ขวดสู้ปืน! โจ๋ 17 ถูกยิงหัวโคม่าเพื่อนแฉแชตถูกลวงสงบศึกขนพวก 14 เจอ 40 (คลิป)

กรณีเฟซบุ๊กญาติเด็ก 17 ปีลงภาพนิ่งของหลานชาย ซึ่งมีกระสุนยิงเข้าที่หัว และรักแร้ขวา พร้อมกับเล่าเหตุการ์ว่า “วันเกิดเหตุ 2 ก.ย 2565 โรงพยาบาลโทรมาหาแม่ว่า นายพีรพัฒน์ #โดนยิง ครอบครัวเราแทบไม่อยากเชื่อ เพราะเราไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยว่าใครเป็นคนยิง แล้วทำไมถึงโดนยิง 22:00 แม่โทรมาหาเราแล้วบอกว่าหลานโดนยิง เราไม่เชื่อเลย เราคิดว่าแค่คนชื่อเหมือนกัน แต่แม่บอกว่าเขาไม่น่าจะจำคนผิดเพราะลักษณะที่บอกคือหลานของเรา 23:00 เราเดินทางถึงโรงพยาบาลโพนสวรรค์ เรากับแม่สบตากันแบบไม่พูดอะไร ต่างน้ำตาไหลแต่พยายามที่จะอดทน หลานเราต้องถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลนครพนม แต่ไม่มีแพทย์เฉพาะทางเพราะหลานเราโดนยิงกระสุนฝังในสมองจุดสำคัญ และบริเวณรักแร้ฝังในอีกลูก ต้องนอนรอโรงพยาบาลอื่นตอบรับการรักษา หลานเราได้แต่นอนร้องแบบทุรนทุรายเป็นเวลามากกว่า10 ชั่วโมงตั้งแต่โดนยิง สุดท้ายครอบครัวเรามีหวังอีกครั้ง เนื่องจากโรงพยาบาลสกลนครได้ตอบรับการรักษา” นั้น

429157

วันที่ 6 ก.ย. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้เดินทางไปที่อ่างเก็บน้ำบ้านนาน้ำดำ ซึ่งอยู่ใน ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม

984734

โดยอ่างเก็บน้ำดังกล่าวเป็น พื้นที่สาธารณะภายในตำบล มีกลุ่มวัยรุ่นมักจะรวมตัวกันและไปนั่งดื่มสังสรรค์ที่ริมเขื่อน แต่ในวันเกิดเหตุพบว่าเป็นสถานที่ที่มีการนัดเคลียร์ใจกัน ระหว่างฝั่งของนายพีรพัฒน์ หรือ พี อายุ 17 ปี คนเจ็บ กับฝั่งของนายเขต อายุ 17 ปี คู่กรณี

537319

โดยหลังจากที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพบว่าเป็นลักษณะขอบสันเขื่อนยกสูง ถนนคอนกรีตด้านล่างมีแนวต่ำกว่า พบว่าในวันเกิดเหตุนั้นได้มีการแบ่งโซน ด้านบนสันเขื่อนซึ่งเป็นมุมสูงจะเป็นกลุ่มของนายเขต คู่กรณี ดักซุ่มรอทำร้าย ส่วนด้านล่างที่เป็นถนนคอนกรีตจะเป็นกลุ่มของนายพีระพัฒน์ หรือ พี อยู่ข้างล่าง ก่อนที่จะถูกสาดกระสุนและปาระเบิดปิงปอง จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บและหนีกระเจิง ซึ่งในการลงพื้นที่ของทีมข่าวในวันนี้พบว่าตำรวจได้มีการเก็บหลักฐาน โดยเฉพาะปลอกกระสุน และเศษชิ้นส่วนของระเบิดปิงปองไปเป็นหลักฐานแล้ว

924365

นายสน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี รุ่นน้องในกลุ่มของนายพี คนเจ็บ คนขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งคนเจ็บที่โรงพยาบาล และเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ในขณะที่ไปตามสถานที่นัดหมาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุกลุ่มของตนเองได้มารวมตัวกันที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่งในหมู่บ้าน จากนั้นปรากฏว่านายเขต เป็นคู่กรณีด้มีการทักแชตข้อความมาหานายพี คนเจ็บ จากนั้นก็พยายามโทรมาและหลอกล่อชักชวนให้กลุ่มของตนเองออกไปเจอ มีการใช้คำพูดท้าทายที่หลากหลาย มีใจความทำนองว่า “อยากให้ออกไปเจอและเคลียร์ใจกันให้จบ” จนกระทั่งกลุ่มของตนเองตัดสินใจที่จะออกไปเจอ ซึ่งกลุ่มของตนเองรวมตัวกันได้ประมาณ 14 คน ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปประมาณ 5-6 คน ลักษณะซ้อนสองและซ้อนสาม พิกัดไปนัดเจอกันที่บริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านนาน้ำดำ ห่างจากบ้านของตนเองประมาณ 12 กิโลเมตร

133708

ตนยอมรับว่ากลุ่มของตนเองที่ออกไปตามเวลานัดหมายจำนวน 14 คนมีอาวุธติดไปด้วย คือ ขวดเบียร์ และขวดเหล้า แต่ก็ไม่คิดว่าเมื่อไปถึงสถานที่นัดหมาย เวลาประมาณ 21.00 น. กลุ่มของนายเขต คู่กรณี มีพวกกันมาไม่ต่ำกว่า 40 คน โดยมีการยืนบางส่วน ซุ่มรอแถวต้นไม้อีกบางส่วน แต่กลุ่มของตนเองเสียเปรียบ เพราะอยู่ด้านล่างของสันอ่างเก็บน้ำ ส่วนกลุ่มของนายเขตยืนอยู่ที่สูง เมื่อกลุ่มรถของตนเองขับไปถึง จังหวะที่ตัวของนายพี คนเจ็บ เดินลงจากรถ ได้มีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด พร้อมกับเสียงของระเบิดปิงปองโยนขว้างปาลงมาจากที่สูง ก่อนที่ตัวของนายพีจะถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ และรักแร้ ตอนนั้นเจ้าตัวหันมาบอกกับกลุ่มเพื่อนว่า “โดนยิง ฝั่งคู่กรณีมีปืนรีบหนี” ตนเองจึงได้กระชากนายพีขึ้นมานั่งตรงกลาง มีเพื่อนอีกคนซ้อนท้าย ก่อนที่จะรีบพากันนำตัวนายพีไปส่งโรงพยาบาลโพนสวรรค์ จากฝั่งของคู่กรณีตนเองสังเกตอาวุธปืนที่พอจะเห็นปืนไม่ต่ำกว่า 5 กระบอก

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองยอมรับว่าเสียใจ ไม่คิดว่าจากเรื่องเล็กน้อยทะเลาะกันไปมาทางเฟซบุ๊กจะกลายเป็นการนัดหมายออกไปเจอ และถูกยิงจนกระทั่งฝั่งของตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ และที่สำคัญกลุ่มคนที่ก่อเหตุก็เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ฝั่งของตนเองที่ถูกทำร้ายก็อายุไม่เกิน 18 ปีเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่คิดว่าเหตุการณ์จะรุนแรงถึงขั้นมีอาวุธปืน คิดว่าจะเป็นการท้าตีท้าต่อยกันธรรมดา

724613

ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในซอยหมู่บ้านของฝั่งคนเจ็บ ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวไม่มีแผ่นป้าย ลักษณะขับซ้อนสองคน สังเกตเห็นว่าคนซ้อนท้ายจะมีลักษณะถืออาวุธปืนยาว ป็นการขับไปรวมตัวกันที่บ้านหลังที่จะกราดยิง ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ในคืนวันที่ 2 ก.ย. 65 เวลา 23.23 น.

630288

กล้องวงจรปิดหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ถนนทางออกจากอ่างเก็บน้ำบ้านนาน้ำดำ ต.นาขมิ้น ช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. จับภาพกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์กลุ่มแรกขับออกจากอ่างเก็บน้ำ เป็นกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ของฝั่งนายพีรพัฒน์ คนเจ็บ ซึ่งกลุ่มเพื่อนพากันนำเจ้าตัวไปส่งโรงพยาบาลหลังถูกยิง

199771

จากนั้นเวลาประมาณ 21.33 น. มีกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์อีกกลุ่มหนึ่งจำนวน 10 กว่าคัน ขับออกจากอ่างเก็บน้ำตามหลังกลุ่มรถของคนเจ็บ แต่มีการทิ้งช่วง ซึ่งคาดว่ามีการขับตามหลังไปเพื่อที่จะก่อเหตุซ้ำ

290411

ด้านนายเอช (นามสมมติ) เพื่อนในกลุ่มคนเจ็บ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่สาเหตุเล็กน้อย หรือชนวนเหตุที่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี กลุ่มของตนเองซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ได้ไปแข่งฟุตบอลกับหมู่บ้านฝั่งของนายเขต จากนั้นมีการแข่งขันจนกระทั่งฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะ และเมื่อมีการลงแข่งขันอีกครั้ง เริ่มมีการใช้ความรุนแรงในสนาม โดยมีการเตะแรงและใช้ไหล่กระทบกัน จนกระทั่งเริ่มเกิดเรื่องระหองระแหงกันมา จากนั้นก็เริ่มมีการส่งข้อความทักทายกันในเฟซบุ๊ก แต่ก็ไม่เคยเผชิญหน้ากัน

จนกระทั่งเมื่อ 1-2 เดือน ที่ผ่านมาหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของนายเขตได้ทะเลาะมีปากเสียงกับผู้หญิงในหมู่บ้านของตนเอง ทำนองว่าผู้ชายกำลังจะทำร้ายผู้หญิง กลุ่มของตนเองด้วยเห็นว่าผู้ชายไม่สามารถที่จะทำร้ายผู้หญิงได้ มองว่าไม่เหมาะสม จึงได้เข้าไปห้ามปราม ขอให้กลุ่มของนายเขตเลิกทำร้ายผู้หญิง จึงทำให้เป็นอีกชนวนที่ทำให้เกิดความไม่พอใจว่ากลุ่มของตนเองไปยุ่ง จึงได้มีการส่งข้อความมานัดหมายในคืนวันเกิดเหตุ

195545

ตอนแรกตั้งใจจะให้นายพี คนเจ็บ กับตนเอง ซึ่งคาดว่าเป็นเป้าหมายหลัก หวังที่จะมีการทำร้ายร่างกาย โดยนัดหมายให้ออกไปเจอกันที่อ่างเก็บน้ำบ้านนาน้ำดำ แต่กลุ่มของตนเองก็ไปพร้อมกับเพื่อนและรุ่นน้องรวม 14 คน เมื่อไปถึงก็ไม่คิดว่าฝั่งตรงข้ามจะมีไม่ต่ำกว่า 40 คน มาพร้อมกับอาวุธปืน และอาวุธหนักอย่างระเบิดปิงปอง อีกทั้งการทำร้ายร่างกายก็ไม่ใช่เป็นการเผชิญหน้าเพื่อที่จะคุยกัน แต่เป็นการซุ่มจากต้นไม้ในลักษณะมุมสูง แล้วมีการกราดยิงลงมา จึงทำให้กลุ่มของตนเองไม่ทันได้ตั้งตัว

800671

หลังจากกลุ่มของนายเขต มีการก่อเหตุยิง พบว่าหนึ่งในกลุ่มของนายเขตทราบชื่อคือนายชิน ได้มีการโพสต์สตอรี่เป็นภาพในปั๊มน้ำมันแห่ง พร้อมกับข้อความแฮชแท็กว่า #เม็ดเดียวหลับ ซึ่งเป็นข้อความที่มีการโพสต์ท้าทาย และเป็นคำยืนยันที่ชัดเจนว่ามีการก่อเหตุยิง ตนเองจึงได้มีการบันทึกหลักฐานดังกล่าวและส่งไปเป็นหลักฐานให้กับตำรวจแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ว่าตอนนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ต่างฝ่ายต่างเป็นเยาวชน จึงยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีหรือแจ้งข้อกล่าวหากับใคร และที่สำคัญกลุ่มของตนเองก็ยังต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะกลัวว่าจะถูกกลับมาก่อเหตุซ้ำ แต่หากย้อนกลับไปก็คงจะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะตอนนี้ตัวของนายพี เพื่อนของตนเองก็นอนอาการโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล