IRC ลงทุน 500 ล้านบาท ปรับสายการผลิตเป็น Smart Factory – อาร์วายที9

IRC ลงทุน 500 ล้านบาท ปรับสายการผลิตเป็น Smart Factory

IRC ลงทุน 500 ล้านบาท ปรับสายการผลิตเป็น Smart Factory

  • เป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตและวิจัยพัฒนา
  • ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านอีลาสโตเมอร์และยางรถจักรยานยนต์

บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยางอีลาสโตเมอร์และยางนอกยางในสำหรับรถจักรยานยนต์ ในประเทศไทย เดินหน้าลงทุน 500 ล้านบาท พัฒนาสายการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยนำระบบ Automation มาใช้ในสายการผลิตเพื่อเน้นความปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน ยกระดับคุณภาพการผลิตให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งสู่การเป็น Smart Factory และรักษาความเป็นผู้นำนวัตกรรมการผลิตยางรถจักรยานยนต์ รวมถึงลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดตลอดจนขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

นางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล ประธานกรรมการบริหาร IRC เปิดเผยว่า IRC มีแผนการลงทุนเพิ่มอีกราว 500 ล้านบาท โดยมีจุดประสงค์แรกเพื่อปรับสายการผลิตให้เป็นระบบ Automation มากยิ่งขึ้น สร้างความปลอดภัยให้กับพนักงานในโรงงาน และมุ่งรักษาระดับคุณภาพการผลิตของบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยางอีลาสโตเมอร์และยางนอกยางในสำหรับรถจักรยานยนต์ จุดประสงค์ต่อมาคือการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการทำงาน ตลอดจนการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดใหม่ๆ เพื่อรองรับตลาดอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน การยกระดับคุณภาพชีวิต ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และกลุ่มตลาด OEM อื่นๆ นอกเหนืออุตสาหกรรมยานยนต์

“เราเริ่มนำระบบ Automation มาใช้ในสายการผลิตนานแล้ว เป้าหมายไม่ได้ลดจำนวนพนักงาน แต่เพื่อความปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน และที่สำคัญคือยกระดับคุณภาพการผลิตให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่จะรักษาความเป็นผู้นำการผลิตยางรถมอเตอร์ไซค์ โดยเรามีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนาต่อยอดร่วมกันกับ IRC Global ” นางพิมพ์ใจ กล่าว

ปัจจุบัน IRC เป็นผู้ผลิตยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย โดยเป็นการผลิตสำหรับตลาด OEM ผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศทุกราย ตลาดทดแทน และตลาดส่งออก นอกจากนี้ IRC ยังผลิตชิ้นส่วนยางอีลาสโตเมอร์ที่ใช้ทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนกันกระแทก ชิ้นส่วนในระบบส่งกำลัง ชิ้นส่วนในห้องโดยสารและยางซีลต่างๆ  และในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนยางที่ใช้ในระบบโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ

“ความจริงแล้ว IRC มีการลงทุนพัฒนาโรงงานมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือเราจะเน้นในเรื่องของการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและส่วนที่เกี่ยวข้องกับอีลาสโตเมอร์ โดยตลอด 24 ปีที่ผ่านมานับแต่ก่อตั้งบริษัท ไออาร์ซี (เอเชีย) รีเสิร์ช จำกัดที่เป็นบริษัทสำหรับการวิจัยและพัฒนาโดยเฉพาะ เราได้ลงทุนไปในด้านดังกล่าวแล้วประมาณ 900 ล้านบาท” นางพิมพ์ใจกล่าว

นางพิมพ์ใจกล่าวถึงผลประกอบการในปีนี้ว่า IRC ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 10% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในช่วงไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี (ตุลาคม-ธันวาคม) IRC มีรายได้รวม 1,342.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.79 % และกำไรสุทธิ 121.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.85% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“เราเชื่อมั่นว่าตลาดยางรถมอเตอร์ไซค์และตลาดชิ้นส่วนยางอุตสาหกรรม ยังมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งในช่วงที่ประเทศไทยประสบกับปัญหาโรคระบาด COVID19 นำมาสู่การใช้ชีวิตแบบ New Normal พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิม การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์รวมไปถึงธุรกิจส่งของ (Delivery) ต่างๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีการบริโภคยางรถมอเตอร์ไซค์มากขึ้นเนื่องจากพนักงานส่งของต่างๆ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นหลัก คุณภาพของยางรถมีผลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยทั้งในชีวิตและอาชีพของกลุ่มคนเหล่านี้ การใช้ยางที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ และยาง IRC คือทางเลือกที่ดีที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่” นางพิมพ์ใจ กล่าว