ตร.อุดรล่าโจรแสบอ้างเป็นตำรวจกองปราบบุกค้นหอพักฉกมือถือคุณยายวัย 78 – สยามรัฐ

ตร.อุดรธานี ล่าโจรแสบอ้างเป็นตร.กองปราบบุกหอพัก ทำเนียนติดตามรถจยย.ถูกขโมยมา อาศัยทีเผลอฉกมือถือยายไปด้วย ตร.เร่งตรวจสอบกล้องล่าตัว แสบเสียเหลือเกิน

วันนี้ (17 ธ.ค.64) ร.ต.อ.สุนทร ชุดชนบท รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ191 รุดตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ว่ามีเหตุชายอ้างเป็นตำรวจกองปราบบุกค้นหอพักไม่มีชื่อ โดยไม่มีหมายค้น เลขที่ 23/1 หมู่ 1 ซ.ศรีสวรรค์ ชุมชนหนองขอนกว้าง ถ.ทหาร ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่เกิดเหตุเป็นอาคารหอพัก 3 ชั้น สีเขียว พบนางวริษฐา สุวกูล อายุ 78 ปี เจ้าของหอพัก ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 13.45 น. มีชาย อายุราว 30-35 ปี รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง ผมรองทรงสั้น สวมเสื้อคลุมโทนสีส้มเหลือง ข้างในสวมเสื้อยืดคอกลมสีเข้ม มีสัญญาลักษณ์ตำรวจ นุ่งกางเกงขายาวสีเข้ม ขี่รถจักรยานยนต์แบบหญิง จำยี่ห้อ รุ่น และสี ไม่ได้ มาจอดในหอพักวางหมวกแก๊ปสีดำมีภาษาอังกฤษเขียนว่าโปลิศ (POLICE) แขวนไว้แฮนด์รถจักรยานยนต์ แล้วเดินวนไปมาบริเวณที่ชั้นล่าง

ตนจึงถามว่าเป็นใคร มาทำอะไร คนร้ายได้พูดอ้างว่าเป็นตำรวจกองปราบ ซึ่งเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ได้มาติดตามหารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดงที่ถูกโจรกรรมมา ตนก็ให้ความร่วมมือบอกให้เดินดูเลย คนร้ายเดินรอบหอพักแล้วไปหยุดที่ห้องพักของตน ซึ่งอยู่ชั้นล่างติดกับบันไดทางขึ้นชั้นสอง ซึ่งเปิดประตูเอาไว้ พร้อมกับสอบถามว่า ในห้องมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ ตนบอกว่ามี คนร้ายได้เข้าไปยืนหน้าประตูห้อง และชะโงกหน้าเข้าไปดูในห้อง เห็นคนร้ายเอื้อมมือเข้าไปหยิบสิ่งของบางอย่างในห้อง ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป”

นางวริษฐา ให้การต่อว่า หลังจากคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ออกไปแล้ว ตนก็ปิดห้องพักแล้วเดินไปกินข้าวที่บ้าน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหอพัก เสร็จแล้วเดินกลับมาห้องพัก เพื่อจะเอาโทรศัพท์มือถือโทรหาลูกที่ตนวางไว้บนเตียงนอนในห้องพัก ปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง ราคา 4-5 พันบาท เคสสีทอง ของตนหายไป และมั่นใจว่าชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจกองปร

าบ เป็นคนลักโทรศัพท์ไปอย่างแน่นอน จึงให้หลานสาวโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ คนร้ายเป็นคนมีลักษณะดี แต่งตัวสะอาด ไม่คิดว่าจะเป็นมิจฉาชีพ ต่อไปคราวหน้าหากมีเหตุการณ์เช่นนี้อีก ตนจะขอดูบัตรข้าราชการตำรวจ และสังเกตจดจำตำหนิรูปพรรณ ยานพาหนะของคนร้ายให้มากกว่านี้”

ด้านตำรวจได้โทรศัพท์เข้าเบอร์โทรศัพท์ของ นางวริษฐาฯ ปรากฏว่าคนร้ายได้ปิดเครื่องโทรศัพท์ของผู้เสียหายไปแล้ว หลังจากนี้ตำรวจจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหอพัก ซึ่งเจ้าของหอพักจำรหัสเปิดไม่ได้ จึงต้องประสานไปยังบริษัทติดตั้งกล้องวงจรปิดมาปลดล็อค และจะตรวจสอบตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายขี่จักรยานยนต์มาก่อเหตุและหลบหนีไป เพื่อเป็นเบาะแสและหลักฐานติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้เสียหายแนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ไวเป็นหลักฐานด้วย/////