การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ ปริทัศน์ พูลผล นักธุรกิจระดับพันล้านแห่งวงการมอเตอร์ สปอร์ต ไทย พร้อมกับทิ้งโปรเจกต์สุดท้าย ชลบุรี มอเตอร์ พาร์ค ที่ทุ่มงบถึง 4 พันล้าน เนรมิตเทียบชั้นสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่บุรีรัมย์
ภายหลังเกิดเหตุไม่คาดฝัน จากกรณีที่นายปริทัศน์ พูลผล อายุ 46 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ อิสเทิร์น จำกัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือด อยู่บนเตียงในห้องนอน ที่มือขวาผู้ตายถืออาวุธปืนไม่ทราบยี่ห้อและขนาด มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวา 1 นัด เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2560
สำหรับ ปริทัศน์ พูลผล ถือเป็นนักธุรกิจคนดังแห่งวงการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างแท้จริง และยังมีตำแหน่งเป็นอนุกรรมการและเลขานุการราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในประบรมราชูปถัมภ์ นอกจากนี้ยังเป็นผู้นิยมกีฬาขับรถแข่ง โดยผ่านการลงสนามแข่งขันมาแล้วมากมายหลายรายการ
ขณะที่โปรเจกต์สร้างสนามแข่งขันรถยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ของนักธุรกิจวัย 46 ปี รายนี้ คือ “ชลบุรี มอเตอร์ พาร์ค” สนามแข่งรถสนามแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ พร้อมอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ใน จ.ชลบุรี โดยถือเป็นสนามที่ได้มาตรฐานเกือบเทียบชั้น “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” ของจังหวัดบุรีรัมย์ เลยก็ว่าได้
ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือของหลายฝ่าย โดยมี สนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นั่งเป็นประธานที่ปรึกษาโครงการ โดยใช้พื้นที่เกือบ 1,000 ไร่ ซึ่งถือเป็นโครงการขนาดใหญ่นั้น มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองค้อ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ห่างจากถนนมอเตอร์เวย์ประมาณ 8 กิโลเมตร และห่างจากชายหาดบางแสนราว 30 กิโลเมตร
แม้สนามแห่งนี้จะจัดสร้างด้วยงบประมาณมหาศาล และสามารถจัดการแข่งขันรถยนต์ได้ทุกประเภท ทว่ามีเพียงการแข่งขัน ฟอร์มูล่า-วัน เท่านั้น ที่ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ นอกนั้นสามารถจัดการแข่งขันที่เป็นโปรแกรมการแข่งขันระดับโลกได้ ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รวมถึงรถจักรยาน, ศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์, โรงแรม, สนามยิงปืน, สนามแข่งรถโกคาร์ต, โรงเรียนสอนขับรถยนต์ และโรงเรียนสอนขับรถแข่งโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีอาคารอเนกประสงค์ และพื้นที่รองรับกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน
ในส่วนของโรงแรมจะมี 100-150 ห้อง จะดึงบริษัทรับบริหารโรงแรมมืออาชีพเข้ามาบริหาร และพื้นที่บริเวณโดยรอบจะเป็นการลงทุนของกลุ่มชาวบ้านและชุมชน อาทิ โฮมสเตย์, ร้านอาหาร ฯลฯ เพื่อรองรับกลุ่มนักแข่ง ผู้ติดตาม ทีมจัดงาน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการระบุด้วยว่าการก่อสร้างสนามแห่งนี้ จะออกแบบโดยจะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ เช่น ระบบน้ำ ไฟฟ้า จะดำเนินการเข้ามาในพื้นที่เอง โดยไม่เกี่ยวกับข้องที่ประชาชนใช้อยู่ รวมทั้งจะมีการก่อสร้างกำแพงต้นไม้ และเนินดิน ป้องกันเสียงรบกวน นอกจากนั้นจะจัดการแข่งขันในช่วงกลางวัน โดยไม่มีแข่งขันในช่วงกลางคืน เพื่อป้องกันเสียงรบกวนเวลาพักผ่อนของประชาชน ขณะที่มีรายงานว่าการก่อสร้างจะเริ่มในเดือนเมษายน 2560 และจะใช้เวลาราว 1 ปี 6 เดือน จึงแล้วเสร็จ
ที่มา : https://manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9600000071266
This website uses cookies.