สิงคโปร์ใช้หุ่นยนต์สายตรวจพฤติกรรม ประชาชนหวั่นไม่เป็นส่วนตัว – โพสต์ทูเดย์

วันที่ 06 ต.ค. 2564 เวลา 11:30 น.

กลายเป็นที่ถกเถียงเมื่อทางการสิงคโปร์สอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อยด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำขึ้นเรื่อยๆ ขณะพลเมืองหวั่นละเมิดความเป็นส่วนตัว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หลังจากที่สิงคโปร์ทดลองหุ่นยนต์สายตรวจซึ่งจะลาดตระเวน และตรวจจับพลเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดความกังวลในเรื่องความเป็นส่วนตัวของประชาชนอย่างมาก

หุ่นยนต์ดังกล่าวมีชื่อว่า Xavier ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยล้อ พร้อมด้วยกล้องวงจรปิดถึง 7 ตัว เพื่อเดินลาดตระเวนและจะส่งเสียงเตือนเมื่อพบพลเมืองมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาทิ สูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ จอดรถจักรยานไม่ถูกต้อง และฝ่าฝืนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น

ทางการได้ทดลองใช้ Xavier เป็นเวลา 3 สัปดาห์ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยส่งไปประจำการตามหมู่บ้านจัดสรรและศูนย์การค้า

“โปรดรักษาระยะห่าง 1 เมตร และห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คน” เจ้าหุ่นยนต์ส่งเสียงเตือนขณะจ้องไปที่กลุ่มผู้สูงอายุที่กำลังดูการแข่งขันหมากรุกในหมู่บ้าน

โดยก่อนหน้านี้มีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการสอดส่องดูแลประชาชนอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการติดกล้องวงจรปิดจำนวนมาก ไปจนถึงการทดลองติดตั้งเทคโนโลยีจดจำใบหน้าบนเสาไฟ

ขณะที่เจ้าหน้าทีผลักดันวิสัยทัศน์ “ประเทศที่ชาญฉลาด” ผ่านการขับเคลื่อนเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงมาช้านาน แต่ด้านนักเคลื่อนไหวมองว่านี่กำลังทำให้ผู้คนสูญเสียความเป็นส่วนตัว และไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาจะปลอดภัย

รายงานระบุว่าทางการสิงคโปร์มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของการควบคุมเสรีภาพพลเมือง และผู้คนก็คุ้นเคยกับการควบคุมที่เข้มงวด แต่เกิดความกังวลที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีการเข้ามาของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้นเรื่อยๆ

หลี ยี่ ถิง นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิดิจิทัลกล่าวกับเอเอฟพีว่า หุ่นยนต์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ล่าสุดที่ทางการนำมาใช้สอดส่องชาวสิงคโปร์ ซึ่งทำให้ชาวสิงคโปร์รู้สึกไม่เป็นส่วนตัว เพราะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด มากกว่าประเทศอื่นๆ

ขณะที่รัฐบาลแย้งว่าการพัฒนาหุ่นยนต์และเทคโนโลยีไม่ได้ทำไปเพื่อจับผิดประชาชน แต่พวกมันมีความจำเป็นเมื่อสิงคโปร์ต้องเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและขาดแคลนแรงงาน

Photo by Roslan RAHMAN / AFP