“พิพัฒน์” ชี้ “รถตร.นำนทท.จีน” จนท.ทำโดยพลการรับ “พริวิเลจ คาร์ด“ ควบคุมราคาไม่ได้ ชี้ เตรียมสอบหากโฆษณาเกินจริง

สยามรัฐออนไลน์ 31 มกราคม 2566 10:53 น. การเมือง

วันที่ 31 ม.ค. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงกรณีมีนักท่องเที่ยวใช้บริการของตำรวจท่องเที่ยวในการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ใช้บริการแบบฟาสแทรคเข้ามาและมีรถนำขบวน ว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เพียง 2 คนเท่านั้น ที่เข้าไปดำเนินการโดยพลการ และไม่ได้ขออนุญาตจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งกรณีที่สามารถขอใช้รถนำขบวนได้นั้น เช่น แขกของรัฐบาล ผู้นำรัฐบาลที่เข้ามาเป็นการส่วนตัว หรือราชวงศ์ของประเทศต่างๆที่เข้ามาประเทศไทยและหากต้องการขอดูแลความปลอดภัย อารักขาบุคคลสำคัญและอำนวยความสะดวกตามจำเป็นแก่กรณี ให้ทำหนังสือมาที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว รงมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์โดยรถบัสหลายคัน หรือรถเล็กที่แข่งแรรี่ รวมถึงบิ๊กไบค์ที่มาเป็นขบวน หากมีการขออนุเคราะห์เพื่อขอความปลอดภัยเราสามารถส่งรถนำขบวนไปได้ 

เมื่อถามถึงกรณีบัตรไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ที่มีบริษัททัวร์หรือบริษัทนายหน้านำไปขายเกินราคา นายพิพัฒน์ มองว่าเป็นเรื่องการตลาดไม่สามารถควบคุมได้เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งบัตรนี้จะมี 7-8 บัตร มีวงเงินในบัตรที่จะสามารถจองที่นั่งพิเศษและมีเจ้าหน้าที่เข้าไปรับแล้วนำเข้าช่องทางพิเศษ และให้การบริการในการส่งถึงหน้าประตูทางออก รวมถึงส่งถึงหน้าประตูแต่หากอยากให้มีรถรับส่งก็จะติดค่าบริการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ยืนยันว่าการที่มีบริษัททัวร์ไปขายเกินราคา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ไม่สามารถจะรับผิดชอบในสิ่งเหล่านั้นได้ ซึ่งประเทศไทยมีการมอบบัตรพิเศษให้กับบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รวมถึงทำประโยชน์ให้ประเทศไทยมเช่น กรณี หมี่เซียะนักแสดงชื่อดังมารำโปรโมทการท่องเที่ยวหลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวชาวจีน 

และกรณีมีการโฆษณาเกินจริง ว่ามีโปรโมชันเสริมสามารถทำบัตรประชาชนได้ ในบัตรพริวิลเลจการ์ดนั้น ทางททท. และบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการตรวจสอบ หากเกิดเหตุการณ์นี้จริง จะให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนสอบสวนบริษัททัวร์ที่โฆษณาแบบนั้นว่ากระทำเกินจริงหรือไม่ ซึ่งหลักเกณฑ์ของบัตรไม่มีการโฆษณาเกินจริง เนื่องจากมีอัตราค่าใช้บริการที่แน่นอนและมีราคาที่สูง 

เมื่อถามถึงกรณีเน็ตไอดอลใต้หวันครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทยนั้น นายพิพัฒน์ย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้นใครที่พก นำเข้ามาในประเทศไทยถือว่าผิดกฎหมายประเทศไทย แต่การเจอนักท่องเที่ยวสูบเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจะจับปรับได้ จะต้องนำส่งศาลอย่างเดียว 

ทั้งนี้ นอกจากให้สัมภาษณ์แล้ว นายพิพัฒน์ ยังให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารข่าวความยาวหน้าครึ่งกระดาษเอสี่ แจกแก่สื่อมวลชน มีสาระสำคัญโดยสังเขป กล่าวถึงที่มาและสิทธิประโยชน์ รวมถึงขั้นตอน และวิธีการออกบัตรอีลิสการ์ด พร้อมระบุกรณีขบวนการนายหน้า ในประเทศจีนนำไปดำเนินการผิดกฎหมาย และเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มจีนสีเทาว่า กระทรวงการท่องเที่ยว พร้อมให้ความร่วมมือ กับฝ่ายสืบสวนอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบ หากพบความผิดพลาดหรือจุดที่เป็นช่องโหว่งของเงื่อนไขในการรับบัตร ก็พร้อมปรับปรุง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ในทางปฏิบัติขณะเดียวกันหากพบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการรามกฎหมายถึงที่สุด เนื่องจากประเด็นดังกล่าว มีแนวโน้ม จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและกระทรวงฯ ซึ่งขณะนี้ได้มอบให้การท่องเที่ยวประเทศไทย ติดตามข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน จะเพิ่มมาตรการ ในการตรวจสอบเช่น สถานะของผู้แทนจำหน่ายหรือเอเย่นจ์ และสถานะของผู้ถือบัตร ทุก 2 ปี เป็นต้น