วันที่ 19 เม.ย. 2564 เวลา 11:50 น.
ผู้แทนรัฐบาลแห่งชาติชี้ถ้าอยากแก้ปัญหาของเมียนมา อาเซียนต้องคิดให้รอบคอบ และต้องเชิญรัฐบาลแห่งชาติเข้าร่วมด้วย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมารัฐบาลแห่งชาติ (หรือรัฐบาลเงา) ของเมียนมาเรียกร้องให้ผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชิญไปนั่งร่วมโต๊ะระหว่างการเจรจาวิกฤตในสัปดาห์หน้าและอาเซียนต้องแสดงจุดยืนไม่ยอมรับระบอบทหารที่ยึดอำนาจในการรัฐประหารเมื่อเดือนก. พ.
มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาคาดว่าจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนรอบพิเศษเกี่ยวกับวิกฤตในเมียนมาในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นการเดินทางไปต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่การทำรัฐประหารขับไล่อองซานซูจีผู้นำพลเรือน
การเชิญ มิน อ่อง หล่าย เข้าร่วมการประชุมอาเซียนถูกโจมตีจากจากนักเคลื่อนไหวในเมทียนมาและในต่างประเทศที่เรียกร้องให้ผู้นำประเทศต่างๆ ไม่ยอมรับรัฐบาลทหารอย่างเป็นทางการ
โม ซอ อู (Moe Zaw Oo) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ “รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ” อาเซียนไม่ได้ติดต่อกับพวกเขา (รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา หรือ NUG คือรัฐบาลคู่ขนานซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันศุกร์โดยฝ่ายนิติบัญญัติเมียนมาที่ถูกชิงอำนาจโดยทหารและส่วนใหญ่มาจากพรรคของซูจีรวมถึงนักการเมืองที่เป็นชนกลุ่มน้อย )
“หากอาเซียนต้องการช่วยแก้ไขสถานการณ์เมียนมา พวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จใดๆ หากไม่ปรึกษาและเจรจากับ NUG ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่” โม ซอ อู กล่าวกับบริการภาษาพม่าของสำนักข่าวVoice of America
“เป็นเรื่องสำคัญที่สภาทหารนี้จะไม่ได้รับการยอมรับ เรื่องนี้ต้องได้รับการจัดการอย่างรอบคอบ” โม ซอ อู กล่าวย้ำ
ในขณะเดียวกันรัฐบาลทหารยังคงกำหนดเป้าหมายไปที่สื่อในวันอาทิตย์โดยจับกุมนักข่าวอิสระชาวญี่ปุ่น ยูกิ คิตะซุมิ (Yuki Kitazumi) โดยผู้ช่วยของเขาเผยว่า นักข่าวญี่ปุ่นรายนี้ถูกจับที่บ้านในย่างกุ้งเมื่อเย็นวันอาทิตย์
ในเดือนกุมภาพันธ์คิตะซุมิ ถูกทำร้ายร่างกายและถูกควบคุมตัวในช่วงสั้นๆ ระหว่างการปราบปรามผู้ประท้วง แต่ได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา
ขณะนี้จำนวนผู้สื่อข่าวที่ถูกจับกุมมีทั้งหมดมากกว่า 65 คนและอย่างน้อย 34 คนยังคงถูกควบคุมตัวตามรายงานของกลุ่ม Reporting ASEAN
เจ้าหน้าที่ประกาศเมื่อคืนวันอาทิตย์ทางโทรทัศน์ของรัฐว่ามีคนดังอีก 20 คนและแพทย์อีก 20 คนจะถูกเพิ่มในรายชื่อหมายจับของบุคคลที่มีชื่อเสียงรวม 420 คน
ก่อนหน้านี้เกิดความไม่สงบทั่วประเทศในวันอาทิตย์โดยผู้ประท้วงชุมนุมกันในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองมิตทิลา เขตมะกเว และมยิงยันเพื่อแสดงการสนับสนุนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ผู้ประท้วงรุ่นเยาว์ยังจัดแสดงการชุมนุมด้วยมอเตอร์ไซค์ขณะถือธงในเมืองพะกันต์และเมืองสะกาย
ที่ปะลอทางตอนใต้ของประเทศผู้ประท้วงติดป้ายประกาศว่า “เผด็จการทหารไม่ควรได้รับอนุญาตให้ปกครอง ระบอบเผด็จการจะถูกถอนออกไป ขอสนับสนุนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ”
คืนที่ผ่านมามีการปะทะกันอย่างดุเดือดในเมืองโมกกซึ่งเป็นแหล่งผลิตอัญมณีตอนกลางเมื่อกองกำลังความมั่นคงปราบปรามผู้ประท้วง ตามวิดีโอที่ตรวจสอบโดย AFP ซึ่งถ่ายโดยผู้อยู่อาศัยในเมือง พบว่าทหารหมอบคลานอยู่บนถนนขณะที่ผู้บังคับบัญชาของพวกเขาตะโกนว่าเขาต้องการฆ่าให้ตาย ต่อมาสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 รายที่เมืองโมกก
ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ยังคงอยู่ภายใต้เคอร์ฟิวที่กำหนดไว้ไม่นานหลังการรัฐประหารโดยเริ่มตั้งแต่ 20.00 น. ถึง 04.00 น. ทุกคืน และเมื่อช่วงสายของวันเสาร์ชายหนุ่มคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตในเมืองจอกเมทางตอนเหนือของรัฐฉานขณะขี่มอเตอร์ไซค์ในช่วงเคอร์ฟิว
“เขาถูกเจ้าหน้าที่ยิงตอนที่เขาและเพื่อนคนอื่นๆ ขับรถมอเตอร์ไซด์ประมาณ 21.00 น. เขาถูกยิงที่ศีรษะ” เจ้าหน้าที่กู้ภัยกล่าวกับ AFP และเสริมว่างานศพของเขาจะมีขึ้นในวันอาทิตย์
Photo by Handout / ANONYMOUS / AFP