ตำรวจใช้เวลานานเกือบ 3 เดือน ปิดคดียิงตา-หลาน ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี หลังตามไปรวบมือยิงได้ยกแก๊ง ปมเหตุขัดแย้งกันเรื่องค้ายาเสพติด และที่สำคัญคนที่ลงมือยิงยังเป็นญาติกับผู้เสียชีวิตด้วย
คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันที่ 7 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา นายกฤษณะ หรั่งกรุ่น อายุ 23 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ โดยมี นายบุญส่ง วิจิตรโท อายุ 70 ปี นั่งซ้อนท้าย ทั้ง 2 คน เป็นตาหลานกัน แต่ขณะที่วิ่งมาตามถนนในหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอม้า ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี มีชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ แล้วใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงเข้าที่ไหล่ขวาของนายบุญส่ง กระสุนทะลุไปเข้าหลังของนายกฤษณะ หลานชาย ทะลุหน้าอกซ้ายตัดขั้วหัวใจ ทำให้ นายกฤษณะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วน นายบุญส่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะนั้นตำรวจเชื่อว่าเป้าหมายของมือสังหารน่าจะเป็นนายบุญส่ง ตาของผู้เสียชีวิต
กระทั่งตำรวจไปพบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เห็นรถของผู้เสียชีวิตขี่ไปตามปกติ แต่มีรถจักรยานยนต์ของคนร้าย เป็นรถสีน้ำเงิน เป็นชาย 2 คน ขี่ตามไปติด ๆ ไม่นานรถจักรยานยนต์คันสีน้ำเงินของผู้ต้องสงสัย ก็ขี่ย้อนกลับมาด้วยความเร็ว นี่เป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้ตำรวจทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นญาติของผู้เสียชีวิต
และนี่เป็นภาพขณะที่ตำรวจชุดจับกุมบุกไปจับ นายนิพนธ์ สาตี อายุ 39 ปี มือยิง และนายปรีดา พยุงวงศ์ อายุ 35 ปี ผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังสืบทราบว่าทั้งสองคนหนีไปกบดานในอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก รวมไปถึง นายสุชาติ ทำทรัพย์ ผู้ต้องหาอีกคน ที่รับฝากปืนจาก นายนิพนธ์ มือยิง พร้อมทั้งของกลางอาวุธปืนขนาด .38 และรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ
และได้ควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.แก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดย นายนิพนธ์ มือปืน ให้การว่า ก่อนหน้านี้ เขาและเพื่อนอีก 2 คน ติดต่อซื้อยาเสพติดกับพ่อค้ายาเสพติดรายหนึ่ง แต่กลับถูกเด็กส่งยาเชิดเงินหลบหนีไป ทำให้พ่อค้ายาเสพติดคนดังกล่าวเข้าใจผิดคิดว่าพวกเขาซื้อยาเสพติดโดยไม่จ่ายเงินให้ และโกรธแค้นมาก กระทั่งมาได้ข่าวว่าพ่อค้ายาเสพติดคนดังกล่วา ได้ไปว่าจ้างให้นายบุญส่งมาให้ลอบฆ่าเขาและเพื่อน วันเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มสุราที่โต๊ะสนุกเกอร์ใกล้ ๆ กับบ้านของนายบุญส่ง กระทั่งเห็นว่ารถจักรยานยนต์ที่นายบุญส่งนั่งซ้อนท้ายผ่านไป จึงขี่รถตามประกบ แล้วชักปืนยิงนายบุญส่ง ก่อนจะหลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดหนองคายระยะหนึ่ง เมื่อเรื่องเงียบจึงย้อนกลับมา แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด ถูกตำรวจรวบตัวได้ยกแก๊ง
ด้าน พลตำรวจตรี สุภธีร์ บุญครอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า คดีนี้ ตำรวจใช้ความพยายามไล่ล่าตัวผู้ต้องหาเกือบ 3 เดือน และจากการสืบสวนเชิงลึก พบจุดเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติด จึงนำกำลังไปปิดล้อม 13 จุด ในพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก กระทั่งจับตัวผู้ต้องหาได้ อีกทั้งยังได้ขยายผลตรวจยึดอาวุธปืนได้เพิ่มอีก 7 กระบอก พร้อมกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่งด้วย และหลังจากนี้จะขยายผลไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหากลุ่มนี้
จากนั้นตำรวจได้ควบคุมต้วผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 จุด คือ จุดวางแผน จุดดักรอ และจุดที่ก่อเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านและญาติผู้เสียชีวิตที่ตามมาดู
โดยหญิงอายุ 50 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ยืนยันลูกชายไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และก็ไม่คิดว่ามือปืนที่ยิงลูกชายของเธอจะเป็นหลานชายของเธอเอง เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้เสียชีวิต โดยปมเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องระหว่างนายบุญส่งซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเธอ กับหลานชายที่เป็นมือปืน แต่สุดท้ายกลับเป็นลูกของเธอต้องมารับเคราะห์แทน
ทั้งนี้ ตำรวจใช้เวลาทำแผนฯ เพียงแค่ 30 นาที ก่อนจะรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับ สภ.แก่งคอย เพราะเกรงญาติผู้เสียชีวิตจะรุมประชาทัณฑ์
Discover the panel d…
This website uses cookies.