“พรรคกล้า”ร่วมด้วย ค้านสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ”อรรถวิชช์”ขอรัฐทบทวนให้ดี – มติชน

ศูนย์สิทธิผู้บริโภคฯร้อง “พรรคกล้า”ร่วมค้านสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ด้าน”อรรถวิชช์”ขอรัฐทบทวนให้ดี แนะ “มท.-คมนาคม”คุย ก.คลังตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่พรรคกล้า ตัวแทนศูนย์สิทธิผู้บริโภคจากเขตยานนาวา สาทร ลาดพร้าว ราชเทวี และหลักสี่ ได้เดินทางมายื่นหนังสือพรรคกล้า เพื่อขอให้สนับสนุนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคในการคัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไปอีก 30 ปี โดยมีนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เป็นผู้รับมอบหนังสือ พร้อมกล่าวว่า พรรคกล้ายินดีร่วมต่อสู้บนแนวทางที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยมองว่าถ้าเอาหนี้ไปแลกกับสัมปทาน เป็นการแก้ปัญหาของรัฐ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะจะทำให้เงื่อนไขการคิดค่าบริการแพงสูงกว่า 1 ใน 4 ของค่าครองชีพขั้นต่ำ อยู่กับเราไปอีกจนถึงปี 2602 ซึ่งเป็นการต่อขยายเวลานานเกินไป และค่าบริการประเทศอื่นไม่สูงขนาดนี้ จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนให้ดี เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572

“อะไรที่รัฐเป็นหนี้กับบีทีเอส ก็ต้องจ่าย แต่เรื่องหนี้ต้องแยกออกจากเรื่องสัมปทาน คงไม่ใช่แค่เรื่องของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงคมนาคม แต่จะต้องปรึกษากระทรวงการคลังถึงโอกาสที่จะตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน มาร่วมระดมทุนระหว่างภาครัฐกับประชาชนเพื่อใช้หนี้แยกกับการต่อสัมปทาน มิฉะนั้น ถ้าให้สัมปทานเอกชนไปเรื่อยๆ แบบนี้ มันจะมีปัญหาทางไกล เพราะรัฐจะควบคุมราคาไม่ได้ เพราะเอกชนจะเป็นคนคิดต้นทุน และจะเสียโอกาสพัฒนาโครงข่ายขนส่งที่เชื่อมต่อกันทั้งระบบแบบไยแมงมุม” นายอรรถวิชช์ กล่าว

ด้านนางสำลี ศรีระพุก ประธานศูนย์สิทธิผู้บริโภค เขตยานนาวา กล่าวว่า กลุ่มเราขับเคลื่อนรวมกับสภาของผู้บริโภค มาตั้งแต่ที่จะกำหนดราคาค่าตั๋วสุดสายที่ 104 บาท จนปัจจุบันจะประกาศออกมาใช้ว่าสุดสายอยู่ที่ 65 บาท ซึ่งเป็นราคาสูง ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำรายได้ก็ไม่เยอะ การดำรงชีพ มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่แล้ว การขึ้นรถไฟฟ้าไม่ใช่ขึ้นแค่จุดเดียวแล้วถึงบ้าน ไหนจะมาต่อมอเตอร์ไซค์ ต่อรถอีก ค่าแรงก็น้อยอยู่แล้ว ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ เป็นภาระที่ผู้บริโภคต้องแบกรับไว้ จึงอยากให้รัฐบาลได้มองและทบทวนเรื่องนี้ เห็นใจประชาชนผู้บริโภคบ้าง

QR Code LINE @Matichon

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก

Line @Matichon ได้ที่นี่

LINE @Matichon