“วิชัย เฟื่องทวีโชค” ปรับทัพนำ “ณัฐกรุ๊ป” ก้าวสู่ปีที่ 20 รุกเปิดโชว์รูม BMW มือสอง อุดรฯ – ประชาชาติธุรกิจ

วิชัย เฟื่องทวีโชค
วิชัย เฟื่องทวีโชค
สัมภาษณ์

การก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจสู่ปีที่ 20 ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งต้องเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแล้วระลอกเล่า หลายธุรกิจต่างเร่งปรับตัว เพื่อให้ธุรกิจเติบโตเดินหน้าต่อไปได้ ดังเช่น “กลุ่มธุรกิจในเครือณัฐกรุ๊ป” จังหวัดอุดรธานี ผู้ประกอบการธุรกิจขายรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน, บีเอ็มดับเบิลยู และผู้ประกอบการขายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าในหลายจังหวัดภาคอีสาน โดย “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “วิชัย เฟื่องทวีโชค” หัวเรือใหญ่ของกลุ่ม

“ณัฐ บิ๊กวิงค์” บุกขอนแก่น

“วิชัย” เล่าให้ฟังว่า ปี 2565 จะครบ 20 ปีในการดำเนินธุรกิจ มีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลง จากเดิมเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ในนาม“ณัฐ มอเตอร์เซลส์” มีการขยายสาขาไปตามอำเภอต่าง ๆ โดยการเช่าพื้นที่ ปัจจุบันกำลังเริ่มหาซื้อที่ดินในการสร้างโชว์รูปแห่งใหม่ เพื่อลดต้นทุนค่าเช่า

ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ ทำคล้ายโชว์รูมรถยนต์ คือ มีที่จอดรถให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ มีจุดรับรถไว้บริการหลังการขาย มีเครื่องดื่มน้ำ-ชา-กาแฟ หรือจุดพักคอย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย เริ่มสาขาเปิดใหม่ในใจกลางเมือง คือ สาขาถนนทหาร (ข้างบ้านต้อยติ่ง) และสาขาตลาดหนองบัว (ติดกับสนามกีฬาเวสสุวรรณ) นอกจากนั้นได้เริ่มขยายสาขาออกต่างจังหวัด เริ่มต้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้ การซื้อที่ดินสร้างโชว์รูมใหม่ในต่างอำเภอ และรีโนเวตสาขาเก่า คาดจะใช้งบประมาณรีโนเวตประมาณ 100 ล้านบาท

“เมืองเปลี่ยนไป กายภาพจังหวัดใหญ่ ๆ จากรถไม่เคยรถติดก็กลายเป็นรถติด เราในฐานะผู้ประกอบการต่างจังหวัดเราก็ปรับเปลี่ยนให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น”

“จากที่ลูกค้าต้องเข้าไปในเมือง เดี๋ยวนี้ลูกค้าต้องการความสะดวกมากขึ้น มีที่จอดรถมากขึ้น เราเห็นตัวอย่างจากเซเว่นอีเลฟเว่น ตรงไหนมีที่จอดรถ ก็จะขายดีขึ้น เราก็ตอบโจทย์ลูกค้าแนวทางเดียวกัน แต่ก็ต้องลงทุน เรามองศักยภาพระยะยาว รองรับคนมาอยู่ต่างจังหวัดมากขึ้น”

ในส่วนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าใหญ่ ในนาม “ณัฐ บิ๊กวิงค์” มองว่าตลาดรถจักรยานยนต์ใหญ่ยังไปได้ โดยณัฐ บิ๊กวิงค์ อุดรธานี ได้อันดับ 1 ของประเทศไทย รางวัลแข่งขันการขายดีลเลอร์ไซซ์ XXL จึงมีการขยายสาขาไปยังจังหวัดขอนแก่น ได้รับการตอบรับที่ดี

“รถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ ยอดขายยังดีแม้จะลดลง เรามีโปรโมชั่นดึงกำลังซื้อ ตอนนี้ตลาดบิ๊กวิงค์เริ่มเต็ม เราสามารถรองรับลูกค้าได้อีกหลายปี ความต้องการใหม่ ๆ ไม่ได้เร็วขึ้น ตลาดมอเตอร์ไซค์มีการเปิดตัวทางออนไลน์มาตลอด ต้นปีหน้าก็จะมีโมเดลใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด”

ชี้มอ’ไซค์มือสองยังโต

สำหรับธุรกิจจำหน่ายรถจักรยานยนต์มือสอง มีเพียง 1 สาขา คือ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับณัฐ มอเตอร์เซลส์ สาขาตลาดหนองบัว (ข้างสนามเวสสุวรรณ) ในชื่อ “ณัฐ รถมือสอง” จะมีการรีโนเวตปลายปีนี้

“เท่าที่มอง ตลาดรถจักรยานยนต์มือสองโดยภาพรวมไม่ค่อยโต ตัวไหนที่ตลาดยังไม่ทำ เราก็เข้าไปทำ เป็นช่องทางการตลาด เศรษฐกิจเป็นแบบนี้เราต้องเจาะเข้าไป มอเตอร์ไซค์ยอดขายเติบโตไม่ได้ลดลง รถครอบครัวเติบโต จากโรคระบาดคนย้ายกลับมาบ้านต่างจังหวัดกันมาก”

“แนวโน้มการขายมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐาน การเดินทาง คนไม่อยากใช้รถสาธารณะเพราะกลัวติดโรคระบาด ในต่างจังหวัดรถมอเตอร์ไซค์ยังเป็นพาหนะที่สะดวกสบายอยู่ และตอบโจทย์ไม่ใกล้ชิดคน จึงมี
แนวโน้มเติบโตในต่างจังหวัด”

นายวิชัยกล่าวต่อว่า รถมือสองขายดีอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วง 3 เดือนหลัง รถใหม่ขาดตลาด จากการผลิตอาจผลิตไม่ได้เต็มที่ แรงงานติดปัญหาโควิด หรือชิ้นส่วนบางตัวขาด ลูกค้าก็ต้องรอ ยอดขายรถใหม่ลดลงกว่า 50% คนหันมาซื้อรถมือสอง แต่ฮอนด้าก็แก้ไขเรียบร้อยแล้ว เดือนนี้กลับมาผลิตปกติแล้ว หลายปัจจัยทำให้การผลิตมีการปรับตัว พอรถใหม่ขาดตลาด รถมือสองก็ขายดีขึ้น ถ้ารถใหม่ขายได้ตามปกติ รถมือสองจะลดความร้อนแรงลง

เมื่อก่อนการซื้อรถมีการเชิดรถไปเลย มี 2 วิธีการ คือ 1.ส่งข้ามประเทศ ซึ่งตอนนี้คงน้อยลงเพราะประเทศข้างเคียงก็มีธุรกิจรถฮอนด้า ขายราคาก็ไม่แพง 2.ส่วนใหญ่คนทุจริตจะนำรถไปจำนำในบ่อน หรือธุรกิจสีเทา ใช้ช่องทางกฎหมายมาซื้อรถให้เราฟ้อง เป็นช่องว่างทางสังคมที่ทำได้ คนเหล่านี้เราก็มีแบล็กลิสต์อยู่ รายใหม่ ๆ ที่เข้ามาก็จะไม่มี

เปิดขาย BMW มือสอง

ในส่วนของธุรกิจรถยนต์นิสสันในนาม “ณัฐ ออโต้คาร์” ในช่วง 3 ปีนี้ มีการขยายสาขา โดยในจังหวัดอุดรธานี 2 แห่ง และ จ.หนองคาย 1 แห่ง รวมเป็น 3 แห่ง และกลับมาปรับปรุงสาขาใหญ่ใน จ.อุดรธานี คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 60 ล้านบาท

ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ในนาม “ณัฐ บาวาเรียน มอเตอร์” มีการปรับพื้นที่ด้านข้าง เพื่อขยายและเปิดขายรถบีเอ็มดับเบิลยูมือสอง ครั้งแรกในจังหวัดอุดรธานี รองรับมาตรฐานจากบีเอ็มดับเบิลยูประเทศไทย รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูมือสองเทียบเท่ารถใหม่ ในนาม “บีเอ็มดับเบิลยู ยูสคาร์ บาย ณัฐ บาวาเรียน มอเตอร์” จอดรถได้ 4-5 คัน ใช้งบฯก่อสร้างรวมตกแต่ง 2 ล้านบาท ขณะนี้มีรถที่ตีเทิร์นมาประมาณ 30% มีการการันตีให้ตามมาตรฐาน

รวมถึงการปรับปรุงโชว์รูม “บีเอ็มดับเบิลยู ณัฐ มอเตอร์ราด” ซึ่งจำหน่ายรถจักรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ให้เป็นโชว์รูมมอเตอร์ราดแห่งแรกในอีสาน

ตลาดภูธรยังมีกำลังซื้อ

นายวิชัยกล่าวต่อไปว่า ทิศทางตลาดรถยนต์ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เชื่อว่าตลาดจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ ๆ ความต้องการรถยังมีอยู่ ดังนั้นลักเซอรี่คาร์ตลาดจึงยังเติบโต เพราะคนต้องการเดินทางด้วยรถส่วนตัวไม่อยากเดินทางร่วมกับใคร

โดยรถที่น่าจะได้รับความนิยมคือ รถอีโคคาร์ เป็นรถขนาดเล็กช่วงโควิด ลูกค้าไม่ได้เดินทางไปซื้อรถในส่วนกลาง พฤติกรรมการซื้อตามที่ตัวเองต้องการ ลูกค้าก็ซื้อในโชว์รูมมากขึ้น ส่วนมอเตอร์ไซค์เป็นสินค้าพื้นฐานที่มีความต้องการอยู่ เพราะลูกค้ากลับมาอยู่ในท้องถิ่น เราเองก็อยู่ในพื้นที่มานาน มียอดขายค่อนข้างเติบโตในปีที่แล้ว

เพียงแต่ช่วงนี้ลูกค้ามีความต้องการซื้อรถ แต่กำลังซื้ออ่อนลง เพราะมีรายได้น้อยลง ขณะที่บริษัทไฟแนนซ์ต่าง ๆ มีความรัดกุมมากขึ้น ทำให้โอกาสผ่านไฟแนนซ์จะยากกว่าสมัยก่อนจึงถูกไฟแนนซ์ปฏิเสธ (reject) จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากสรุปจากข้อมูลที่ลูกค้าเดินเข้ามาเราสามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วนกลุ่มหลัก ได้แก่

1.ลูกค้ามีความแข็งแกร่งด้านการเงิน ลักเซอรี่คาร์มีความต้องการ ซื้อตามโอกาสจะใช้รถ การแข่งขันทางการตลาดจำกัดด้านการเดินทางไปซื้อ ทำให้เราขายดีขึ้น

2.รถญี่ปุ่นความต้องการยังดีอยู่ แต่ปัญหาคือ โปรไฟล์ลูกค้าอ่อนลง จากเศรษฐกิจที่แย่ลง ทำให้ลูกค้าผ่านการคัดกรองจากไฟแนนซ์น้อยลง ทำให้ยอดขายน้อยลง ยอดการเซอร์วิสน้อยลงจากที่ลูกค้าไม่ได้เดินทาง ใช้รถน้อยลง รถญี่ปุ่นชะลอตัว

3.รถมอเตอร์ไซค์เติบโต เพราะลูกค้าแรงงานย้ายถิ่นฐานกลับบ้าน สินค้าพื้นฐาน

สำหรับภาพรวมธุรกิจยานยนต์ในอุดรธานียังถือว่าเติบโต อุดรธานีอยู่ในขาขึ้นมาโดยตลอด ตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมาอยู่แล้ว เพียงแต่อาจชะลอตัวจากโควิด-19 ภาคธุรกิจในต่างจังหวัดเราก็ดูแลตัวเองอยู่แล้ว แต่อยากฝากให้ภาครัฐพัฒนาเมืองให้แข็งแรง เจริญขึ้น คล่องแคล่วขึ้น จะทำให้นักธุรกิจเติบโตตามไปด้วย หากมีอุดรฯแซนด์บอกซ์ ส่งสัญญาณให้รู้ว่าอุดรฯพร้อมไปข้างหน้า ไม่ใช่เราอยู่เฉย ๆ แต่จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เป็นการร่วมมือร่วมใจกัน การทำแซนด์บอกซ์ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทำให้เมืองเราผ่านไปได้

“ผมทำแคมเปญกับพนักงานภายใน คือ รณรงค์ให้พนักงานฉีดวัคซีนกันทุกคน ใช้ชื่อว่า ณัฐกรุ๊ป We are vaccinated 500 กว่าคน ไม่ได้มีนโยบายบังคับ เพราะบางคนมีทัศนคติที่ไม่ดี แต่ให้ช่วยกันฉีดวัคซีน ทำภายในเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ”