ประเด็นเด็ด 7 สี – ความคืบหน้ากรณีมีหนุ่มโพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกตร้านให้เช่ารถจักรยานที่สวนรถไฟ หลังทำรถหาย แล้วไปพูดคุยกับทางร้านจนเกิดการโต้เถียง ก่อนถูกทำร้ายร่างกาย โดยยังพบรถที่ตำหนิคล้ายกันจอดอยู่ที่ร้านข้างเคียง ล่าสุด ทางร้านออกมายืนยันว่าไม่ใช่มิจฉาชีพ แต่ต้องให้ลูกค้าจ่ายเงินมัดจำไว้ก่อน หากพบรถก็จะคืนเงินให้กับทุกราย ติดตามรายงานจากคุณ สิริรัตน์ รัตนสิมานนท์
นี่เป็นภาพขณะหญิงเจ้าของร้านเช่ารถจักรยาน ภายในสวนรถไฟ ย่านจตุจักร กรุงเทพมหานคร กำลังพูดคุยโทรศัพท์ที่ลูกค้าชายวัยรุ่นให้เจรจาด้วย หลังก่อนหน้านี้ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวได้ไปเช่ารถจักรยาน แล้วจอดทิ้งไว้ภายในสวนรถไฟ เมื่อกลับมาก็พบว่ารถหายไปแล้ว จึงรีบมาแจ้งเจ้าของร้าน ก่อนเกิดการโต้เถียงกัน ระหว่างนั้นชายวัยรุ่นจะไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองจากในมือเจ้าของร้าน จู่ ๆ ก็ถูกชายอีกคนเข้ามาล็อกคอแล้วทุ่มลงกับพื้น
ด้านผู้เสียหาย บอกว่า มาเช่ารถจักรยานที่ร้านดังกล่าว แล้วจอดรถทิ้งไว้เพื่อไปถ่ายรูป เมื่อกลับมาก็พบว่ารถหายไปแล้ว จึงรีบกลับมาแจ้งเจ้าของร้านเมื่อช่วงประมาณ 17.00 น. ก่อนเกิดมีปากเสียงกัน ระหว่างนั้นสังเกตุเห็นรถคันหนึ่งที่มีตำหนิที่ท้ายรถคล้ายกันจอดอยู่อีกร้าน จึงพยายามบอก แต่เจ้าของร้านไม่สนใจ
จากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงกัน อีกฝ่ายพูดจาหยาบคายและด่าทอเหยียดเพศ เขาจึงโทรศัพท์ไปหาผู้ใหญ่ให้ช่วยพูดคุย แต่อีกฝ่ายยังพูดจาโวยวายแล้วทำท่าจะปาโทรศัพท์ เขาเห็นท่าไม่ดีจึงยื่นมือจะไปเอาโทรศัพท์คืน จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาล็อกคอจากทางด้านหลัง แล้วพยายามทุ่มเขาลงกับพื้น จนขาและมือถลอก แล้วทำท่าจะเข้ามาทำร้ายซ้ำ แต่ถูกหญิงเจ้าของร้านห้ามเอาไว้
ผู้เสียหายยืนยันว่าทางร้านไม่ได้แจ้งเรื่องเงินมัดจำที่จะคืนหลังพบรถ ส่วนกรณีเรื่องรถที่พบคล้ายกันเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตุและหากเข้าใจผิด ก็ยินดีที่จะขอโทษกับทางร้าน แต่ยังคงติดใจเรื่องการทำร้ายร่างกาย ซึ่งมองว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ
ขณะเดียวกันยังมีผู้เสียหายอีกรายเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจเพิ่มเติมด้วย หลังเช่ารถจากร้านเดียวกัน แล้วรถหายไปในขณะที่จอดทิ้งไว้ เมื่อโทรไปแจ้งกับทางร้าน กลับถูกต่อว่าและด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย เคราะห์ดีที่ตามหารถจักรยานจนเจอ แต่อยากให้ผู้ที่รับผิดชอบดูแลสวนรถไฟมีมาตรการดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น เพราะเกิดเหตุในลักษณะนี้บ่อยครั้ง
ขณะที่ทีมข่าวตรวจสอบร้านเช่าจักรยานเกิดเหตุ พนักงานของร้าน เล่าว่า ลูกค้าที่ปรากฏในคลิปมาเช่ารถจักรยานเมื่อช่วงประมาณ 15.00 น. ก่อนจะกลับมาแจ้งทางร้านว่ารถหายไปช่วงประมาณ 17.00 น. โดยไม่ได้ถ่ายภาพหมายเลขที่ติดหน้ารถไว้ เจ้าของร้านจึงบอกให้รอจนถึงช่วงประมาณ 19.00 น. ซึ่งทางร้านจะสามารถตรวจเช็ครถทั้งหมดได้ จากนั้นทั้งคู่มีปากเสียง โดยลูกค้ายื่นโทรศัพท์ให้เจ้าของร้านคุยด้วย ก่อนจะเกิดเหตุขึ้น ส่วนลูกชายเจ้าของร้านคิดว่าแม่จะถูกทำร้ายจึงเข้าไปช่วยเท่านั้น
สำหรับเหตุการณ์รถหายลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งปกติทางร้านมักให้ลูกค้าวางเงินมัดจำไว้ก่อน แล้วจะเข้าไปตรวจเช็คภายในสวนรถไฟอีกครั้งในช่วง 19.00 น. ของทุกวัน โดยไม่มีการเข้าไปนำกลับมาในช่วงระหว่างวัน และหากพบรถที่หายไปก็จะคืนเงินมัดจำทั้งหมดให้กับลูกค้าทุกราย
ส่วนรถที่หายไป ก่อนหน้านี้พนักงานของร้านระบุว่า มีลูกค้าของร้านเช่ารถจักรยานที่อยู่ติดกัน สลับรถโดยไม่รู้ แล้วนำมาคืนโดยทิ้งรถของตัวเองไว้ภายในสวนรถไฟ แต่ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่าไม่ใช่คันเดียวกัน โดยรถที่หายไปถูกพบจอดทิ้งซุกไว้ในป่าข้างทางภายในสวนรถไฟ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยันเป็นภาพขณะพนักงานของร้านนำรถกลับเข้ามา
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Apiwat Naweerueangrat