นักปั่น BMX ไทยลุยศึกชิงแชมป์โลก ดวลนักปั่นหัวแถวจากยุโรป-อเมริกา

วันที่ 26 ก.ค. 65 นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย พร้อมสู้ศึกชิงแชมป์โลกรายการ “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยนักปั่นไทยเจอศึกหนักต้องลงดวลกับนักปั่นแถวหน้าจากยุโรปและอเมริกา ขณะที่นักปั่นจากเอเชียมีเพียง “ไทย-ญี่ปุ่น-อินโดนีเซีย” เพียง 3 ชาติเท่านั้น ถือเป็นโอกาสที่จะได้พิสูจน์ฝีมือกันก่อนเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน ในปีหน้า

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยความคืบหน้าในการส่งนักปั่นจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยไปแข่งจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก รายการ “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ระหว่างวันที่ 26-31 กรกฎาคม ที่เมืองน็องต์ ประเทศฝรั่งเศส ล่าสุดได้รับรายงานจาก “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย ผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ว่านักปั่นที่เดินทางมาจากประเทศไทย ประกอบด้วย พลฯ สมคิด ฮาระตะวัน, “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ นายวิชิตพงษ์ มงคลศิริ มีความพร้อมเต็มที่ โดยรอนักปั่นไทยอีก 2 คน ได้แก่ “เอ้” สิบตรี โกเมธ สุขประเสริฐ และ “ฟ้า” สิบตรีหญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร ซึ่งฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะเดินทางไปสมทบกับทีมในวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม

พลเอกเดชา กล่าวว่า นักปั่นทีมชาติไทยจะสามารถลงฝึกซ้อมในสนามแข่งขันได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพุธที่ 26 กรกฎาคม ภายหลังการแข่งขันรุ่นอายุทั้งรุ่นจิ๋วและรุ่นอาวุโสหรือที่เรียกว่าการแข่งขันรุ่นชาเลนจ์เสร็จสิ้น จากนั้นจะการยืนยันการลงทะเบียนและประชุมผู้จัดการทีมในวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม และลงแข่งขันรอบแรกในวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม โดยนักปั่นชาย 3 คน ได้แก่ โกเมธ, เมธาสิทธิ์ และสมคิด จะลงแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งมีนักกีฬาลงทะเบียนไว้ 60 คน ในจำนวนนี้มีญี่ปุ่น 2 คน และอินโดนีเซีย 2 คน ส่วน วิชิตพงษ์ จะลงแข่งขันรุ่นเยาวชนชายอายุ 17-18 ปี รุ่นนี้มี 61 คน มีนักปั่นเอเชียจากญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย ชาติละ 1 คน ขณะที่ ชุติกาญจน์ จะลงแข่งขันรุ่นประชาชนหญิง มีนักกีฬา 27 คน โดย ชุติกาญจน์ เป็นนักกีฬาจากทวีปเอเชียเพียงคนเดียวในการชิงชัย

นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากการที่นักปั่นไทยเราจะได้วัดศักยภาพตัวเองกับนักกีฬาระดับโลกจากภาคพื้นยุโรปและอเมริกาแล้ว ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ยังเป็นโอกาสที่จะได้เปรียบเทียบกับ 2 คู่แข่งสำคัญในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนักกีฬาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหมายเลขหนึ่งในกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่งเอเชีย กับนักกีฬาจากประเทศอินโดนีเซีย ที่เป็นคู่ปรับสำคัญทั้งในระดับอาเซียนและระดับเอเชีย ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสที่ให้ ชุติกาญจน์ ได้เก็บคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ในปีหน้าอีกด้วย

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า นอกจากนักปั่นทีมชาติไทยจะลงแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกแล้ว ยังมีนักปั่นรุ่นจิ๋วของไทยอีก 2 คนไปแข่งขันในระดับชาลเลนจ์ รุ่นอายุ 11 ปี จำนวน 2 คน ประกอบด้วย “มีญ่า” ด.ญ.อนัญญา จารุเพ็ง จากทีมสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชัยนาท และ “แกรนด์” ด.ช.ติณณ์ วิจิตรพงษา จากทีม Lake Cross ซึ่ง “โค้ชบอส” รายงานมาว่าการยืนยันรายชื่อของนักปั่นรุ่นจิ๋วทั้ง 2 คน ผ่านพ้นไปด้วยดี โดย ติณณ์ ได้หมายเลข 401 และ อนัญญา ได้หมายเลข 224 หลังจากที่ได้รับหมายเลขประจำตัว นักปั่นจิ๋วทั้ง 2 คนก็ได้ลงฝึกซ้อมสนามแข่งขันไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 และวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม โดยมีกำหนดการแข่งขันในวันพุธที่ 27 กรกฎาคม

“นักปั่นรุ่นจิ๋วทั้ง 2 คนทำผลงานได้ดี ปรับตัวเข้ากับสภาพสนามได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสนามที่ไม่ยากเกินไปนัก แต่ทั้งคู่ยังมีอาการตื่นสนามอยู่บ้าง เนื่องจากบรรยากาศแตกต่างจากประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะจำนวนของนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน ในรุ่นอายุ 11 ปีชายของ ติณณ์ มีนักกีฬาลงทะเบียนถึง 128 คน โดยนักปั่นจากทวีปเอเชียมีแค่ไทยกับญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนในรุ่นอายุ 11 ปีหญิงของ มีญ่า มีนักกีฬาลงทะเบียนทั้งหมด 68 คน ซึ่งนักปั่นจิ๋วทั้ง 2 คนตั้งเป้าหมายว่าต้องผ่านรอบแรกให้ได้เป็นอย่างน้อย” พลเอกเดชา กล่าวเสริมในตอนท้าย.