กำหนดแล้ว กำลังมอเตอร์”รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า”

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกรมการขนส่งทางบก กำหนดกำลังมอเตอร์”รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ตามลักษณะการใช้งานแต่ละประเภท และให้ติดป้ายอักษร e หรือ S ที่เห็นชัดบริเวณท้ายรถ


ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกรมการขนส่งทางบก กำหนดกำลังมอเตอร์รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ตามลักษณะการใช้งานแต่ละประเภท และให้ติดป้ายอักษร e หรือ S ที่เห็นชัดบริเวณท้ายรถ


    


    

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2563 ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138  ตอนพิเศษ 25 ง วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลงนามในประกาศเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 โดยให้ยกเลิกประกาศกรมการขนส่งทางบก ที่กำหนดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และที่ที่ใช้ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ใช้อยู่เดิม และให้ให้ข้อกำหนดตามประกาศใหม่นี้ โดยประกาศใหม่ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สาระสำคัญคือ กำหนดนิยามของ“กำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า” หมายความว่า กำลังพิกัด (Rated Power) หรือกำลังขับเคลื่อนรถให้มีความเร็วต่อเนื่องสูงสุด 30 นาที (Maximum 30 Minutes Power) ของมอเตอร์ไฟฟ้า และกำหนดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์แต่ละประเภท ดังนี้

1. รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร รถยนต์บริการให้เช่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล และรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ต้องมีกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 15 กิโลวัตต์ และสามารถขับเคลื่อนรถให้มีความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


    รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนแบบพิเศษที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าต้องมีกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 100 กิโลวัตต์ 

2.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล และรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 4 กิโลวัตต์ ต้องสามารถขับเคลื่อนรถให้มีความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

3.รถยนต์รับจ้างสามล้อและรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ต้องมีกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 4 กิโลวัตต์ และสามารถขับเคลื่อนรถให้มีความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

4.รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ต้องมีกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 250 วัตต์ และสามารถขับเคลื่อนรถให้มีความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


     รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ต้องมีกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 250 วัตต์ แต่ไม่เกิน4 กิโลวัตต์ และสามารถขับเคลื่อนรถให้มีความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



กำหนดแล้ว กำลังมอเตอร์

ทั้งนี้ มอเตอร์ไฟฟ้าของรถข้างต้น ต้องสามารถขับเคลื่อนรถในขณะที่มีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุก (Gross Vehicle Weight) ตามที่ผู้ผลิตกำหนดด้วยความเร็วสูงสุดตามที่กำหนดในประกาศนี้ ได้ต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30  นาที  และรถในกลุ่มแรกที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ต้องติดตั้งเครื่องหมายต้องติดเครื่องหมายตามแบบที่กำหนดไว้ในภาคผนวกท้ายประกาศนี้(อักษร e หรือ S)  ที่บริเวณด้านท้ายของตัวรถซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน

กำหนดแล้ว กำลังมอเตอร์

ที่มา ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๖๓