คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565

คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565

ฟุตบอลโลก กาตาร์ มาบรรจบ

สามสิบสอง ทีมครบ เข้าแข่งขัน

ไม่ว่าแพ้ หรือชนะ ให้เกียรติกัน

เรื่องเดิมพัน มิสร้างสรรค์ อย่าย่างกราย

ดูบอลแล้ว นำพา หาสติ

ให้พลิ สามัคคี ชนทั้งหลาย

จะสูงต่ำ ดำขาว หรือชาติใด

เล่นด้วยใจ นักกีฬา พาโลกงาม

………………..เบญจรงค์…………………..

** พูดถึงโควิด19 ซึ่งในขณะนี้ได้กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่แล้ว อย่าได้วางใจในสถาการณ์เวลาไปข้างนอกควรจะสวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้นไว้ได้ก็จะดีแล้วพกเจลแอลกอฮอล์ไปด้วยเผื่อเวลาสัมผัสสิ่งของหลีกเลี่ยงคนกลุ่มเยอะๆ และข้อสำคัญหลีกเลี่ยงไปร่วมกิจกรรมที่มีผู้คนจำนวนมาก เพราะอาจจะไปติดโควิดสายพันธุ์ใหม่เข้าก็ได้ ข่าวว่า ติดง่ายและหายยากด้วย จึงขอบอกเอาไว้ให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกัน

** ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตามแต่ ที่เป็นผู้ทำให้เกิดเชื้อไวรัสโควิด19 ขึ้นมา ก็ขอให้ประเทศนั้นได้รับผลกรรมที่ก่อไว้กับชาวมนุษยชาติขอประณาม และสาปแช่งว่า ขอให้ประเทศนั้นมีอันเป็นไปในทางที่ไม่ดี จนจบชีวิตลง เพราะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนมามากต่อมาก…….กรรมใดใครก่อกรรมนั้นจะสนองมันโดยหลีกเลี่ยงไม่พ้นแน่นอน

** ขอแสดงความเสียใจกับผู้คนที่เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซีย 5.6 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 260 ศพ และมีผู้สูญหายอีกนับร้อย นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของอินโดนีเซีย ยังมีบ้านเรือนเสียหายอีกหมื่นกว่าหลัง ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ในประเทศอินโดนีเซีย กำลังค้นหาผู้คนที่ติดอยู่ใต้ตึกอีกเป็นจำนวนมาก นับเป็นการสูญเสียครั้งที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย

** เวลานี้โจรผู้ร้ายเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะยาเสพติดที่ทำให้พวกมันต้องเป็นโจรผู้ร้ายมากขึ้น จึงขอเตือนไปยังร้านทองทุกร้านทั่วประเทศให้เช็คกล้องวงจรปิดว่าเสียหรือเปล่า เวลานี้โจรผู้ร้ายจะดูที่การแต่งตัวไม่ได้แล้ว พนักงานร้านขายทองจะต้องใช้วิจารณญาณให้ดีก่อนที่จะยื่นทองรูปพรรณไปให้คนร้าย มันจะฉกเอาไปดื้อๆทุกอย่างต้องป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด อย่าได้หวังพึ่งตำรวจอย่างเดียว  ประตูบ้านหรือบริษัทห้างร้าน ถ้าไม่มีกิจธุระอะไรก็ให้ปิดประตูให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันโจรผู้ร้ายที่จะมาฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ เอาง่ายๆ อย่างที่เป็นข่าวอยู่ทุกๆวันก็ว่าได้

** แก่ตัวมากขึ้น ควรพูดให้มากขึ้น….. แพทย์หลายท่านชี้ว่าคนวัยเกษียณ (ผู้สูงวัย) ควรจะพูดคุยให้มากขึ้น เพราะขณะนี้ยังไม่มีทางรักษาและป้องกันรักษาโรคความจำเสื่อมได้เลย ทางเดียวที่ช่วยได้คือ การพูดคุยสนทนาให้มากขึ้น… การพูดคุยมีประโยชน์ต่อผู้สูงวัยอย่างน้อย 3 ประการ ประการแรก การพูดกระตุ้นและทำให้สมองมีความคล่องแคล่ว เพราะภาษากับการคิดจะสื่อสารระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาพูดเร็วซึ่งส่งผลโดยธรรมชาติให้เกิดปฎิกริยาการคิดที่เร็วขึ้นและเพิ่มความจำ บรรดาผู้สูงวัยทั้งหลายที่ไม่พูดคุยมีแนวโน้มสมองเสื่อม ประการที่สอง การพูดช่วยคลายความเครียดได้มากที่เดียว ช่วยไม่ให้เป็นโรคจิตและลดความเครียด บ่อยครั้งเราไม่พูดแต่จะเก็บกดไว้ในใจเรา นี่เป็นความจริง ด้วยเหตุนี้จะเป็นการดีที่จะให้โอกาสผู้สูงวัยทั้งหลายได้พูดมากขึ้น ประการที่สาม การพูดช่วยให้กล้ามเนื้อบนใบหน้า ทรวงอกได้ขยับตัวออกกำลังและเพิ่มสมรรถภาพของปอด ในขณะเดียวกันการพูดลดความเสี่ยงของการเสื่อมในดวงตาและหู รวมถึงความเสี่ยงที่แฝงมาเช่น ทำให้เวียนศรีษะและหูหนวก สรุปสั้น ๆ ได้ว่า…สำหรับคนวัยเกษียณหรือบรรดาผู้สูงวัยทั้งหลาย ทางเดียวที่จะป้องกันโรคอัลไซเมอร์คือการได้พูดคุยสนทนากับผู้คนเท่าที่จะมากได้ และสนทนาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ไม่มีวิธีอื่นใดจะรักษาโรคนี้ได้เท่ากับ…การพูดคุย ดังนั้น.. ขอให้เราพูดคุยกันมากขึ้นและกระตุ้นให้ผู้สูงวัยท่านอื่น ๆ พูดคุยสนทนากับญาติมิตรและคนรอบข้างมากขึ้น ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และดีต่อสุขภาพ ส่งผลดีต่อชีวิตและคุณภาพประชากรสูงวัยของชาติต่อไป….

**มีข่าวดีมาบอก…ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขอเชิญชวนร่วมกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ หัวใจ Happy Heart Connect เชื่อมต่อทุกหัวใจให้แข็งแรง” พร้อมเชื่อมต่อทุกการรักษาเปลี่ยนลิ้นหัวใจสู่ผู้ป่วยทั่วประเทศ โดยสนับสนุนและขยายโอกาสการเข้าถึงการรักษาด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ชั้นนำให้กับผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจด้อยโอกาสจากทั่วประเทศ ผ่านโครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียม ผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด TAVR ซึ่งจะเปิดรับสมัครผู้ป่วยเพิ่มอีกจำนวน 150 ราย เนื่องในโอกาสครบรอบ 13 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยมี ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมเป็นประธานเปิดงาน พร้อมรับฟังเสวนา “นวัตกรรมการรักษาโรคหัวใจ และโครงการ TAVR สัญจรเพื่อการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยผ่านโรงพยาบาลเครือข่ายทั่วประเทศ” จากทีมแพทย์ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด…มีข่าวดีก็บอกต่อ

**วันทุกวันเป็นวันสำคัญ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่ากันว่าเป็น “วันเหยื่อโลก” เหยื่อยังไง พญ.ชไมพันธุ์ สันติกาญจน์ หัวหน้าโครงการขับเคลื่อนสังคมไทยเพื่อผู้ใช้จักรยานยนต์ปลอดภัย ร่วมกับเครือข่ายรับผลกระทบจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ และเครือข่ายช่างเชี่ยว เปิดเผยข้อมูล “วันเหยื่อโลก” 20 พ.ย.ที่ผ่านมา 2565 ว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่ครองแชมป์การตายสูงสุดจากรถจักรยานยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ ส่งผลให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่เป็นคนไทย เป็นเหยื่อการจัดการ และ ความเหลื่อมล้ำบนท้องถนนไทยมานานกว่า 53 ปี การประกาศนโยบายในการป้องกันอุบัติเหตุของกระทรวงสาธารณสุข มีมาตั้งแต่ปี 2512 แต่จนถึงปัจจุบัน นานกว่า 50 ปี อุบัติเหตุกลับไม่ได้ลดลงเลย ! มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ที่ต้องบอกว่า วันนี้เป็นเรื่องเดียวที่ได้แชมป์ แต่เป็นแชมป์ที่ไม่พึงประสงค์ เปิดสถิติน่าเศร้า “วันเหยื่อโลก” ประเทศไทยครองแชมป์ ขี่มอเตอร์ไซค์ตายสูงสุดกว่า 3 แสนคน ผงะทุก 37 นาที ตาย 1 คน อย่างน่าตกใจ ใช้รถจักรยานยนต์ สำคัญต้องตรวจตราสภาพรถให้สมบูรณ์ ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว คนพร้อม ใส่หมวกกันน็อค ขับขี่ด้วยสติรอบคอบ ให้รอดตายเป็นวัน ๆ นะ

** ศาลให้ความคุ้มครองกลับมาทำงาน ก็ต้องสำนึกทำหน้าที่ให้ดีมีประโยชน์ใช้ดุลยพินิจโดยชอบ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายสูญเปล่าสิ้นเปลืองไร้ประสิทธิภาพต่อเงินหลวง คอข่าว คอลัมน์หมายเลข 7 ตามไปสอดส่องโครงการเสาไฟฟ้ากินรี ที่ อบต.ราชาเทวะ หลังมีกระแสข่าวว่าจะมีการจัดซื้อเพิ่มอีกกว่า 700 ต้น มูลค่ากว่า 69 ล้านบาท ในปีหน้า ทั้งที่ก็เพิ่งจะจัดซื้อไปกลางปี ท่ามกลางข้อกังขาความไม่โปร่งใส แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กล่าวหาความไม่ชอบมาพากล การจัดซื้อเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี ของ อบต.ราชาเทวะ จังหวัดสมุทรปราการ การตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของหลายหน่วยงาน เช่น ป.ป.ช. ที่ไต่สวนการใช้งบประมาณจัดซื้อ จนพบความผิดปกติ และมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องไปแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ราย จากการใช้งบประมาณปี 2556-2564 รวมวงเงินกว่า 871 ล้านบาท แต่การใช้งบประมาณก็ยังไม่จบ ช่วงกลางปีที่ผ่านมา อบต.ราชาเทวะ ได้พยายามจัดซื้อเสาไฟฟ้ากินรีอีก 720 ต้น วงเงินเกือบ 69 ล้านบาท แม้จะมีเสียงทัดทานของนายอำเภอบางพลี ที่สั่งชะลอโครงการถึงสองครั้ง แต่สุดท้ายก็มีการจัดซื้อไปจนได้ และทำให้ยอดการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการนี้ พุ่งไปถึง 939.2 ล้านบาท และหากคิดรวมกับยอดแผนจัดซื้อเสาไฟฟ้ากินรีใหม่ เพิ่มอีกจำนวน 727 ต้นในปีหน้า ต้นละประมาณ 95,000 บาท วงเงินรวม 69 ล้านบาท ก็จะทำให้ใช้เงินงบประมาณถึง 1,000 ล้านบาท สมาชิกที่เข้าร่วมการประชุม เปิดเผยรายละเอียดว่า นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ ซึ่งได้รับการประกันตัวในคดีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม และจนถึงขณะนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะมีการจัดซื้อเสาไฟฟ้ากินรีเพิ่มเติมในปีหน้าหรือไม่ สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างเสาไฟประติมากรรมกินรี ของ อบต.ราชาเทวะ ภายใต้การบริหารงานของนายทรงชัยฯ ได้ถูกกังขาและจับจ้องจากสังคมเป็นระยะ โดยเฉพาะการกล่าวหาเรื่องความไม่โปร่งใส จนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ มีคำสั่งปลดจากตำแหน่งเป็นการชั่วคราว หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีจัดซื้อรถดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าบันไดสูง จำนวน 1 คัน วงเงิน 33.9 ล้านบาท เมื่อปี 2555 แต่เจ้าตัวก็ยื่นขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว จนสามารถกลับเข้ามานั่งเก้าอี้ได้ตามเดิม ในเดือนพฤษภาคม ก่อนปรากฎแผนเดินหน้าจัดซื้อเสาไฟฟ้ากินรีเพิ่มอีกจำนวน 727 ต้น ในปีหน้า ซึ่งอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สะท้อนมุมมองเรื่องนี้ ว่าอาจมีความจำเป็นที่จะต้องดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และรับฟังความเห็นของสังคมส่วนรวม ก่อนหน้านี้ คอลัมน์หมายเลข 7 เคยสอบถามความเห็นประชาชนในตำบลราชาเทวะ ได้รับคำตอบว่า พอแล้วสำหรับเสาไฟฟ้ากินรี อยากให้ อบต.ราชาเทวะ นำเงินไปพัฒนาด้านอื่นมากกว่า สำหรับ อบต.ราชาเทวะ ถือเป็น อบต.ที่รวยติดอันดับ Top 5 จากจำนวน อบต. ทั้งหมด 5,300 แห่ง มีแผนใช้งบประมาณปี 2566 รวมเกือบ 357 ล้านบาท หากมีการจัดซื้อเสาไฟฟ้ากินรี วงเงิน 69 ล้านบาทจริง ก็เท่ากับใช้งบประมาณไปกับโครงการนี้ถึง 19.33 % ของแผนการใช้งบประมาณทั้งหมด ใช่สิ่งที่ชาวตำบลราชาเทวะต้องการหรือไม่ มีแต่ประชาชนที่จะสะท้อนได้ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ข้อคิดทิ้งท้ายว่า…อย่าคิดว่าศาลให้คุ้มครองแล้วก็ได้ใจทำอะไรก็ได้ การใช้ดุลยพินิจที่มีแต่จะเกิดความสูญเปล่าสิ้นเปลืองไร้ประสิทธิภาพไม่เหมาะสมไม่คุ้มค่า ลางแต่จะเสียหาย ! นั่นเป็นดุลยพินิจที่ส่อไปในทางไม่สุจริต ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เป็นดุลยพินิจโดยมิชอบ เกินเลยจากที่ศาลให้ความคุ้มครอง !

** อุ้ย ! ตกใจหมดเลย จากที่การส่งต่อข้อความทางแอปพลิเคชัน “ไลน์” ที่ระบุว่าการส่งต่อภาพและทักทายสวัสดีที่เป็นภาพเคลื่อนไหวและกดรับภาพเหล่านั้น จะถูกนักล้วงเจาะข้อมูลหรือแฮกเกอร์ โดยเจาะข้อมูลในไฟล์ภาพ และไฟล์ภาพเคลื่อนไหว พร้อมทั้งขโมยข้อมูลส่วนตัวหมายเลขบัตรเครดิตและรหัสลับส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งขณะนี้มีเหยื่อถูกหลอกลวงแล้ว 500,000 ราย ดังนั้นขอให้ผู้ที่ได้รับข้อความดังกล่าวให้ลบภาพที่รับทักทายด้วยนั้น กระทรวงดีอี ได้ตรวจสอบแล้ว ขณะนี้ยังไม่พบรายงานการเจาะระบบ หรือการเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบจากการส่งภาพ หรือภาพเคลื่อนไหวผ่านทางไลน์แต่อย่างใด “ดีอี” ออกมาเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกเกิน ส่งภาพทักทายทางไลน์ไม่ถูก “แฮกเกอร์” ทั้งนี้ ในทางทฤษฎี หากไลน์มีช่องโหว่การฝังสคริปต์ในภาพอาจนำไปสู่การเจาะระบบได้ แต่ไลน์ได้วางระบบป้องกันปัญหากรณีของการส่งภาพต่างๆผ่านโปรแกรมไลน์ โดยระบบของไลน์ จะแปลงภาพนั้นเป็นไฟล์ภาพที่เป็นลักษณะเฉพาะของ LINE (Line version of image) ดังนั้นหากมีรหัสที่แฝงอยู่ ก็จะได้ถูกปรับไฟล์ใหม่ให้เป็นเพียงภาพเท่านั้น และภาพที่ส่งจะได้จากการดึงจากเซิร์ฟเวอร์ของไลน์ไปยังผู้ใช้คนอื่น ไม่มีทางที่จะมีการเชื่อมต่อบุคคลที่ 3 ระหว่างแต่ละฝ่าย หรือจากผู้ส่งไปผู้รับโดยตรง ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าได้กังวลในการส่งรูปภาพข้อความคำกล่าวทักทายปรารถนาดีผ่านทางไลน์ เพราะไม่ได้เป็นช่องให้นักล้วงเจาะข้อมูลส่วนตัว (hackers) อย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย

 ** ระหว่างการประชุม APCE ที่ผ่านมา ก็ถือว่ามีการต้อนรับผู้นำต่างประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดี แต่ก็มีเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างม็อบกับตำรวจเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งการดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ของ กทม. โดยมี ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ก็ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้และบอกว่า การกระทำที่รุนแรงของฝ่ายม็อบก็ต้องรับโทษกันไป ส่วนตำรวจจะทำเกินกว่าเหตุนั้นคงเป็นเพราะต้องการปกป้องชื่อเสียงของประเทศชาติเอาไว้เท่านั้นเอง

** ช่วงนี้อยู่ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งมีคนดูมากมาย แต่อย่าลืมว่า ดูฟุตบอลโลกให้สนุก และให้ครอบครัวไม่เดือดร้อน ต้องไม่เล่นการพนันเป็นอันขาด โดย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีคำสั่งห้ามเล่นการพนันฟุตบอลโดยเด็ดขาด จึงได้ให้ตำรวจมีการตั้งหน่วยงานที่จะคอยจับนักเล่นการพนันฟุตบอล เพื่อป้องกันและปราบปรามการเล่นการพนันฟุตบอลโลกในระหว่างนี้อย่างเข้มงวด ** มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า พื้นที่ของ สภ. เมือง นครนายก มียาเสพติดระบาดอย่างหนัก โดยเฉพาะยาบ้าขายดิบขายดีอย่างกับขายขนมอย่างนั้น ก่อให้เกิดพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายคอยฉกชิงวิ่งราวทรัพย์  และงัดแงะบ้านของชาวบ้านเขาจึงต้องฝากให้ พ.ต.อ. ชนินทร์ เดชชีวะ ผกก. สภ. เมืองนครนายก  ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊งให้ราบคาบไปเลย

** พื้นที่ของ สน. ท่าเรือ โดยเฉพาะชุมชนคลองเตย 80 ไร่ ยาเสพติดระบาดอย่างหนัก ซึ่งผู้ค้ารายใหญ่สั่งให้ลูกน้องเดินขายตั้งแต่เช้าจรดเย็นโดยไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก. สน. ท่าเรือ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดให้ราบคาบไปเลยก็ยิ่งดี โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น พร้อมทั้งพวกขี้ยาที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอดด้วย

** พื้นที่ของ สน. บางมด มีชาวบ้านร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า พื้นที่นี้เต็มไปด้วยยาเสพติด ยาบ้าขายดิบขายดี โดยผู้ค้าสั่งให้ลูกน้องเดินขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น โดยไม่สนใจใครทั้งสิ้นก่อให้เกิดพวกขี้ยาเวลาไม่มีเงินจะเสพยาก็คอยฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ชาวบ้าน และงัดแงะบ้านของชาวบ้านเขาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอดด้วย ฝาก พ.ต.อ. ศรศักดิ์ ทองมี ผกก. สน. บางมด  ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาไปปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊ง โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้นให้ราบคาบไปเลย และพวกขี้ยาที่กลายเป็นโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอดด้วย

** พื้นที่ สน. ท่าพระ เวลานี้เต็มไปด้วยยาเสพติดระบาดมีชาวบ้าน และเจ้าของร้านค้าร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า ยาเสพติดระบาดในพื้นที่ โดยเฉพาะยาบ้าก่อให้เกิดพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายที่คอยงัดแงะบ้านชาวบ้านเขาและวิ่งราวทรัพย์ด้วย จึงต้องขอฝากให้ พ.ต.อ. ไตรรัตน์ เพ็งนู ผกก. สน. ท่าพระ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊งให้ราบคาบไปเลยก็ดี

** พื้นที่ของ สน. สมเด็จเจ้าพระยา มีชาวบ้าน และเจ้าของร้านค้าร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า พื้นที่นี้ยาเสพติดระบาดไปทั่ว โดยเฉพาะยาบ้า ก่อให้เกิดพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. มหพล สายหยุด ผกก. สน. สมเด็จเจ้าพระยา ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊ง โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น และบรรดาพวกขี้ยาด้วย

** หลงทางเสียเวลา หลงเสพยาเสียอนาคต

** บริจาคปัจจัยและโลงศพให้กับศพผู้ไร้ญาติได้ที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้กุศลดี

ไมโครโฟน