(มีคลิป) ชื่นชม! กู้ภัยนำศพติดหลัง ขับมอเตอร์ไซค์ออกป่า – Chiang Mai News

โซเซียลชื่นชม! กู้ภัยนำศพถูกวิสามัญผูกติดหลัง ขับมอเตอร์ไซค์ลำเลียงออกจากป่าก่อนจะมืดค่ำ

วันที่ 3 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ทหารกองกำลังผาเมืองปะทะเดือดกับแก๊งค์ลำเลียงยาเสพติดกลางป่า พื้นที่บ้านสันมะเค็ด ม.23 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ส่งผลให้แก๊งขนยาดับคาที่ 2 ศพ ยึดยาเสพติด 2 เป้ จำนวนประมาณ 2 แสนเม็ด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา

ต่อมา ทางสมาคมแสงธรรมแม่จันและกู้ภัยอัมรินทร์ใต้จุดอำเภอแม่จัน ได้รับการประสานให้ร่วมปฎิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวร และ กองพิสุจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย ทพ.3109 ฉก.ทพ.31 ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง เพื่อจัดกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่เหตุยิงปะทะขบวนการยาเสพติด ซึ่งเป็นแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปเป็นระยะทางประมาณ 2.5 กม. เมื่อไปถึงก็พบศพเป็นชาย 2 ราย ถูกยิงเสียชีวิตด้วยอาวุธปืน พร้อมยาบ้า 2 เป้ จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด หลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบ ทางกู้ภัยแสงธรรมแม่จันและกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ ได้นำผ้าขาวห่อศพและช่วยกันนำศพลำเลียงลงจากเขา โดยการช่วยกันหามออกมาจากจุดลาดชัน และเมื่อมาถึงจุดที่รถมอเตอร์ไซค์สามารถขับขี่ไปถึง ทางกู้ภัยจึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยของแสงธรรมคนหนึ่งเป็นผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์และนำศพผูกติดหลัง เพื่อรีบลำเลียงศพออกจากป่าโดยเร็วที่สุด และนำศพส่งนิติเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและยืนยันตัวตนต่อไป

ซึ่งเหตุการณ์ในขณะที่ได้ทำการลำเลียงศพออกมาจากป่าโดยรถมอเตอร์ไซค์ ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “หนาน พยายาม” ได้บันทึกภาพไว้ และนำไปเผยแพร่ตามสื่อโซเซียล โดยมีข้อความตามโพสต์ระบุว่า…

“ทหารปะทะ ขบวนการขนยาเสพติด วิสามัญฯ ดับ 2 ศพ ยึดยาบ้า 2 แสนเม็ด บ้านสันมะเค็ด ตะเข็บชายแดนไทย พม่า ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง เดินขึ้นเขา 2.5 ก.ม ใช้มอเตอร์ไซขนศพออกจากที่เกิดเหตุ ทำงานแข่งกับเวลาก่อนที่ฟ้าจะปิด ซึ่งเสี่ยงเป็นอันตรายต่อผู้ปฎิบัติงาน…”

ซึ่งภายหลังที่มีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวที่มีความยาวเพียงแค่ 7 วินาที ก็มีผู้ใช้งานเฟสบุ๊กจำนวนมาก ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมและให้กำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานในครั้งนี้