ประชุมบอร์ด กกท. หรือคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ล่าสุดเมื่อวันวาน ซึ่งมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งหัวโต๊ะ ซึ่งที่ประชุมก็ได้เห็นชอบแผนงานในหลายๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นแผนงานการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพการกีฬา ประจำปี 2565 ซึ่งจะประกอบด้วย แผนงานบูรณาการการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว, แผนงานยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพการกีฬา, แผนงานพื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งแผนงานบุคลากรภาครัฐ
รวมถึงเรื่องของ “โมโตจีพี” หรือการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก ซึ่งไทยเราจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ อันถือเป็นเกมที่เลื่อนมาจากปีก่อน และนับว่าเป็นการจัดครั้งที่ 3 ครั้งสุดท้ายในสัญญาเดิม โดยจะมีขึ้นในวันที่ 10 ต.ค. ที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
โดยในส่วนนี้ที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติใช้เงินสะสมของ กกท. เพื่อสมทบค่าลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขัน โมโตจีพี ประจำปี 2564 เป็นเงินจำนวน 100,000,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 ซึ่ง กกท.ได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ไว้แล้วแต่ไม่ได้ใช้จ่ายในปี 2563 จึงนำยอดคงเหลือทั้งหมดสะสมไว้เป็นเงินสะสมของ กกท. เพื่อสำหรับไว้ใช้จ่ายสมทบเป็นค่าลิขสิทธิ์ในปี 2564
รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันโมโตจีพี ประจำปี 2564 เป็นเงินจำนวน 152,066,445 บาท ซึ่งเป็นกรอบวงเงินเดิมเช่นกันซึ่งไม่ได้ใช้จ่ายในปี 2563 จึงนำยอดคงเหลือทั้งหมดสะสมไว้เป็นเงินสะสมของ กกท.มาใช้จ่าย เท่ากับว่ารวมทั้งค่าลิขสิทธิ์และค่าดำเนินการจัดเเข่งขันในปี 2564 จะอยู่ที่ 252 ล้านบาทเศษ!
พล.อ.ประวิตรยังกำชับ กกท. ให้การจัดโมโตจีพี 2021 จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องโปร่งใส ใช้งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนอย่างประหยัด คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน และเจ้าหน้าที่ทุกคน จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นในการส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวให้กลับมาสู่ประเทศไทยโดยเร็วอีกครั้ง
นั่นสะท้อนได้ชัดเจนว่า “โมโตจีพี” จะเป็นเกมที่สำคัญยิ่ง ที่จะฉายภาพประเทศไทยออกไปสู่สายตาประชาคมโลก เมื่อดูถึงช่วงเวลาซึ่งจะจัดกันในเดือนตุลาคม หรือราวๆ 7 เดือนข้างหน้า ก็นับเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม
วันนี้วัคซีนลอตแรกมาถึงเมืองไทยแล้ว และจะทยอยมาตามคิวที่ภาครัฐได้ประกาศไว้ ต่อไปก็คงจะเริ่มกระบวนการฉีด ใครจะฉีดก่อนหลัง หรืออยากไม่อยากฉีดก็แล้วแต่ เชื่อว่าในที่สุดก็ต้องฉีดกันเป็นส่วนใหญ่และส่วนมาก หรือเกือบหมดนั่นแหละ
แน่นอน วัคซีนมา สัมผัสจับต้องได้ โลกก็ฉีดกันไปก่อนหน้านี้บ้างแล้ว แม้โควิดจะยังอาละวาดอยู่ และยังต้องยกการ์ดมีมาตรการเข้มข้น แต่อารมณ์ความรู้สึกและข้อเท็จจริงก็พอจะชี้ให้เห็นในทิศทางที่ผ่อนคลายบรรเทาเบาบางลง
อีก 7 เดือนข้างหน้า บรรยากาศย่อมจะคลี่คลายไปกว่านี้อีกมาก จะเป็นช่วงปลายของวิกฤติที่กำลังเข้าสู่ช่วงของการฟื้นคืนสภาพ สถานการณ์ต่างๆก็ยิ่งจะทำให้ “โมโตจีพี” มีความสำคัญมากขึ้นไปอีก
เป็นโอกาสที่ได้โชว์ จะมีกิจกรรมแวดล้อมอะไรบ้าง!
ต้องฉลาดคิด ฉลาดทำ และต้องใช้เงินให้ฉลาดด้วย อย่าใช้เป็นโอกาสให้รั่วไหลก็แล้วกัน…
“เบี้ยหงาย”