Corolla GR Sport เติมแต่งจิตวิญญาณของ Toyota Gazoo Racing (TGR) เพื่อพัฒนารูปลักษณ์แบบไดนามิกของรถตัวขาย รวมถึงการยกระดับความสามารถในการขับเคลื่อนของ Corolla รุ่นล่าสุด สำหรับ GR ลำใหม่ จะเป็นรถสปอร์ตแฮตช์แบครุ่นที่สามที่เข้ามาทำตลาดในไทย เป็นหนึ่งในรถกลุ่ม GR Sport หลังการเปิดตัว GR86 2022 / Yaris GR Sport รวมถึง GR Supra ที่ขายหมดอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัวเมื่อสามปีก่อน
Toyota Motor Corporation มีแผนกมอเตอร์สปอร์ต สำหรับการปรับแต่งรถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง Gazoo Racing เพื่อวางขายและใช้สำหรับการแข่งขันท้าความเร็ว การปรับแต่ง GR Corolla รถแฮตช์แบคขนาดกะทัดรัดให้มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นมาตรฐาน ผลลัพธ์ที่ได้คือ GR Corolla ที่เร็วและค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวจากสมรรถนะที่เปลี่ยนจากรถบ้านไปเป็นรถสปอร์ต เป็นการสานต่อรถยนต์ในตระกูล GR สายพันธุ์แท้ต่อจากรถยนต์ซับคอมแพ็ค Yaris รุ่นปรับแต่ง GR ท่ีขายในตลาดโลก (รวมถึงไทยซึ่งหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว) และทำให้ราคา 2.7 ล้าน ของ GR Yaris พุ่งขึ้นเป็น 3.1 ล้านบาท จากความต้องการและจำนวนในการนำเข้ามาขายในไทยด้วยโควตาเพียงน้อยนิด GR Corolla ยกเครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.6 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ เครื่องยนต์ถูกปรับแต่งให้มีกำลัง 300 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Toyota ได้เข้าร่วมสงครามการปรับแต่งรถรุ่นพิเศษ เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ ด้วยรูปลักษณ์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ความสำเร็จของ GR Gazoo Racing แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในรถสปอร์ต Toyota Supra A90 ที่ Toyota ร่วมมือกับ BMW ด้วยการออกแบบที่มีสไตล์แตกต่างจากพี่น้องร่วมสายพันธ์ุอย่าง BMW Z4 M40i โดยมีน้องเล็กแฮตช์แบคสุดฮอตเวอร์ชันล่าสุดที่กำลังจะเข้ามาขายในไทย โดยได้แรงบันดาลใจจากการแข่งขันในกีฬามอเตอร์สปอร์ตของท่านประธาน Akio Toyada
แพ็กเกจ Performance ใน GR Corolla เพิ่มความแตกต่างของชุด limited slip differential ด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนรุ่นท็อป Morizo Edition จะผลิตในจำนวนจำกัด โดยจะทำออกมาเพียง 200 คัน ในปี 2023 เบาะหลังและส่วนประกอบอื่นๆ ถูกถอดออก รวมถึงชิ้นส่วนบางชิ้น เพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดด้านอัตราเร่ง
เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และสมรรถนะ
ภายใต้ฝากระโปรงของ GR Corolla เป็นเครื่องยนต์เบนซินสามสูบ ความจุ 1,618 ซีซี. D-4S Direct Injection อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ เป็นขุมกำลังที่ยกมาจาก GR Yaris ซึ่งเป็นแฮตช์แบคตัวซิ่งที่ Toyota จำหน่ายทั่วโลก สำหรับ GR Corolla เครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มกำลังเป็น 300 แรงม้า อัตราส่วนแรงม้าต่อความจุที่ 185.4 แรงม้าต่อลิตร ที่น่าจับตามองก็คือ มันมีกำลังมากกว่า GR Yaris 43 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เป็นเกียร์ชุดเดียวกัน แต่มีการปรับอัตราทดให้ถ่ายเทแรงบิดได้อย่างเต็มศักยภาพ GR Corolla ทุกรุ่น มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ GR-Four ของ GR Gazoo Racing ระบบ GR-Four ช่วยให้ผู้ขับเลือกโหมดการกระจายแรงบิดในลักษณะที่ผกผันแตกต่างกันได้ โหมดปกติ Normal Mode แรงบิดจะลงไปที่ล้อหน้า 60% ล้อหลัง 40% สำหรับการขับในชีวิตประจำวันบนถนนในเมือง หรือไฮเวย์ ไปจนถึงการกระจายแรงโดยเทไปที่ล้อหลัง 70% และส่งแรงบิดไปที่ล้อหน้า 30% ในสไตล์รถขับเคลื่อนล้อหลังกับ Sport Mode เพื่อให้ขับดริฟต์เล่น
ส่วนการทดกำลังเท่ากัน 50/50 ทั้งหน้าและหลังใน Track Mode มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเสถียรและการยึดเกาะในระดับสูงสุด สำหรับการแข่งขัน หรือขับซิ่งในสนามแข่ง การอัปเกรดระบบกันสะเทือนและระบบส่งกำลังของ GR Corolla ทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในกลุ่มรถสปอร์ตคอมแพค 5 ประตู ชุดแต่ง Circuit Edition มาพร้อมกับเฟืองท้าย limited slip differential ที่ด้านหน้าและด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น Morizo ถือเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่เน้นใช้งานในสนามแข่งเป็นหลัก เหมาะสำหรับทีมแข่ง มาพร้อมกับล้อฟอร์จน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ที่ปรับจูนใหม่ ให้แรงบิด 400 นิวตันเมตร หรือ 295 ปอนด์-ฟุต (รุ่นมาตรฐานมีแรงบิดอยู่ที่ 370 นิวตันเมตร หรือ 273 ปอนด์-ฟุต) ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต ปรับแต่งให้สอดรับกับกำลังที่เพิ่มขึ้น ยาง michelin pilot sport cup 2 เพิ่มการยึดเกาะขณะพุ่งเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง pilot sport cup 2 เป็นยางสปอร์ตรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับการขับในสนามแข่ง รวมถึงถนนที่คดเคี้ยว GR Corolla ให้ฟิลลิ่งที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ขับ ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความแน่วแน่น และความสามารถในการเร่งความเร็ว แม้ว่าการวางตำแหน่งแป้นเบรกและคันเร่ง อาจไม่เหมาะกับการขับแบบใช้ปลายเท้าเหยียบทั้งคันเร่งและเบรกเพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ขณะเข้าโค้ง แต่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เซตอัพมาให้ง่ายต่อการเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของรถแข่ง ช่วงล่างด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท สปริงโช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบปีกนกคู่ดับเบิ้ลวิชโบน ระบบเบรกด้านหน้าแบบสี่พอต เส้นผ่าศูนย์กลางจานเบรก 356 มิลลิเมตร ด้านหลังแบบซิงเกิ้ลพอต จานเส้นผ่าศูนย์กลาง 297 มิลลิเมตร
ภายใน ความสะดวกสบาย และพื้นที่เก็บสัมภาระ
GR Corolla ใช้ห้องโดยสารส่วนใหญ่ร่วมกับโคโรลลาแฮตช์แบคมาตรฐาน ซึ่งหมายถึงคุณภาพการประกอบที่ดี วัสดุที่สัมผัสนุ่ม และคุณสมบัติมากมาย แต่มีการตกแต่งแบบเรซเซอร์และเบาะนั่งแบบสปอร์ต อุปกรณ์มาตรฐานประกอบด้วยไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง ปุ่มกดสตาร์ต และที่เหยียบอะลูมิเนียม ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ เบาะนั่งแบบอุ่น และพวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้ทั้งหมดเป็นมาตรฐานในรุ่น Circuit Edition ซึ่งยังสวมเบาะหนังกลับและหนังเทียมแทนผ้ารุ่นพื้นฐาน Morizo Edition ให้คำมั่นว่าจะมีระดับความตื่นเต้นที่สูงกว่า แต่ต้องเสียค่าการใช้งานจริง โตโยต้าได้ถอดเบาะหลัง ลำโพงด้านหลัง และแม้แต่ที่ปัดน้ำฝนแบบแฮตช์แบคเพื่อลดน้ำหนักให้ได้มากที่สุด น้ำหนักน้อยกว่าเท่ากับเวลาต่อรอบที่เร็วขึ้น เบาะนั่งคู่หน้าใช้เบาะสีแดงดำแบบพิเศษเฉพาะ ปุ่มคันเกียร์ คันเบรกจอดรถ และขอบพวงมาลัยหุ้มด้วยหนังกลับเทียมที่ดูโฉบเฉี่ยว จอแสดงผล Infotainment ขนาด 8.0 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การเชื่อมต่อกับ apple carplay & android auto และฮอตสปอต Wi-Fi ในตัว แพ็กเกจเทคโนโลยีในรุ่นมาตรฐาน มีระบบสเตอริโอ JBL แปดลำโพง แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย และระบบนำทางบนแผงหน้าปัด อุปกรณ์เหล่านี้เป็นชุดมาตรฐานในรุ่น Circuit Edition
ความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับ
Toyota นำเสนอเทคโนโลยีช่วยขับเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับ GR Corolla ก็ไม่ต่างกัน คุณสมบัติทางเทคโนโลยีของระบบความปลอดภัยจำนวนมากถูกใส่เข้ามาให้ใช้งาน รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ การตรวจจับคนเดินถนนและคนปั่นจักรยาน ไฟหน้า LED พร้อมไฟสูงอัตโนมัติ สำหรับข้อมูลระบบความปลอดภัย ได้แก่ :
-automated emergency braking with pedestrian detection
-lane-departure warning with lane-keeping assist
-adaptive cruise control
คาดว่า Toyota GR Corolla จะเข้ามาทำตลาดในไทยช่วงปลายปีนี้ อาจได้เห็นตัวเป็นๆ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2022 ปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ถือเป็นการฉลองครบรอบ 60 ปี อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยรถสปอร์ตที่มีโควตานำเข้าไม่น่าจะเกิน 10-15 คัน.
2023 Toyota GR Corolla
Vehicle Type: front-engine, all-wheel-drive, 2- or 5-passenger, 4-door hatchback
ENGINE
turbocharged and intercooled DOHC 12-valve inline-3, aluminum block and head, port and direct fuel injection
Displacement: 99 in3, 1618 cm3
Power: 300 hp @ 6500 rpm
Torque: 273 or 295 lb-ft 370-400 Nm
TRANSMISSION
6-speed manual
DIMENSIONS
Wheelbase: 2,639 mm
Length: 4,409 mm
Width: 1,849 mm
Height: 1,450 mm
Curb Weight (C/D est) 1,490 kg
PERFORMANCE (C/D EST)
0-100 km/h : 4.9-5.0 sec
0-160 km/h : 11.7–11.8 sec
1/4-Mile: 13.3–13.4 sec
Top Speed: 230 km/h