วันอังคาร ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 12.07 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ลุงนักปั่นจักรยาน
เลี้ยวกลับบ้านถูกเก๋งเสยดับ
เมื่อเวลา 06.40 น. วันที่ 12 พ.ย.62 ร.ต.อ.ชนวีร์ ชุมจุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานมีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณถนนสายตรัง – ปะเหลียน หน้าสวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) หมู่ 2 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง หน่วยกู้ชีพสมาคมร่วมใจ เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดบนถนนห่างจากจุดกลับรถประมาณ 50 เมตร พบชาวบ้านยืนดูเหตุการณ์จำนวนมาก พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 7กฬ 2870 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างเกาะกลางถนนสภาพรถพังยับ หลังคาหน้ารถยุบลง กระจกด้านหน้าและหลังรถแตก ทราบชื่อคนขับคือนางพัชรี จีระพิวัตน์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/3 ถ.ท่าเมือง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี บนกระจกด้านหลังรถพบร่าง นายบำรุง โพธิ์ธารารัตน์ อายุ 76 ปี นอนหงายพาดอยู่บนท้ายรถติดกับกระจกหลังที่แตกละเอียด ศีรษะจนถึงหน้าอกหลุดเข้าไปอยู่ภายในห้องโดยสาร มีเลือดไหลหยดอยู่เป็นทาง ในสภาพสวมเสื้อปั่นจักรยานและกางเกงปั่นจักรยาน มีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุดทั่วร่างกาย เจ้าหน้าที่เร่งปั๊มหัวใจปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตนเวลาต่อมา ใกล้กันบนถนนพบรถจักรยานของผู้ตายสภาพบิดเบี้ยว และห่างออกไปพบเบาะจักยานตกอยู่ และชิ้นส่วนอื่นๆ กระจายเกลื่อนตรงจุดกลับรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำร่างไปชันสูตรศพอย่างละเอียดที่ ร.พ.ศูนย์ตรัง ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งได้ยืนรอให้การกับตำรวจด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและปัดการให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าว
จากการสอบถามนายคณิต ฉิมฉ่ำ อายุ 65 ปี ญาติกับผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้เสียชีวิตมักจะปั่นจักรยานออกกำลังกายเป็นประจำทุกเช้า ตอนเกิดเหตุกำลังกลับรถเพื่อกลับไปบ้านซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม. แต่น่าจะไม่เห็นรถที่กำลังขับตามมาจึงชนเข้าไปอย่างจัง ปกติเข้าก็จะเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวอะไร และสายตายังดีอยู่
ขณะที่นายคารม ชูทวี อายุ 53 ปี เล่าว่า จากการที่ได้สอบถามคนขับรถเก๋ง เขาบอกว่าขณะที่กำลังขับรถผ่านหน้าสวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) ก็เห็นคนปั่นจักรยานเลี้ยวหัวกลับกะทันหันในระยะกระชั้นชิด อีกทั้งจุดดังกล่าวในช่วงเช้ามืดจะมีหมอกที่หนา ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างลำบาก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนจะเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนไล่ดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
This website uses cookies.