การเมืองยามนี้ ปั่นป่วนมาก
1. “ปั่นป่วน” หมายความว่า
ป่วน – มีนักการเมือง นักโกงเมือง นักต่อรองผลประโยชน์การเมือง ออกฤทธิ์ออกเดช ป่วนในสภาถึงขนาดไม่แสดงตนในที่ประชุมหวังให้สภาล่ม กดดันรัฐบาล ไม่สนใจใยดีประโยชน์ในทางนิติบัญญัติของประเทศชาติ
ปั่น – มีการปั่นกระแสข่าว เพื่อสร้างความสับสนอลหม่าน ปั่นราคาให้กับการต่อรองของกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ไม่อินังขังขอบกับสภาพความเป็นไปว่าเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติหรือเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองบางกลุ่ม
2. รายงานข่าวว่า มีความเคลื่อนไหวของพรรคเศรษฐกิจไทยนำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา มีข้อสรุปเรื่องข้อเสนอต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อแลกกับการสนับสนุนรัฐบาล โดยเห็นตรงกันว่า บุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่ง มท.1 คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากมีศักยภาพ สามารถตอบสนอง สส.ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และเป็นการขยายฐานทางการเมืองรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โมเดลที่จะให้พล.อ.ประวิตร ควบ รมว.มหาดไทย แทน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั้น เคยมีการพูดถึงมาแล้วตั้งแต่ช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัส ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ โดยในครั้งนั้น สส.ในสาย ร.อ.ธรรมนัส ต่างสนับสนุน และต้องการให้ ร.อ.ธรรมนัส ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ด้วย
3. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ชี้แจงอย่างรวดเร็วว่า
“ตามที่มีข่าวจากสำนักข่าวบางสำนัก เผยแพร่ข่าวว่าผมและ กลุ่มพี่น้อง สส.พรรคเศรษฐกิจไทย ได้มีการประชุมกันที่ภูเก็ตและได้มีมติว่า “ทางพรรคจะร่วมรัฐบาลโดยขอต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ..
ผมและกลุ่มพี่น้อง สส. พรรคเศรษฐกิจไทย ขอยืนยันจุดยืนเดิม คือ ขอทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ดำรงไว้ซึ่งเสาหลักของบ้านของเมือง นั่นคือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ครับ #การเมืองวุ่นเพราะใคร”
น่าสังเกตว่า คำชี้แจงข้างต้นนั้น เป็นการบอกปัด มากกว่าจะปฏิเสธตรงๆ
4. สมรภูมิการเมืองเวลานี้ เรียกได้ว่า นายกฯลุงตู่ กำลังโดนรุมกินโต๊ะ
ถูกขัดแข้งขัดขาโดยฝ่ายค้านในสภาที่เป็นลูกน้องของคนโกงหนีคดีที่อยากจะกลับบ้านแบบไม่ติดคุก
ถูกต่อรองเก้าอี้โดยกลุ่มนักการเมืองน้ำเน่า
ขณะที่นายกฯ มุ่งทำงานเพื่อแก้ปัญหารุมเร้าของประเทศชาติสารพัดเรื่อง เช่น ฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิดขับเคลื่อนการแก้หนี้ชาวบ้าน ฯลฯ
ขณะนี้ ตัวเลข สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งสภา 474 คน
ฝ่ายค้าน = 208 เสียง
เสียงรัฐบาล เมื่อลบกลุ่มธรรมนัสออกไป 20 เสียง = 246 เสียง
องค์ประชุม = 237 เสียง
รัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง = 8 เสียง
ถ้าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กลุ่มธรรมนัสและพรรคเล็กหันไปโหวตสนับสนุนฝ่ายค้าน (20+5+208) ขาดแค่ไม่กี่เสียงก็จะมากกว่าเสียงฝั่งรัฐบาล
กรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ถ้าฝ่ายรัฐบาลมีเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ฝ่ายค้านโหวตสวน รัฐบาลก็ต้องลาออก
ด้วยเหตุนี้ จึงมีข่าวกลุ่มก๊วนการเมืองพยายามต่อรองเก้าอี้
5. สภาพการณ์เช่นนี้ สภาล่มซ้ำซาก การเมืองน้ำเน่า เป็นมลพิษ ทำให้คนในสังคมย้อนกลับไปนึกเปรียบเทียบกับช่วง คสช.
5 ปีนั้น การแก้ปัญหาหมักหมมหลายเรื่องเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่ายุคที่มีสภาล่มซ้ำซากแบบนี้
ไม่ว่าจะเป็น การปลดธงแดง ICAO ได้เป็นผลสำเร็จหลังจากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ติดธงแดงประเทศไทย มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน จนต่อมาจากการเดินหน้าแก้ปัญหาอย่งจริงจัง ICAO ได้ถอดประเทศไทยออกจากรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน (ปลดธงแดง) ได้สำเร็จในช่วงปลายปี 2560
การแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม จึงทำให้ไทยถูก “ใบเหลือง” จากทางสหภาพยุโรป(อียู) และ คสช. ได้แก้ไขปัญหาหลายด้านทั้งการจดทะเบียนเรือประมง แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยการเดินหน้าในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
การทวงคืนผืนป่าจากนายทุน ในปี 2559 สามารถทวงคืนผืนป่าจากนายทุนได้ 1.4 แสนไร่
การจัดระเบียบสังคม แผงค้าริมถนน จัดระเบียบรถตู้โดยย้ายไปยังสถานีขนส่งหมอชิต การขึ้นทะเบียนวินจักรยานยนต์รวมถึงการจัดระเบียบแรงงานข้ามชาติ ของแรงงานชาวกัมพูชาเมียนมา และลาว
การปราบปรามผู้มีอิทธิพล กวาดล้างจับกุมอาวุธสงคราม อาวุธปืน กระสุน และวัตถุระเบิดได้จำนวนมาก
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ฯลฯ
ปัญหาข้าวค้างสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าว และหนี้ค้างชำระ ธ.ก.ส.
การเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ระบบราง เดินหน้าอย่างรวดเร็วมาก
การเดินหน้าปราบปรามทุจริต เช่น การตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัด คดีธรรมกาย คดีนักการเมืองต่างๆ แต่ยุคหลังจากนั้น ค่อยๆ หายเงียบไป ฯลฯ
6. ปีนี้ ประเทศไทยจะต้องเป็นเจ้าภาพประชุมใหญ่เอเปก กับการฉีดวัคซีนจนเข้าที่เข้าทางแล้วจะได้เดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจต่อแต่ดูเหมือนวาระที่ “นายใหญ่อยากกลับบ้าน” จะสำคัญกว่า
นักการเมืองบริวารนายใหญ่ถึงได้ “ป่วน-ปั่น” หนักมาก
สารส้ม
Members of the SWE D…
This website uses cookies.