จับเด็กแว้นนอนขับรถ โดน 7 ข้อหา สั่งริบรถ – Chiang Mai News

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลา 15.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ศปข.ตร.) แถลงผลการจับกุมเด็กแว้นนอนขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง โดนหนัก 7 ข้อหา ศาลสั่งริบรถ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่ชาวบ้านถ่ายคลิปวีดีโอกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 3 คน นอนขับรถ บริเวณ ถนนเสิงสาง – หนองกี่ บริเวณบ้านหนองไผ่น้อย ต.เสิงสาง อ.เสิงสาง จว.นครราชสีมา มุ่งหน้า อ.เสิงสาง ตนจึงได้สั่งการ พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.ณรงค์ เสวก รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.ถึงพร ปานทอง ผกก.สภ.เสิงสาง และทีมโซเชียลมีเดีย ศปข.สภ.เสิงสาง สืบสวนพิสูจน์ทราบบุคคลตามคลิปวีดีโอดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายมนตรีฯ อายุ 19 ปี ผู้ขับขี่

จากการสอบถามขยายผลทราบว่า ในคืนก่อเหตุ มีเยาวชนอายุ 15 ปี อีกสองราย เป็นผู้ซ้อนท้ายนั่งพ่วงข้างมาด้วย พนักงานสอบวน สภ.เสิงสาง ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายมนตรีฯ คนขับ ดังนี้ “ขับประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายเเก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ, ขับรถไม่ได้จัดทำ พ.ร.บ., ขับรถซึ่งไม่ชำระภาษี, ขับรถไม่ติดเเผ่นป้าย, ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย, ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่นั่งคร่อมบนอาน (นอนขับ), ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น, ไม่จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ รวม 7 ข้อหา และเยาวชนที่เป็นคนซ้อนในข้อหา ไม่สวมหมวกนิรภัยเเละไม่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ในที่สำหรับนั่งซ้อนท้าย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งศาลแขวงจังหวัดนครราชสีมา ต่อมาศาลฯได้พิพากษาริบรถจักรยานยนต์ของกลาง

ผอ.ศปข.ตร. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงปัญหาการแข่งรถในทาง เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่สังคมและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน จึงกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนและยั่งยืน จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแส สามารถแจ้งมายัง ศปข.ตร. ได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือถ่ายคลิปวิดีโอส่งมาทาง เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. จะมีเงินรางวัลนำจับ 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้