พาณิชย์โชว์ส่งออกปี 65 บวก 5.5% ตั้งเป้าปี 66 โต 1-2% โกยรายได้ 10 ล้านล้าน | เดลินิวส์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนธันวาคม 65 และภาพรวมปี 65 พร้อมเป้าหมายและแผนเร่งรัดการส่งออกปี 2566 ว่า ตัวเลขการส่งออก ธ.ค. 65 ติดลบ 14.6% สร้างเงินให้ประเทศ 776,324 ล้านบาท การส่งออกทั้งปี 2565 บวก 5.5% เกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 4% สร้างเงินให้ประเทศ 9,944,317 ล้านบาท  

การส่งออกเดือน ธ.ค. 65 หมวดสินค้าเกษตร -11.6% ทำเงิน 72,992 ล้านบาท ทั้งปี 65 สินค้าเกษตร +2.2% สร้างเงินให้ประเทศ 925,383 ล้านบาท สินค้าที่ขยายตัวดี 1.ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง ขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่อง เดือน ธ.ค. 65 +22.8% สร้างเงินให้ประเทศ 3,465 ล้านบาท ทั้งปี 2565 +24.6% สร้างเงินให้ประเทศ 40,080 ล้านบาท สับปะรดสด เดือน ธ.ค. 65 +816.7% สร้างเงินให้ประเทศ 79 ล้านบาท ปี 65 +194.6% สร้างเงินให้ประเทศ 756 ล้านบาท ทุเรียนสด ธ.ค. 65 +155.3% สร้างเงินให้ประเทศ 8,016 ล้านบาท ทั้งปี 65 -7.7% สร้างเงินให้ประเทศ 110,144 ล้านบาท เนื่องจากผลผลิตปีที่แล้วออกน้อยกว่าปี 2564 เพราะฝนตกชุก 

หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เดือน ธ.ค. 65 -10.8% สร้างเงินให้ประเทศ 55,637 ล้านบาท ทั้งปี 65 +17.8% สร้างเงินให้ประเทศ 788,321 ล้านบาท สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์เดือน ธ.ค. 65 +35.5% สร้างเงินให้ประเทศ 4,153 ล้านบาท ทั้งปี 65 +44.8% สร้างเงินให้ประเทศ 70,290 ล้านบาท นมและผลิตภัณฑ์จากนม เดือน ธ.ค. 65 +2.7% สร้างเงินให้ประเทศ 932 ล้านบาท ทั้งปี 65 +0.7% สร้างเงินให้ประเทศ 10,394 ล้านบาท อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ธ.ค. 65 +1.5% สร้างประเทศประเทศ 11,635 ล้านบาท ทั้งปี 65 +10.1% สร้างเงินให้ประเทศ 133,568 ล้านบาท  

หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ธ.ค. 65 -15.7% สร้างเงินให้ประเทศ 616,549 ล้านบาท ทั้งปี 65 +4.4% สร้างเงินให้ประเทศ 7,819,845 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวดี ได้แก่อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด บวก 6 เดือนต่อเนื่อง เดือน ธ.ค. 65 +83.7% สร้างเงินให้ประเทศ 16,340 ล้านบาท ทั้งปี 65 +26.2% สร้างเงินให้ประเทศ 119,469 ล้านบาท เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ บวก 14 เดือนต่อเนื่อง เดือน ธ.ค. 65 +65.6% สร้างเงินให้ประเทศ 19,722 ล้านบาท ทั้งปี 65 +71.5% สร้างเงินให้ประเทศ 189,326 ล้านบาท เครื่องใช้สำหรับเดินทาง บวก 22 เดือนต่อเนื่อง ธ.ค. 65 +56.6% สร้างเงินให้ประเทศ 1,963 ล้านบาท ทั้งปี 65 +63.1% สร้างเงินให้ประเทศ 18,997 ล้านบาท รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ บวก 5 เดือนต่อเนื่อง เดือน ธ.ค. 65 +8.1% สร้างเงินให้ประเทศ 12,223 ล้านบาท ทั้งปี 65 +1.9% สร้างเงินให้ประเทศ 130,271 ล้านบาท

การส่งออกรายตลาด ในเดือน ธ.ค. 65

ตลาดที่ขยายตัวสูง ได้แก่ 1.อิรัก (+144.1%) 2.ไอร์แลนด์ (+130.9%) 3.บรูไน (+62.1%) 4.อิหร่าน (+48.0%) 5.โมซัมบิก (+44.8%) 6.ซาอุดีอาระเบีย (+35.5%) 7.สหราชอาณาจักร (+23.7%) 8.สวีเดน (+16.4%) 9. อิตาลี (+12.3%) และ 10.เม็กซิโก (+6.7%)

สำหรับการออกปี 65 ทั้งปี +5.5% สร้างเงินให้ประเทศ 9,944,317 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่ขยายตัว 10 รายการสําคัญ ในปี 2565 สินค้าที่ขยายตัวสูงได้แก่ 1.น้ำตาลทราย (+98.9%) 2.เครื่องโทรสารโทรศัพท์และส่วนประกอบ (+71.5%) 3.อัญมณีและเครื่องประดับ (+50.3%) 4.ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (+44.8%) 5.หม้อแปลงไฟฟ้าและ ส่วนประกอบ (+32.0%) 6.อุปกรณ์กึ่งตัวนํา ทรานซิสเตอร์ และไดโอด (+26.2%) 7.ไก่แปรรูป (+24.8%) 8.ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง (+24.6%) 9.ไอศกรีม (+23.0%) 10.อาหารสัตว์เลี้ยง (+15.3%)

ตลาดที่ขยายตัว 10 รายการสําคัญ ในปี 2565 ได้แก่ 1.ตะวันออกกลาง (+22.8%) 2.สหราชอาณาจักร (+15.6%) 3.แคนาดา (+14.2%) 4.สหรัฐ (+13.4%) 5.CLMV (+11.5%) 6.เอเชียใต้ (+11.5%) 7.อาเซียน (5) (+9.5%) 8.ลาตินอเมริกา (+5.9%) 9.สหภาพยุโรป (+5.2%) และ 10.ทวีปออสเตรเลีย (+1.7%)

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เหตุผลที่การส่งออกปี 65 ยังขยายตัวสูงเพราะประการที่หนึ่งการผลักดันการส่งออกเชิงรุกและเชิงลึกในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับเอกชน ประการที่สอง การผลักดันให้ประเทศเพื่อนบ้านเร่งเปิดด่านชายแดนหลังปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้การส่งออกชายแดนขยายตัวดีขึ้น ตัวเลขส่งออกภาพรวมดีขึ้น ประการที่สาม การเร่งหาแหล่งสำรองอาหารจากผู้ซื้อทั่วโลกยังคงมีอยู่ ประการที่สี่ โลจิสติกส์ที่มีปัญหาได้รับการคลี่คลายทั้งค่าระวางเรือที่ปรับลดลงมาสู่ภาวะราคาปกติ รวมทั้งตู้คอนเทเนอร์ที่มีปริมาณเพียงพอในช่วงหลังจาก กรอ.พาณิชย์ ช่วยแก้ปัญหา 

สำหรับการค้าชายแดนและผ่านแดน การค้าชายแดน เดือน ธ.ค. 65 ส่งออกผ่านการค้าชายแดน -6.8% ทำเงินให้ประเทศ 49,540 ล้านบาท ทั้งปี 65 การค้าชายแดนผ่านการส่งออก +13.7% สร้างเงินให้ประเทศ 648,030 ล้านบาท โดยมาเลเซีย ส่งออกทั้งปี 65 ผ่านการค้าชายแดน +0.6% สร้างเงินให้ประเทศ 183,523 ล้านบาท สปป.ลาว ทั้งปี 65 +25.6% สร้างเงินให้ประเทศ 156,738 ล้านบาท กัมพูชา ปี 65 +14.7% สร้างเงินให้ประเทศ 164,186.3 ล้านบาท เมียนมา ทั้งปี 65 ส่งออกผ่านการค้าชายแดน +19.9% สร้างเงินให้ประเทศ 143,582.5 ล้านบาท รวม 4 ประเทศนี้ สร้างเงินให้ประเทศ 648,003 10 ล้านบาท +13.7%

ภาพรวมการค้าชายแดนและผ่านแดนรวมกันทั้งปี 2565 -0.3% สร้างเงินให้ประเทศ1,029,837 ล้านบาท เดือน ธ.ค. 65 +2.4% สร้างเงินให้ประเทศ 85,550 ล้านบาท ที่ติดลบ เพราะการค้าชายแดนและผ่านแดนมีปัญหาส่งออกทางบก จึงหันไปส่งออกทางเรือมากขึ้นเพราะติดปัญหาเรื่องด่าน

สำหรับเป้าการส่งออกปี 2566 ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนได้มีความเห็นสอดคล้องกันว่าสำหรับปี 2566 จะตั้งเป้าไว้เป็นบวก 1-2% น้อยกว่าปี 2565 ที่ตั้งไว้ 4% เพราะมีปัจจัยที่เป็นแรงเสียดทานทางลบหลายปัจจัย เช่น 1. ปัจจัยเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยเฉพาะเศรษฐกิจในประเทศตลาดหลักของไทย เช่น สหรัฐคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะะบวก 0.5-1% สหภาพยุโรปที่เป็นตลาดใหญ่ของเราหลายสถาบันประเมินบวก  0-0.5% ญี่ปุ่นประเมินว่าจีดีพีเฉลี่ยจะ +1.6% เป็นต้น ย่อมกระทบการส่งออกของเรา

2. คาดการณ์ว่าไตรมาสแรกปี 66 อาจมีสต๊อกสินค้าที่นำเข้าจากหลายประเทศในโลกของประเทศตลาดหลักโลกคงอยู่อาจชะลอการสั่งซื้อหรือการนำเข้าได้ 

3. ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูงและไม่มีแนวโน้มลดลง ส่งผลต่อค่าไฟฟ้าต้นทุนการผลิตสำคัญของภาคการผลิต

4. ค่าเงินบาทของเรามีแนวโน้มเริ่มแข็งขึ้นทำให้ศักยภาพการแข่งขันสินค้าไทยในตลาดโลกยากขึ้น เพราะจะแพงกว่าคู่แข่ง 

แต่ที่ยังประเมินว่ายังบวกอยู่เพราะมีปัจจัยบวกหลายประการเช่น 1. ระบบการขนส่งสินค้าเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 2. คาดว่าความต้องการด้านอาหารของโลกยังมีเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารเป็นผลดีกับการส่งออกอาหารของไทย 3. ตลาดศักยภาพบางตลาด ยังรองรับการส่งออกของไทยได้ เช่น 4 ตลาดหลักที่จะบุกเป็นพิเศษในปี 66 เช่น ตะวันออกกลาง อาจบวกถึง 20% โดยในวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์นี้ ตนจะพาเอกชนไปเปิดตลาดที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประตูสู่ตะวันออกกลางอีกประเทศหนึ่ง จะไปนับหนึ่งให้เอกชนมีลู่ทางบุกตลาดตะวันออกกลาง นอกจากซาอุดีอาระเบียที่นำคณะไปแล้ว และตลาดเอเชียใต้ที่จะสามารถทำบวกได้ 10% คืออินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ และตลาด CLMV ที่คาดว่าสามารถทำตัวเลขบวกได้ถึง 15% สุดท้ายตลาดจีนที่เป็นตลาดใหญ่และมีแนวโน้มกำลังจะเปิดประเทศ ยังทำตัวเลขบวกได้