโฎนตาของทางฝั่งกัมพูชา ทำให้ประชาชนมาร่วมงานค่อนข้างน้อย ส่งผลให้การซื้อขายสินค้าที่ผู้ประกอบการที่นำมาจัดแสดงและจำหน่ายน้อยตามไปด้วย แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้
“เป้าหมายของเราคือ การจับคู่ทางธุรกิจหรือการแมชชิ่ง ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีการลงนามเอ็มโอยู(MOU) หลายคู่ บางรายก็มีการลงนามเอ็มโอยูกันภายในงาน บางคู่ก็เจรจาบรรลุผล พร้อมที่จะลงนามเอ็มโอยูในโอกาสต่อไป” ประธานสภาเอมเอ็มอีไทยกล่าว
นายกิตติ แสงดี ผู้ประกอบการเจ้าของผลิตภัณฑ์กรดยางพาราตรา ”แข็งทันใจ” กล่าวรู้สึกดีใจที่สามารถเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการทางฝั่งกัมพูชาจนประสบผลสำเร็จในการเป็นตัวแทนจำหน่ายกรดยางพารา เนื่องจากตนเองมีความตั้งใจที่จะขยายตลาดสินค้ากรดยางพาราไปยังประเทศกัมพูชาอยู่แล้ว เพราะเหตุว่าขณะที่พื้นที่ของกัมพูชามีการขยายพื้นที่ปลูกยางพาราเพิ่มอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีโอกาสหรือมีช่องทางเข้าไปทำตลาดได้
“ต้องขอบคุณทางสภาเอสเอ็มอีที่จัดงานนี้ขึ้นมาทำให้เรามีวันนี้ ปกติสินค้าของเราก็ทำตลาดในประเทศอยู่แล้ว ซึ่งลูกค้าเกษตรกรเจ้าของสวนยางพาราก็ให้การตอบรับดีมาก จึงสนใจอยากไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาดูบ้าง ที่ผ่านมาก็มีลูกค้าทางฝั่งกัมพูชาข้ามฝั่งเข้ามาซื้อสินค้าจากเราไปทดลองใช้ เขาก็บอกว่าใช้ดีมาก เขายอมรับในผลิตภัณฑ์ของเรา จึงอยากมีตัวแทนจำหน่ายทางฝั่งกัมพูชาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ากัมพูชาไม่ต้องข้ามฝั่งมาซื้อทางฝั่งไทย” เจ้าของผลิตภัณฑ์กรดยางพารา ”แข็งทันใจ” เผย
นายสะรื่น และนางแพน มารีน สองสามีภรรยาชาวกัมพูชา เจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องสำอางใน จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาหลังมากรลงนาม MOU ร่วมกัน ในฐานะตัวแทนจำหน่ายกรดยางพาราแต่เพียงผู้เดียวในกัมพูชา เผยว่ารู้สึกยินดีที่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายกรดยางพาราตรา ”แข็งทันใจ” หลังนำมาทดลองใช้ระยะหนึ่ง ปรากฏว่าได้ผลดีมากและคุณภาพดีกว่าเมื่อเทียบกับกรดยางพารานำเข้าจากเวียดนาม จากนี้ไปเร่งทำการตลาดกรดยางพาราตรา ”แข็งทันใจ” ด้วยการขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 จังหวัดของประเทศกัมพูชา
นายยุทธนา จุลพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์รองเท้าลำลอง “แกมโบล” กล่าวว่าการมาออกบูธครั้งนี้นอกจากนำสินค้ามาจำหน่ายในงานแล้วยังสนใจทำตลาดในพื้นที่ชายแดนทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาด้วย เนื่องจากสินค้าของบริษัทเป็นรองเท้าแตะ ราคาไม่แพงมาก เหมาะสำหรับชาวบ้านในใช้สอย แต่สภาพภุมิอากาศไม่อำนวย ฝนตกตลอดทั้ง 3 วัน ทำให้ประชาชนมาเที่ยวงานน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ สินค้าที่นำมาจำหน่ายไม่เป็นไปตามเป้า ส่วนตลาดกัมพูชานั้น เป็นอีกประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ได้ทำตลาดอยู่แล้ว
“ปกติสินค้าของเราก็มีจำหน่ายอยู่ในกัมพูชาอยู่แล้ว ขายดีมากด้วย คนกัมพูชารู้จักรองเท้า “แกมโบล” เป็นอย่างดี แต่งานนี้เราต้องการ “บีทูซี” มากกว่า อยากมาศึกษาตลาดชายแดน และอยากเจอผู้ประกอบรายใหม่นอกเหนือที่ทำตลาดอยู่แล้วด้วย ยอมรับว่าเพิ่งมาออกงานที่นี่เป็นครั้งแรก ผลตอบรับอาจไม่เป็นไปตามเป้ามากนัก แต่ก็ยินดีที่ได้มาร่วมงานกับทางสภาเอสเอ็มอี” นายยุทธนา จุลพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด บจก. บิ๊กสตาร์ กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการที่ให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้จำนวน ประกอบด้วย บจก.ไปรษณีย์ไทย, บจก.บิ๊กสตาร์, บจก.รอยัล เดียร์ เค เดอะคราวน์, บจก.หลงไทย อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป, บจก.ไทวัสดุ, บมจ.บางจาก คอร์เปอเรชั่น, บจก.จอมคชา, สมาคมส่งเสริมการค้าอาเซียน, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, บจก.ดิไอคอน กรุ๊ป, ร้านทำบุญกันสังฆภัณฑ์ By รุ่งสิน, หจก.พรมัฆวาน อินเตอร์เทรดและบ้านสวนสุชัมบดี นอกจากการออกบูธจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในงานฯ แล้ว การสาธิตการปรุงอาหารจากวัตถุดิบของดีเมืองสุรินทร์และของผู้ประกอบการร่วมงาน
นำผลิตภัณฑ์ “เชฟปึง” รังสรรค์หลากหลายเมนู, มีการจัดเสวนาการตลาดยุคใหม่ สร้างโอกาสเปลี่ยนชีวิตด้วย Digital Marketing ติดปีก SMEs ไทยบินไกลสู่สากล วิทยากร คุณปรเมษฐ์ตรึกหากิจ ประธานมูลนิธิ โค้ชกิ๊ก อคาเดมี
และคลิป Virtual Conference ประเด็นหัวข้อภาพรวมตลาดการค้าในกลุ่มประเทศ CLMV โดยคุณอดุลย์ โชตินิสากรณ์(อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ)
หัวข้อ เจาะลึกตลาดกัมพูชาโดยคุณชลทิศ เทพยศ ที่ปรึกษา(ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงพนมเปญ, หัวข้อเจาะลึกตลาดพม่า โดย ดร.ธนวุฒิ นัยโกวิท
(อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ ณ กรุงย่างกุ้ง), หัวข้อ เจาะลึกตลาดเวียตนาม โดยคุณมาลินี หาญบุญทรง (อดีตทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ เวียตนาม) อย่างไรก็ตามการจัดงาน “พัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา” ของสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยหรือสภาเอสเอ็มอีไทย คาดว่าจะมีขึ้นณ ด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า หลังคณะทำงานสภาเอสเอ็มอีไทยได้หารือเบื้องต้นกับพระครูโกศลสิกขกิจ (หลวงพ่อพุฒ วายาโม) เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์(ธ) เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง ในการร่วมกันจัดงานครั้งต่อไป