Ford Ranger Raptor ปี 2023 ราคา 1,869,000 บาท เป็นรุ่นย่อของ F-150 Raptor แนวคิดบินได้สูงถูกดรอบลงให้เหลือเพียงแค่การท้าทายความเร็วบนทางฝุ่น เช่นเดียวกับ Ranger กระบะพร้อมลุยทางวิบากท่ีมีค่าตัวถูกกว่า สำหรับ Raptor ใหม่ มีบังโคลนที่กลายเป็นโป่งซุ้มล้อใหญ่ยักษ์ ยางที่ทนทาน ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถสูงเป็นพิเศษ และกระจังหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นกระบะอเมริกันอันโดนใจผู้คน ในขณะที่เฟรมกาบบันไดด้านข้างแบบขนานไปกับแนวของบานประตู Raptor ใหม่ ยังมีระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งมาสำหรับการเดินทางไกล รวมถึงการทะยานไปบนเนินทรายที่สูงชัน เครื่องยนต์ V6 เบนซิน ทวินเทอร์โบ ที่ทรงพลังแต่ซดน้ำมันอย่างเต็มข้อ พร้อมแรงบิดสำหรับการวิ่งในทะเลทรายอย่างเต็มสปีด ห้องโดยสารที่เชื่อมต่อกับกระยะท้ายขนาด 5 ฟุต ภายในมีเบาะสวย งานตกแต่งโทนสีส้มและระบบสาระบันเทิงครบครัน
Ranger Raptor รุ่นปี 2023 วางเครื่องยนต์ V-6 3.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่มีกำลัง 391 แรงม้า แรงบิด 583 นิวตันเมตร (430 ปอนด์-ฟุต) โดยพื้นฐานแล้ว มันคือการตั้งค่าแรงม้า-แรงบิด เดียวกันกับ Ford Bronco Raptor ที่ไม่มีขายในไทย ซึ่งรวมถึงระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมล็อกเฟืองท้ายด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อเทียบกับรถกระบะขับสี่ทั่วไป Raptor จะมีระบบกันสะเทือนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า พร้อมด้วยอุปกรณ์ออฟโรดที่มีเนื้อหาสาระมากกว่า นอกจากความสูงของรถ และระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้นแล้ว มันยังมียาง A/T สำหรับทุกสภาพภูมิประเทศขนาด 33 นิ้ว กับหน้ายางที่กว้างขึ้น
เครื่องยนต์ EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ 3,0 ลิตร หัวใจสำคัญของ Raptor รุ่นใหม่ ขุมพลังที่ให้กำลัง 292 กิโลวัตต์ แรงบิด 583 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด กำลังกระจายไปยังล้อทั้งสี่อย่างเท่าเทียมกัน ด้วยสมรรถนะของแรงบิดและการปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพของระบบอัดอากาศ เครื่องยนต์จึงตอบสนองได้ทันทีต่อการกดคันเร่ง นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันความล่าช้าที่ช่วยให้เทอร์โบชาร์จเจอร์หมุนได้นานถึงสามวินาที หลังจากที่คุณยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ซึ่งช่วยให้การเร่งความเร็วเมื่อออกจากโค้งหรือเข้าเกียร์ได้เร็วยิ่งขึ้น
ความแตกต่างเกี่ยวกับระบบกันสะเทือน ใน Bronco Raptor ใช้โช้คอัพ Fox Racing (เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ถึง 3.1 นิ้ว) ที่ยกมาจาก F-150 Raptor แต่ Ranger Raptor ก็ยังสืบทอด ตำนานความสุดของโช้คหมาจิ้งจอก Fox ที่มีแกนเล็กกว่านิดหน่อย (เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว) Raptor ใหม่ยังบรรจุโหมดการขับขี่หลากหลายโหมดให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละโหมดจะส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์และการปรับแชสซี ระดับเสียงจากท่อระบายท้าย และลักษณะของการส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ ฯลฯ
Ranger Raptor เจเนอเรชันล่าสุด มีแชสซีที่แข็งแกร่งสุดๆ ชุดฐานยึดและการเสริมแรงกลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวรถ ทำออกมาสำหรับความแข็งแรงขององค์ประกอบต่างๆ เช่น เสา C กล่องบรรจุ และล้ออะไหล่ ตลอดจนเฟรมเฉพาะสำหรับกันชนกันกระแทก การวางตำแหน่งของโช้คและขายึดโช้คหลัง ทั้งหมดนี้รวมกันเพื่อให้แน่ใจว่า Ranger Raptor สามารถรับมือกับการขับโหดๆ ได้อย่างเต็มที่
ระบบกันสะเทือนออกแบบใหม่ทั้งหมด แขนควบคุมทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ติดตั้งอยู่ด้านบนและล่างที่เป็นแบบใหม่ทั้งหมด ระบบกันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังแบบเคลื่อนที่ได้มากขึ้น ส่วนท้ายแบบ Watt Link ออกแบบมาเพื่อให้สามารถควบคุมการเต้นของส่วนท้ายได้มากขึ้น เมื่อขับในภูมิประเทศที่ขรุขระด้วยความเร็วสูง
การอัปเกรดระบบกันสะเทือนใหม่ใน Ranger Raptor ทำให้แดมเปอร์ FOX Live Valve ใหม่ ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์สูงสุดของการทรงตัวและความสบาย ระบบกันสะเทือนรับมือกับทางวิบากได้ดี ควบคุมการทรงตัวบนถนนในย่านความเร็วสูงได้ดีเยี่ยม ดูดซับรอยต่อ ผิวถนนที่ไม่สม่ำเสมอ และคอสะพานชันๆ ได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้มั่นใจถึงการควบคุมและประสิทธิภาพด้านความสบายของการนั่งโดยสาร โช้คอัพ FOX 2.5 นิ้ว Live Valve Internal Bypass ดูดซับแรงกระแทกด้วยเทคโนโลยีการควบคุมล้ำสมัย แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหน่วงตามตำแหน่งต่างๆ โช้คอัพรุ่นนี้ยังมีความซับซ้อนมากที่สุด ออกแบบเฉพาะสำหรับ Ranger Raptor และเต็มไปด้วยน้ำมันผสมเทฟลอน™ ซึ่งช่วยลดแรงเสียดทานได้ดีขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับ Ranger Raptor รุ่นที่ผ่านมา
ในขณะที่ฮาร์ดแวร์คือ FOX งานปรับแต่งและพัฒนาระบบรองรับนั้นดำเนินการโดยวิศวกรของ Ford Performance โดยใช้การผสมผสานทางวิศวกรรม มีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยวิเคราะห์ (CAE) รวมไปถึงการขับทดสอบในโลกแห่งความเป็นจริง ทุกอย่างตั้งแต่การปรับอัตราการเต้นของสปริง ไปจนถึงการตั้งค่าความสูงของตัวรถ การปรับวาล์วและการปรับแต่งโซนที่นั่ง ถูกนำมาคำนวณ เพื่อสร้างความสมดุล ระหว่างความสบาย การควบคุมที่มั่นคง การทรงตัวในย่านความเร็วสูง และการยึดเกาะถนน ทั้งบนไฮเวย์และทางวิบาก ระบบบายพาส Live Valve Internal Bypass เชื่อมโยงกับโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ พัฒนาเพื่อให้ความสะดวกสบายบนถนน รวมไปถึงคุณภาพการขับขี่แบบออฟโรดในทุกๆ ย่านความเร็ว นอกเหนือจากการทำงานกับโหมดการขับขี่แล้ว ระบบรองรับแบบใหม่ ยังแบ็กอัพอยู่เบื้องหลัง เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับสภาวะการขับในลักษณะต่างๆ ขณะที่แรงกระแทกบีบอัดของโซนต่างๆ ระบบบายพาสวาล์ว จะตอบสนองไปตามสภาพเส้นทาง เหมาะสำหรับการขับเดินทางไกลและการขับออกนอกเส้นทาง
เพื่อป้องกันอาการโช้คยัน ระบบควบคุม Bottom-Out ได้รับการพิสูจน์ จากการแข่งขันในสนามแข่ง โช้ค FOX ให้แรงสั่นสะเทือนสูงสุดในช่วง 25 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายของการเดินทางด้วยแรงกระแทก ในทำนองเดียวกัน ระบบสามารถทำให้แดมเปอร์ด้านหลังแข็งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ Ranger Raptor ท้ายห้อยขณะที่ถูกเร่งออกตัวอย่างแรง โช้คอัพประสิทธิภาพสูงยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพ ให้แรงสั่นสะเทือนในปริมาณที่เหมาะสม มันจึงเป็นปิกอัพคันโตที่วิ่งได้อย่างมั่นคงทั้งบนถนนและในสนามแข่ง
ความสามารถของ Ranger Raptor ในการจัดการกับภูมิประเทศที่ขรุขระได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยการป้องกันใต้ท้องรถ แผ่นกันกระแทกด้านหน้ามีขนาดเกือบสองเท่าของแผ่นกันกระแทกมาตรฐานของ Ranger ทำจากเหล็กความแข็งแรงสูง ขนาดความหนา 2.3 มิลลิเมตร แผ่นกันกระแทกนี้ เมื่อรวมกับแผ่นป้องกันเครื่องยนต์และแผ่นป้องกันกล่องเกียร์ จะช่วยปกป้องส่วนประกอบสำคัญต่างๆ เช่น หม้อน้ำ ชุดแรคของระบบบังคับเลี้ยว คานขวางด้านหน้า อ่างน้ำมันเครื่อง และเฟืองขับเคลื่อนด้านหน้า ขอเกี่ยวแบบแฝดที่ด้านหน้าและด้านหลัง มีการคืนตัวที่ยืดหยุ่นขณะขับขี่แบบออฟโรด พร้อมคุณประโยชน์เพิ่มเติมที่สามารถเข้าถึงตะขอลากพ่วงอันใดอันหนึ่งได้ (หากอันอื่นฝังไว้) ตลอดจนสามารถใช้งานได้ง่าย สายรัดบาลานซ์ระหว่างการดึงกลับคืนมาในทรายลึกหรือโคลนหนา
โหมดการขับขี่แบบออฟโรด ได้แก่ :
โหมดการขับขี่บนถนน
Normal : ออกแบบมาเพื่อความสบาย ประหยัดน้ำมัน และสมรรถนะในการขับขี่
Sport : ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นสำหรับการขับขี่บนถนนอย่างมีจิตวิญญาณ
Slippery : โหมดผิวถนนลื่น เพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจบนพื้นผิวที่ลื่นหรือไม่เรียบ
โหมดการขับขี่แบบออฟโรด
Rock Crawl : ให้การยึดเกาะและโมเมนตัมที่ดีที่สุดบนพื้นผิวที่หลวม
Sand : โหมดขับบนทางทราย สำหรับใช้ในทรายที่อ่อนนุ่มและสภาพหิมะที่ลึก เพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและการเปลี่ยนเกียร์
Mud/Ruts : โคลน/ร่อง เพื่อการยึดเกาะทางวิบากสูงสุดในระหว่างการออกตัวและรักษาโมเมนตัมของรถ
Baja : ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะออฟโรดความเร็วสูงพร้อมระบบทั้งหมดที่ตั้งค่าไว้สำหรับการขับด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
ระบบกันสะเทือนได้รับการอัปเกรดเพื่อยกระดับศักยภาพในด้านความเสถียร มีแขนควบคุมด้านบนและด้านล่างทำจากอะลูมิเนียมแบบใหม่หมด ระบบกันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังแบบให้ตัวได้มากยิ่งขึ้น ชุดประกอบด้านหลังแบบเชื่อมโยงของกลไก Wattlink ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้สามารถควบคุมได้ดี ในภูมิประเทศที่ขรุขระ ในย่านความเร็วสูง
การออกแบบของ Ford Raptor ใหม่ มีขนาดใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งกว่าเดิม ทนทานมากกว่า และที่สำคัญที่สุดคือทรงพลังกว่า Ranger Raptor รุ่นก่อน จากซุ้มล้อขนาดใหญ่ กระจังหน้ากว้าง พร้อมตราสัญลักษณ์ F-O-R-D ออกแบบไฟหน้า และไฟเดย์ไทม์รูปตัว C ที่ทำให้ด้านหน้าของรถดูกว้างและแข็งแกร่งกว่าเดิม ช่องระบายอากาศ ข้อต่อด้านแอร์โร Raptor ยังมีอุปกรณ์ที่ใช้งานได้หลากหลาย เช่น บันไดข้างอะลูมิเนียม สเตปกล่องในช่องเก็บสัมภาระ ซุ้มล้อขนาดใหญ่ มีล้อขนาด 17 นิ้ว ซึ่งหุ้มด้วยยาง BF Goodrich K02 all-terrain มิติตัวถังยาว 5,360 มิลลิเมตร กว้าง 2,028 มิลลิเมตร สูง 1,926 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,270 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 272 มิลลิเมตร ระยะแทร็กล้อหน้า-หลัง 1,710 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,475 กิโลกรัม น้ำหนักรถบวกน้ำหนักบรรทุกสูงสุด รวม 5,370 กิโลกรัม มุมเข้าใกล้ 32° มุมลาดเอียง 24° มุมจาก 27° (24° เมื่อติดตั้งคานลาก) ความจุถังเชื้อเพลิง 80 ลิตร (เบนซิน)
ภายในห้องโดยสารโดยคงธีมดั้งเดิมของ Raptor ไว้ การออกแบบเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่หุ้มเบาะอย่างแน่นหนาของรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเก้าอี้นักบินของเครื่องบินขับไล่ F-22 Raptor บรรยากาศห้องโดยสารของ Raptor ยกระดับขึ้นด้วยการรวมแสงโดยรอบ พวงมาลัยแบบสปอร์ต หุ้มด้วยหนังระดับพรีเมียม รวมถึงแป้นเหยียบและแป้นเปลี่ยนเกียร์แมกนีเซียม แผงหน้าปัดอุปกรณ์ดิจิทัล เสริมด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์กลางขนาด 12,4 นิ้ว ใช้งานซอฟต์แวร์อินโฟเทนเมนต์ SYNC 4A ของ Ford พร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย Apple CarPlay และ AndriodAuto ที่ทำให้แปลกใจก็คือ ระบบเสียง Bang and Olufsen
เทคโนโลยีไฟส่องสว่างขั้นสูง ใน Ranger Raptor เจเนอเรชันใหม่ ทำให้การขับขี่ในเวลากลางคืนมองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบส่องสว่างด้านหน้าแบบหลากหลายฟังก์ชัน เช่น ไฟหน้าแบบ Matrix performance LED มีระบบป้องกันแสงไฟแยงตารถที่ขับสวนทางเมื่อเปิดไฟสูง กำลังในการส่องสว่าง เพิ่มทัศนวิสัยในการขับตอนกลางคืนบนถนนที่ปราศจากแสงไฟได้ดี ระบบอัตโนมัติ ปรับลำแสงเพื่อไม่รบกวนผู้ใช้รถคันอื่น โดยเฉลี่ยแล้ว การขับขี่รถยนต์ในเวลากลางคืน ถูกคิดเป็นสัดส่วน 25% ของเวลาบนถนนทั้งหมด ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ในเวลากลางคืน มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิตสูงกว่ากลางวันถึง 3 เท่า จากสภาพการมองเห็นที่แปรเปลี่ยนไป เนื่องจากผู้ขับทั่วไป ใช้งานไฟสูงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และแม้ว่าจะมีการเปิดไฟอย่างเหมาะสมแล้ว การขับขี่ในเวลากลางคืนก็ยังมีความเสี่ยงสูงกว่าช่วงกลางวันมาก ทั้งจากสภาพอากาศ สภาพถนน ตัวแปรต่างๆ ทั้งรถยนต์คันอื่นๆ จักรยานยนต์ที่ไม่มีไฟท้าย รถบรรทุกจอดเสียบนไหล่ทาง สุนัขหรือแมวที่เดินอยู่บนถนนฯ
แอนดรูว์ ก็อก วิศวกรอาวุโสด้านเทคนิค กล่าวว่า “ระบบไฟสูงแบบป้องกันไฟแยงตาของ Ford ช่วยให้ผู้ขับ ใช้ไฟสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะผู้ขับ จะมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้กว้างไกลขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าลำแสงของรถ จะไปรบกวนผู้ใช้รถร่วมทาง” ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ ทำงานผสานกับกล้องหน้ารถในการตรวจจับแสงสว่างของไฟหน้าและไฟท้ายของรถได้ไกลถึง 800 เมตรเพื่อตรวจสอบสภาพเส้นทางล่วงหน้า ระบบนี้ จะสร้างลำแสงเป็นอุโมงค์ให้กับรถด้านหน้า แม้บนทางโค้ง ทำให้ถนนด้านหน้าอยู่ในความมืด ขณะที่ไฟสูงยังคงให้แสงสว่างโดยรอบ ตามสภาพเส้นทางได้อย่างสูงสุด มีการส่องไปที่ไหล่ทางทั้งสองฝั่ง หัวโค้ง และป้ายจราจร เพื่อความชัดเจนของการมอง สำหรับการตัดสินใจเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้มากกว่าระบบไฟทั่วไป
“โดยทั่วไปแล้วไฟต่ำจะส่องสว่างได้ไกลราว 70 เมตร ในขณะที่ไฟสูงส่องสว่างได้ไกลถึง 200 เมตร Ford Ranger Raptor ทำให้ผู้ขับใช้ระบบไฟสูงอัตโนมัติ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนผู้ใช้รถคันอื่น” แอนดรูว์ กล่าว นอกจากนี้ การใช้ไฟสูงจากไฟหน้าแบบ Matrix performance LED ที่มีระบบป้องกันแสงไฟแยงตา ใน Raptor เจเนอเรชันใหม่ ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือระบบ High Beam Boost ที่ใช้หลอดไฟแอลอีดีเกาะกลุ่มกันหลายดวง การออกแบบในลักษณะดังกล่าว ให้ความสว่างได้มากกว่าไฟสูงแบบเมทริกซ์ แอลอีดี ทั่วไป 30% การใช้ไฟสูงอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ได้มาก เนื่องจากแสงจากไฟสูงจะทำมุมทอดไปด้านหน้าเพื่อส่องสว่างในระยะไกล ส่วนไฟต่ำจะทำมุมส่องสว่างบริเวณพื้นถนนหน้ารถโดยตรง จึงเหมาะกับเส้นทางที่โดยรอบมีความสว่างมากกว่า เช่น มีแสงจากไฟหน้าของรถยนต์คันอื่นๆ หรือจากโคมไฟถนน ไฟสูงปรับมุมส่องสว่างให้สูงขึ้น มีการปรับให้ลำแสงพุ่งไปไกลกว่าเมื่อเทียบกับไฟต่ำ ช่วยให้มองเห็นสิ่งที่อยู่บนถนนด้านหน้าและด้านข้างได้นานขึ้น ก่อนที่ตัวรถจะวิ่งไปถึง ซึ่งเท่ากับว่าคนขับจะตอบสนองต่อสถานการณ์บนท้องถนนได้รวดเร็วขึ้น” แอนดรูว์ กล่าว
ถ้าไม่มองเรื่องอัตราสิ้นเปลือง 5.7-6.9 กิโลเมตรต่อลิตร Ford Ranger Raptor Next Gen นับเป็นกระบะหัวแถวที่มีความน่าใช้งาน ขับสนุกและเก็บเสียงดี ทรงตัวดีในย่านความเร็วสูง ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น ถ้าไม่เปิดโหมดท่อดังก็วิ่งได้อย่างเงียบเชียบ ส่วนอื่นๆ ของรถ เช่น การบังคับเลี้ยว คุณภาพการขับขี่ และการตกแต่งภายใน ทำออกมาได้สมราคา เป็นรถที่ใช้เดินทางไกลได้ดีมาก