วันที่ 25 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บ้านหนองบัวขาว ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ มีชายหนุ่มอายุ 24 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง และมีเนื้องอกโผล่ออกมาลุกลามไปทั่วขาทั้งสองข้าง มาตั้งแต่เด็กอายุได้เพียง 7 ปี และต้องอยู่อย่างสุดแสนจะทรมานมานานถึง 17 ปี จนล่าสุดสภาพร่างกายได้เริ่มทรุดหนัก และมีอาการเหนื่อยล้าอ่อนแรงลง จนช่วยเหลือตัวเองและเดินเหินไปไหนไม่ได้ ต้องอาศัยมารดา อายุ 51 ปี มาคอยดูแลช่วยเหลือทำแผลที่เกิดจากการบ่งน้ำหนองออกจากเนื้องอกให้ทุกวัน จนมารดาไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างหาเงินได้ ในขณะที่ครอบครัวก็มีฐานะยากจนจึงวิงวอนผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 22 บ้านหนองบัวขาว ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี ก็พบกับนายวิชาญ ทะเที่ยง อายุ 24 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง และมีเนื้องอกโผล่ออกมาที่ขาและเท้าทั้งสองข้าง จำนวน 6-7 จุด และเริ่มลุกลามมาขึ้นที่บริเวณแขนขวา นั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างแคร่หน้าบ้าน โดยมีนางแสงดาว ทะเที่ยง อายุ 51 ปี ผู้เป็นมารดานั่งคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
นางแสงดาว ทะเที่ยง เล่าว่า นายวิชาญ ซึ่งเป็นลูกชายของตนเองร่างกายพิการผิดรูปมาตั้งแต่เกิด และได้ประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานล้มขณะไปโรงเรียน เมื่อตอนอายุ 7 ขวบ ซึ่งเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 1 โรงเรียนบ้านหนองบัวขาว ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลที่ขา ต่อมาแผลเกิดเป็นเนื้องอกขึ้นมา ตนจึงพาลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี หมอบอกว่าเป็นเนื้องอกต้องผ่าตัดเอาเนื้องอกออก แต่หลังจากผ่าตัดเอาเนื้องอกออก ตนคิดว่าแผลจะหายเป็นปกติ แต่เนื้องอกกลับลุกลามไปทั่วทั้งขาและเท้า โรงพยาบาลวิเชียรบุรีได้ส่งตัวลูกชายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ หมอบอกว่าลูกชายของตนเป็นมะเร็งผิวหนัง ต้องส่งต่อไปที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ตนพาลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช 3 ครั้งๆที่ 3 หมอบอกว่าให้แม่ทำใจ เพราะอาการที่ลูกชายเป็นรักษาไม่ได้แล้ว ให้กลับมาอยู่บ้านดูแลตามอาการ
กว่า 10 ปีแล้วที่ลูกชายต้องอยู่อย่างทรมาน เพราะเนื้องอกที่ลุกลามไปทั่วขาทั้งสองข้างเป็นหนอง หมอแนะนำให้ใช้เข็มบ่งให้หนองไหลออกมา ตนต้องคอยทำแผลให้กับลูกชาย ในช่วงนี้ลูกชายอาการไม่ดี เดินไม่ไหว เนื่องจากเท้าทั้ง 2 ข้างเป็นหนอง และร่างกายเริ่มอ่อนแรง มีอาการเหนื่อย รู้สึกสงสารลูกมาก ยิ่งตอนนี้อากาศร้อนมากลูกบ่นทั้งเจ็บทั้งคันแผล ต้องคอยไล่แมลงวันไม่ให้ตอมแผล อยากจะทำห้องติดแอร์ให้ลูกก็ไม่มีเงินซื้อแอร์ เพราะสามีทำงานคนเดียว หนี้สินที่ไปกู้ยืมจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อมารักษาลูกก็ยังผ่อนชำระไม่หมด ส่วนอุปกรณ์ทำแผลบางอย่าง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ่อรัง มอบให้ แต่บางอย่างต้องหาซื้อเอง ตนรู้สึกเครียดมาก เพราะตอนนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้จากการทำงานของสามี แต่รู้สึกหวั่นใจว่าถ้าสามีถูกเลิกจ้างครอบครัวจะเป็นอย่างไร เพราะว่าสามีอายุกว่า 60 ปีแล้ว
ขณะที่นายวิชาญ ทะเที่ยง เล่าว่า รู้สึกเสียใจที่แม่ต้องมาเฝ้าคอยดูแลตนที่มีอาการป่วย พยายามบอกแม่ให้ไปทำงานไม่ต้องห่วงตน แต่แม่เป็นห่วงตนเพราะช่วงนี้ตนมีอาการอ่อนเพลียและเป็นลมบ่อย รู้สึกสงสารพ่อที่ทำงานคนเดียว ก็อยากจะมีรายได้เพิ่ม ตนเปิดยูทูบดูเห็นสอนวิธีเพาะเห็ด ก็ปรึกษาแม่ว่าแม่ทดลองเพาะเห็ดขายไหมจะได้มีรายได้ แต่ก็ต้องหาเงินมาลงทุนก่อน
สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือ นายวิชาญ ทะเที่ยง สามารถโอนเงินเข้าบัญชี เงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาวิเชียรบุรี เลขบัญชี 020083870834 ชื่อบัญชี นายวิชาญ ทะเที่ยง หรือ สอบถามโดยตรงได้ที่เบอร์ 065-3957615 นายวิชาญ
โดย นิติพงษ์ ศรีสุวรรณ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดเพชรบูรณ์