ตลอดระยะเวลา 3 วันในช่วงการแข่งขันถือว่าประสบความสำเร็จกระแสตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่แห่เข้ามาชมล้นหลามมาก เฉลี่ยประมาณ 178,463 คน สร้างรายได้โดยรวมในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดอื่นๆ ประมาณ 4,048 ล้านบาท นอกจากนี้ทาง “ดอร์น่า สปอร์ต” ยังประกาศปฏิทินการแข่งขัน “โมโตจีพี ฤดูกาล 2023” เรียบร้อยแล้วเช่นกัน โดยสนามไทยถูกบรรจุให้เป็นสนามที่ 18 ของฤดูกาล ซึ่งกำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค. 2566 และจะจัดต่อเนื่องไปอีก 5 ปีเป็นอย่างน้อย ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ด้าน “เจ้าก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยเจ้าของหมายเลข 35 จากอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงในรุ่นโมโตทูและหมายมั่นที่จะยึดโพเดียมในบ้านให้ได้เพื่อเป็นประวัติศาสตร์ แต่ดูเหมือนฟ้าฝนไม่เป็นใจกระหน่ำตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้ “เจ้าก้อง” มีอันต้องอกหักหลังพลาดท่าล้มในโค้งที่ 4 เมื่อวิ่งไปเพียงแค่ 2 รอบเท่านั้น ทำให้ต้องออกจากการแข่งขันทันทีไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ “เคเค” เขมินท์ คูโบะ ดาวบิดไทยสังกัดวีอาร์ โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์ แคมป์ ทีม กลับฉายแววเจิดจรัสขึ้นมาด้วยการโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจบอันดับ 9 เก็บแต้มสำคัญในบ้านได้อย่างประทับใจ ส่วนแชมป์สนามนี้เป็นของ “โทนี อาร์โบลีโน” นักบิดชาวอิตาลีของทีมมาร์ค วีดีเอส เรซซิ่ง