เปิดบ้านหรูของ “ทนง ลีอิสสระนุกูล” พร้อมยลโฉมซูเปอร์คาร์ ที่ศรีภรรยาขอยื่นคำขาดว่าให้ซื้อได้แค่ 3 คันเท่านั้น!
ในพื้นที่ระหว่างถนนสายธุรกิจสำคัญสองสายของกรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของแหล่งพำนักของครอบครัว “ลี้อิสสระนุกูล” ซึ่งเพิ่งสร้างและตกแต่งเสร็จหมาดๆ และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ครอบครัวนี้เปิดอาณาจักรส่วนตัวมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทให้ HELLO! ได้ชื่นชม โดย “คุณทนง และลูกสาวสองใบเถา คุณพรรษพร และคุณเอกสิริ” พร้อมใจกันยกหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างและตกแต่งคฤหาสน์หลังนี้ให้กับ “คุณชมพูนุท ลี้อิสสระนุกูล” ผู้มีรสนิยมวิไล เพื่อชมโลกส่วนตัวที่ยังไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
เบื้องหลังประตูเหล็กสีเทาที่นำไปสู่คฤหาสน์สองชั้นสไตล์คอนเทมโพรารีคลาสสิก ซึ่งด้านหนึ่งเชื่อมกับโรงรถติดแอร์เย็นเฉียบสำหรับ Porsche GT2RS สีน้ำเงินกับ McLaren สีเขียวและ Aston Martin สี Lime Essence ซึ่งคุณทนง ลี้อิสสระนุกูล เจ้าของบ้านฝ่ายชายบอกเราว่า รถสปอร์ตสีมะนาวนั้น
“ที่ซื้อเพราะเป็นสีเดียวกับทีมแข่งรถเมืองนอกที่บริษัทเราสนับสนุนอยู่ และสีเข้ากับชื่อมะนาวลูกสาวคนโตด้วย ก็จะเป็นรถที่แม่ลูกเขาใช้ด้วยกัน เป็นรถผลไม้ ชมพู่ มะนาว มะเฟือง คุณชมพู่ใช้ขับไปเล่นโยคะกับรับลูก ผมบังคับให้ขับเพราะเดี๋ยวแก่” หนุ่มใหญ่วัย 61 ปีพูดพลางหัวเราะ
คุณเอกยังบอกเราอีกว่า ถึงแม้คฤหาสน์ที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ นี้ จะมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดรวมที่จอดรถชั้นใต้ดินแล้วเกือบ 3,000 ตารางเมตร แต่คุณชมพู่-ชมพูนุท ลี้อิสสระนุกูล ศรีภรรยา ถึงกับเบรกการซื้อรถซูเปอร์คาร์ว่าต้องไม่เกินสามคัน
“เขาบังคับให้ซื้อแค่สองสามคันพอ ซึ่งผมใช้อย่างมากแค่คันละปีสองปี เพราะตัวเองหน้าไปทางคลาสสิก ส่วนใหญ่ผมจะเล่นรุ่นพิเศษ โอกาสขาดทุนจึงลดลง ตอนนี้ผมรับหน้าเสื่อเป็นประธานชมรม McLaren ด้วย ก็เลยมีอยู่คันหนึ่ง ส่วน Porsche รุ่นนี้เป็นรุ่นหายาก ทั้งหมดผมซื้อเพื่อดูเทคโนโลยี เพราะเราทำธุรกิจยานยนต์ ตอนนี้ก็ต้องดูว่ารถที่ใช้ไฟฟ้าจะไปทางไหน เราจะได้พัฒนาสินค้าเราเพื่อรองรับตลาดนี้ให้ได้ แต่ความน่ากลัวคือจะเอาแบตเตอรี่ใช้แล้วไปทำลายที่ไหน เพราะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมมากเลย ซึ่งยังไม่มีใครตอบได้ ถ้าถามอีลอน มัสก์ก็จะตอบว่าเอาขึ้นจรวดไปปล่อยในอวกาศเสียเลยสิ เรียกว่ายังไม่พร้อมเท่าไร แต่สุดท้ายก็ต้องไปทางนั้น เพราะเป็นพลังงานสะอาด”
อดีตนักแข่งรถมือฉมัง ผู้มีงานอดิเรกคือการขับซูเปอร์คาร์และบิ๊กไบค์ไปตามจังหวัดห่างไกล โดยมีลูกสาวทั้งสองเป็นตุ๊กตาหน้ารถ บอกเราว่า “ผมชอบขับรถก็เอาตัวเล็ก (เขาหมายถึงน้องมะเฟือง-เอกสิริ ลี้อิสสระนุกูล) ไปด้วยบ้าง ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ก็เอามะนาว (พรรษพร ลี้อิสสระนุกูล ลูกสาวคนโต) ซ้อนท้ายไปบ้าง เขาชอบนะ”
ด้านคุณมะเฟือง นิสิต BBA จุฬาลงกรณ์ฯ ชั้นปี 3 ก็บอกเราว่า ที่ไปกับคุณพ่อก็เพราะมีเพื่อน “พอดีหนูมีเพื่อนเป็นลูกเพื่อนคุณพ่อซึ่งวัยเดียวกัน ก็เลยเหมือนเราได้ไปเที่ยวกับคุณพ่อด้วยกับเพื่อนด้วย ทีนี้คุณแม่ไม่ชอบนั่งรถเร็วเวลาขึ้นลงเขาทำให้เวียนหัว คุณพ่อเลยมาชวนหนู เพราะหนูชอบความเร็วอยู่แล้ว”
“คุณชมพู่เขาไม่กล้านั่งรถ เขาเป็นคุณนาย เวลาไปทริปดำน้ำ คุณชมพู่ไม่กล้าลง มัวแต่ไปคุมคนเรือให้ระวังใบพัดเดี๋ยวถูกลูกฉัน แกกลัวมาก” คุณเอกกล่าวถึงคุณชมพูนุท ผู้เป็นศรีภรรยาด้วยความรัก
หนึ่งในล้านความโชคดี
คฤหาสน์หลังนี้ใช้เวลาก่อสร้างและตกแต่งนานสามปีกว่า ใช้เงินไปทั้งสิ้น 200 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเครื่องเรือนและของตกแต่งที่เป็นงานศิลปะ ซึ่งอย่างหลังนี้คุณเอกรีเควสต์ภรรยาเป็นพิเศษ “ผมบอกคุณชมพู่ตั้งแต่ต้นแล้วว่า หลังจากบ้านเสร็จ คุณต้องสะสมงานศิลปะของศิลปินระดับชาติให้ได้ โชคดีที่คุณดอยธิเบศร์ ดัชนีแบ่งรูปของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี มาให้เราสองรูป”
“พอดีพู่ชอบศิลปะอยู่แล้ว บ้านหลังเก่าก็ตกแต่งด้วยศิลปะเหมือนกัน แต่ใช้กับบ้านหลังนี้ไม่ค่อยได้ ก็เลยปรึกษาเพื่อนที่เขาทำ art space และเพื่อนรุ่นพี่ที่สะสมงานศิลปะ” คุณชมพู่บอกกับเรา
รูปของอาจารย์ถวัลย์ผู้ล่วงลับรูปหนึ่งติดอยู่ในห้องมินิเธียเตอร์ ส่วนรูปม้าที่ประหนึ่งกำลังทะยานขึ้นสู่บันไดตรงชานพักบันไดก็เป็นฝีแปรงของเขา นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมแม่-ลูกของอาจารย์เขียน ยิ้มศิริ ศิลปินแห่งชาติ และอีกรูปเป็นของอาจารย์ประสงค์ ลือเมือง ซึ่งมีความพิเศษตรงที่มีชื่อ ‘เอก’ อยู่ในนั้นด้วย เพนติ้งสีสันสดใสของศิลปินต่างชาติก็มีอีกเช่นกัน รวมทั้งรูปพอร์เทรตคุณชมพู่ที่วาดโดยครูปาน-สมนึก คลังนอก ซึ่งประดับอยู่ใน walk-in closet ของคุณชมพู่ ที่มีตู้กระเป๋า Hermès เต็มทุกชั้นอยู่ด้านหนึ่ง กับเสื้อผ้าที่แขวนเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ โดยมีตู้แอ็กเซสเซอรี่ส์เป็นเกาะกลางห้อง และตู้กระเป๋ายังลามไปถึงส่วนของคุณเอกผู้เป็นสามี “จริงๆ ยังไม่เท่าที่เราอยากได้ ตู้กระเป๋ายังน้อยไป เลยไปกินพื้นที่ของสามี” คุณชมพู่ออกตัว
ชั้นบนเป็นห้องนอนของสมาชิกครอบครัวทั้งสี่ และห้องนอนสำรองสำหรับสมาชิกใช้นอนยามเป็นหวัดกลัวติดต่อกัน แต่ทว่าตอนนี้กลายเป็นห้องนอนของเจ้าอัลมอนด์ สุนัขพันธุ์มอลทีส ทอย ซึ่งส่งตรงจากประเทศเกาหลีใต้ และบัดนี้ได้กลายเป็นน้องเล็กของครอบครัวไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีห้องพระและห้องเก็บของ เมื่อลงบันไดมาชั้นล่าง ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำที่คุณชมพู่ตั้งใจตกแต่งด้านหน้าด้วยวอลล์เปเปอร์ลายซิกแซกอันเป็นซิกเนเจอร์ของ Missoni แบรนด์โปรดของเธอ ติดกันเป็นห้องเก็บรองเท้าเต็มตลอดผนังตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ตรงข้ามกันเป็นห้องมินิเธียเตอร์ที่เปิดออกสู่หลังคากระจกสามารถเปิดชมจันทร์ได้
ห้องรับประทานอาหารใหญ่ตกแต่งด้วยตู้ใส่เครื่องถ้วยชามลายคราม ซึ่งเป็นของสะสมตั้งแต่ยุคคุณพ่อ เชื่อมกับห้องรับประทานอาหารเล็กและแพนทรี ขนานไปกับสระว่ายน้ำ ด้านหนึ่งของสระเป็นยิมเล็กๆ ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกาย รวมทั้งที่ยกน้ำหนักขนาดใหญ่จนไม่น่าเชื่อว่าสาวๆ บ้านนี้จะยกไหว “เวลาเขาวางแผ่นเหล็กยกน้ำหนัก รู้สึกเลยว่าบ้านสะเทือน คนขี้กลัวอย่างพู่เลยกลัวว่าจะเกินกำลังเขา แต่เขาก็เล่นของเขาได้ค่ะ”
100 ปีสิทธิผล
ปี 2564 เป็นปีที่กลุ่มสิทธิผลกำลังจะย่างเข้าปีที่ 101 จากร้านรับปะยางซ่อมรถจักรยานใต้ต้นโพธิ์ ที่วัดญวณ ตลาดน้อย มาบัดนี้ห้างเซ่งง่วนฮงของคุณกนก ลี้อิสสระนุกูล ได้เติบโตขยายอาณาจักรเป็นธุรกิจที่มียอดขาย 4 – 5 หมื่นล้านบาท มีชื่อเสียงขจรขจายในฐานะผู้ผลิตอะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์แบบครบวงจร มีพนักงาน 4 หมื่นชีวิต และมีฐานผลิตในเนปาล อินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศในทวีปเอเชีย
“กลุ่มสิทธิผลอายุครบ 100 ปีแล้ว เราได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยที่สุด เพราะอาชีพเดลิเวอรี่ด้วยมอเตอร์ไซค์กำลังฮอตมาก คนขับมอเตอร์ไซค์เหล่านี้เป็นผู้มีอุปการคุณของเรา ผมกับน้องๆทั้งหมดช่วยกันดูแลธุรกิจในกลุ่มบริษัท น้องสาวคนรอง คุณพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล ดูแลกลุ่มบริษัทอีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผลิตยางรถจักรยาน ยนต์ IRC และผลิตยางอีกหลายสิบโปรดักต์ ซึ่งปีปีหนึ่งเราขายเยอะมาก
“ส่วนน้องชาย คุณอภิชาต ลี้อิสสระนุกูล ดูแลกลุ่มบริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีโรงงานในเนปาลและอินโดนีเซียด้วย ผลิตไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟส่องถนนทั้งหลาย และน้องสาวอีกคน คุณพรทิพย์ เศรษฐีวรรณ ดูแลบริษัท แปซิฟิค อินดัสตรีย์ส (ไทยแลนด์) จำกัด และไฟแนนซ์ของกลุ่ม ที่เหลือผมดูหมดไม่ว่าจะเป็นสิทธิผล 1919 ซึ่งทำการตลาดให้กับสินค้าในเครือ และไดโด สิทธิผล ผลิตโซ่ขับเคลื่อน DID เป็น No.1 ของโลกนะ รวมทั้งผลิตวงล้อยูเนียน และวาวล์เติมลมรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจหัวเทียนนิปปอนเด็นโซ รวมทั้งลงทุนร่วมกับบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส โททาล ออยล์ (ประเทศไทย) ทำเรื่องน้ำมันเครื่อง ผลิตแผงโซลาร์สำหรับผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ และผลิตกังหันลมสำหรับผลิตไฟฟ้าพลังลม”
ถามว่าอะไรคือหลักคิดสำหรับการทำธุรกิจของกลุ่มสิทธิผล คุณเอกครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “หลักคิดของธุรกิจเราคือมันไม่มีทางลัด เราไม่ได้เกาะกระแสใครเลย เราขายได้ด้วยคุณภาพของสินค้า ไม่มีการเมือง ไม่มีสัมปทาน ตรงไปตรงมา คนเก่าคนแก่ก็อยู่กับเราตลอด ขนาดอยู่จนเกษียณแล้วจะให้อยู่ต่อ เขาบอกเองว่าไม่ไหว เดี๋ยวผมตายคาออฟฟิศ เรียกว่าเราเลี้ยงคนจนถึงฝั่ง
สำหรับวาระครบรอบ 100 ปีสิทธิผล ในฐานะผู้นำองค์กรเขาต้องการทำอะไรเป็นการเฉลิมฉลองหลักชัยที่ 100 นี้“โควิด-19 ทำให้เราไม่อยากฉลอง 100 ปีให้สิ้นเปลือง จึงได้แต่ทำบุญมากเป็นพิเศษ บริจาคกระจายไปให้กับทุกมูลนิธิหรือทุกองค์กรที่มีความจำเป็น ก็กะจะทำให้ครบ 100 ล้านบาท ซึ่งผมว่าแบบนี้ดีกว่า”
คู่ชีวิตเสี้ยวศตวรรษ
คุณชมพู่พบกับคุณเอกตอนที่เธอทำงานอยู่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ฟินวัน เพราะเขากับเพื่อนมากู้เงินเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน “ปกติไม่ค่อยได้เจอลูกค้าเท่าไร แต่ยังไงไม่รู้ได้เข้าไปเจอ เขาโตกว่า 7 ปี ซึ่งตอนนั้นถือว่าคนละรุ่น ยังแซวเขาเล่นๆ เลยว่าคนแก่ (หัวเราะ) ก็เลยไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นก็มีคนมาจีบเหมือนกันค่ะ แต่เราชอบคนตลก (หัวเราะเบาๆ) และเขาก็มีความเป็นผู้ใหญ่ด้วย เขาขี้เล่นและดูแลเราได้ ก็เลยคุย ซึ่งพอรู้จักเขามากขึ้น ถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่เพลย์บอย แล้วก็มีความสม่ำเสมอ จะโทร.มาเวลาเดิมทุกวัน เช้ารอบ สองทุ่มอีกรอบ
“เคล็ดลับในชีวิตคู่ของผมไม่มีอะไรมากนะ ผมแค่เป็นฝ่าย ‘ยอม’ หมด (ยิ้ม) ผมไม่มีบัญชีส่วนตัว มีอะไรเท่าไรผมให้เขาหมดเลย เพราะผมไม่รู้ว่าจะเก็บไว้เองทำไม คือคุณชมพู่เขาดูการเงินมาตลอด และเรื่องนี้ผู้หญิงอย่างเขาละเอียดกว่าเรา เรามีหน้าที่หาอย่างเดียว ผมจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดว่าหลังบ้านเรามีเท่าไร
“รายจ่ายส่วนตัวผมก็มีแค่รถเท่านั้นเอง รถผมก็ไม่ใช้เงินเยอะ ผมใช้วิธีผ่อนเอา ข้อดีของการผ่อนคือเราไม่ต้องใช้เงินก้อน ในเมื่อเรามีเครดิตเราก็มีประกัน ถ้าขายก็ถือว่ากำไรใช้ ผมชอบรถมาตั้งนานแล้ว และชอบขับไปต่างจังหวัด รถทุกคันของผมจึงได้วิ่งจริงๆเป็นหมื่นกม. ถ้าไปห้างผมก็จะนั่งรถตู้หรือขึ้นรถไฟฟ้าเอา เพราะถ้าเอาซูเปอร์คาร์ไปก็ใส่ของที่ซื้อมาไม่ได้”
ส่วนคุณชมพู่ก็เสริมคำพูดของคุณสามีว่า “พู่ว่าคุณเอกมีความรักครอบครัวเป็นพื้นฐานค่ะ ยามที่เราต้องการความช่วยเหลือเรามีเขาเป็นที่พึ่ง เวลาเรากลุ้มใจก็ได้เขาให้ข้อคิดเรา เพราะพู่เป็นคนคิดมาก ฟุ้งซ่าน คิดวนไปวนมา แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นแล้วเพราะประสบการณ์ชีวิตสอน จากเดิมที่เวลามีคนมาพูดให้เสียใจนิดหนึ่งก็คิดอยู่นั่น เดี๋ยวนี้เข้าใจคนมากขึ้น
“ด้วยความที่คุณเอกเป็นผู้ชายที่ไม่จุกจิกเหมือนเรา เขาก็จะบอกว่าพูดให้น้อยๆ หน่อย (หัวเราะ) พูดให้ตรงประเด็น ไม่ต้องย้ำ เพราะด้วยความที่เรากลัวลูกไม่ทำก็จะย้ำๆๆๆ เขากลัวว่าลูกจะรำคาญแม่ ยังชอบแซวเลยว่าแม้กระทั่งอัลมอนด์ยังไม่เชื่อฟัง (หัวเราะ) ไม่เหมือนคุณเอกเขาใจดีแต่พูดทีทุกคนอึ้ง มะนาวเคยเจอพ่อดุหนหนึ่ง เรื่องเขาเถียงพู่ แล้วตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่กล้าเถียงพู่อีกเลย”