• ลูอิส มอริส
  • Lives Less Ordinary, Outlook, BBC World Service

Tom Justice in cycling clothing standing behind his racing bike on a cycle track

ที่มาของภาพ, Tom Justice

ทอม จัสติซ อาศัยอยู่ในหมู่บ้านลิเบอร์ตีวิลล์ เมืองชิคาโก ทั้งชื่อสกุล (ซึ่งแปลว่าความยุติธรรม) และชื่อหมู่บ้าน (ซึ่งแปลว่าอิสรภาพ) ของเขา ช่างไม่เข้ากับชายที่ล้มเลิกความฝันการไปแข่งโอลิมปิก แล้วมาเอาดี ด้วยการใช้จักรยานปล้นธนาคาร

ทอมเป็นนักปั่นจักรยานตัวยงมาตั้งแต่เด็ก เขาตกหลุมรักกีฬานี้ครั้งแรกในวัย 13 ปี เมื่อเขาไปเห็นกลุ่มนักปั่นจักรยานเข้าไปใช้สนามกีฬาในละแวกบ้าน

นับแต่นั้นมา ทอมทุ่มเทให้กับการปั่นจักรยานและเขาก็มีความสามารถพอที่จะเข้าร่วมฝึกซ้อมกับทีมโอลิมปิกสหรัฐอเมริกาหลังจบการศึกษาระดับอุดมศึกษา

เลียนแบบจากหนัง ตื่นจากฝัน

ช่วงเวลา 6 ปี ระหว่างการเรียนเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ในวิทยาลัย ทอมหมกหมุ่นกับภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหนังปี 1994 ของ เบน สติลเลอร์ เรื่อง Reality Bites (ในชื่อไทยว่า เรียนจบแล้ว แต่รักยังไม่จบ) เขาหลงเสน่ห์ไปกับ ทรอย ไดเออร์ ตัวเอกที่แสดงโดย อีธาน ฮอว์ก ผู้ผิดหวังกับสังคมและเปลี่ยนงานอยู่บ่อยครั้ง

“ดูหนังเรื่องนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้ผมตกผลึกกับอนาคตอย่างน่าเศร้าใจ” ทอมเล่า

ทันใดนั้น ความคิดในการเป็นนักกีฬาโอลิมปิกก็ดูเป็นเรื่องยากเกินไป เขาเลือกที่จะเลิกแล้วกลับบ้านเกิดในชิคาโก

แต่แล้วชีวิตก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทอมหวัง เขาโหยหาความตื่นเต้นและความสำเร็จ แต่ด้วยแนวคิดของคนเกียจคร้าน ทอมไม่เลือกเดินบนเส้นทางที่ช้าแต่มั่นคง

เขาหันไปหาอะไรที่ตื่นเต้นกว่านั้น และภาพยนตร์อาชญากรรมเรื่อง Heat (ชื่อภาษาไทยว่า ฮีท คนระห่ำคน) ก็ช่วยให้เขาตกผลึกได้ และกลายเป็นอาชญากรในชีวิตจริง

ที่มาของภาพ, Tom Justice

คำบรรยายภาพ,

เขาหันไปหาอะไรที่มอบความตื่นเต้นกว่านั้น และภาพยนตร์อเมริกันอาชญากรรมเรื่อง Heat (ชื่อภาษาไทยว่า ฮีท คนระห่ำคน) ก็ช่วยให้เขาตกผลึกได้ และกลายไปเป็นอาชญากรในชีวิตจริง

ปล้นธนาคารครั้งแรก

ทอมปล้นธนาคารครั้งแรกเมื่อ 23 ต.ค. 1998 ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็วด้วยทักษะการปั่นจักรยานระดับฝึกไปโอลิมปิก

หนึ่งปีให้หลัง เขาปล้นธนาคารอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง โดยปราศจากอาวุธทุกครั้ง

ความกลัวที่จะถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ทำให้ทอมทิ้งเงินที่ปล้นมาได้ในถังขยะบ้างหรือก็เอาใส่ถุงไปวางทิ้งไว้ตามแหล่งที่อยู่อาศัยของคนจน

การสอบสวนของเอฟบีไอ

การใช้ชีวิตเลียนแบบหนังมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นทั้งความดรามาและผลลัพธ์ที่ตามมาของมัน

เมื่อคุณปล้นธนาคารไปเรื่อย ๆ ไม่อัตตาของตัวคุณเอง หรือ สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ก็จะตามจับคุณทันในที่สุด

ความผิดหวังและความหวั่นใจ

การปล้นธนาคารช่วยให้ทอมหลุดพ้นภาวะผิดหวังและไม่มั่นใจในตัวเองได้ชั่วคราว

“ขณะที่เราทุกคนต่างใช้ชีวิตประจำวันกันไป ผมมีความลับในใจว่าผมพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่ เป็นโจรปล้นธนาคารในยามว่าง”

“และนั่น แค่สิ่งนั้น มันช่วยทำให้ผมสู้กับความจริงที่ว่าผมไม่ได้พัฒนาอะไรในทางอาชีพเลย”

ทอมไม่ได้คิดถึงความเสียหายจากการกระทำของเขา ไม่ได้คิดถึงสีหน้าของเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว หรือแม้แต่ผลที่จะตามมา

โคเคนและแคร็ก

ไม่นานความสุขสมที่เขาได้จากชีวิตลับ ๆ ก็จางหายไป เขารู้สึกไร้จุดหมายอีกครั้ง และนี่เป็นช่วงเวลาที่ทอมเริ่มไปปาร์ตีและทำความรู้จักกับโคเคน

แต่ในที่สุด โคเคนธรรมดาก็สูญเสียความสามารถในการทำให้เขาสุขสม ทอมยกระดับไปยังโคเคนผลึกหรือแคร็ก (crack) และเริ่มเก็บเงินที่ได้จากการปล้นธนาคารไปปรนเปรอตัวเองกับยาเสพติด

“ความคิดว่าทำไมผมถึงเริ่มทำสิ่งนี้ในตอนแรก ตอนนี้มันเละเทะสุด ๆ ตอนนี้ผมมันเป็นแค่คนเหลวแหลกธรรมดาคนหนึ่งที่ปล้นธนาคารเพื่อไปซื้อยา เห็นแก่ตัวมาก ๆ”

หมดโชค เจอตำรวจล่า

มีนาคม 2002 กับการปล้นธนาคารครั้งที่ 26 ทอมใช้ความโชคดีของตัวเองไปหมดแล้ว เขาถูกตำรวจพบตัวขณะที่กำลังปั่นจักรยานไปตามถนน

ตำรวจเรียกให้ทอมหยุดและขอดูกระเป๋าเขา

ทอมเพิ่มความเร็วในทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่วิทยุหากำลังเสริมเพื่อจับกุมตัวเขา

ทอมสามารถเล็ดลอดด่านสกัดไปได้จนไปพบเข้ากับแม่น้ำแห่งหนึ่ง เขาทิ้งจักรยานและกระโจนลงน้ำก่อนปีนขึ้นไปยังบริเวณพุ่มไม้หนา จากนั้นเขาก็รอ ขณะเสียงฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือหัว และเสียงปลอกคอสุนัขตำรวจที่ดมกลิ่นหาตัวเขาดังไปทั่ว

นานหลายชั่วโมงที่เขาซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น ทำให้ทอมได้มีเวลาตกผลึกกับตัวเอง

“ผมคิดว่านั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเริ่มคิดได้ว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องดี เพราะตำรวจกำลังตามจับตัวคุณ”

“ทำไมเป็นอย่างนั้นกันนะ พวกเขาไม่เห็นเหรอว่านี่มันเป็นเส้นทางส่วนบุคคลที่น่าตื่นเต้น แน่ละ พวกเขาจะไปคิดแบบนั้นได้ยังไง”

สำหรับทอม การที่ตำรวจพยายามจับกุมตัวเขาหรือแม้แต่ยิงเขาเป็นการเรียกสติให้กับตัวเขาเองได้อย่างดี

ทอมรู้แล้วว่าเขาพาตัวเองมาอยู่ในจุดที่ย่ำแย่ เขาต้องการออกจากจุดนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร

หลังหลบซ่อนอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง ทอมเป็นอิสระอีกครั้ง แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น

ที่มาของภาพ, Scott Crosby

คำบรรยายภาพ,

จักรยานแข่งสีส้มสว่างสั่งทำพิเศษไม่ใช่ยานพาหนะที่ไม่สะดุดตาสำหรับการหลบหนีเท่าไรนัก

ความพิเศษของจักรยาน และการตามจับ

จักรยานแข่งสีส้มสว่างสั่งทำพิเศษไม่ใช่ยานพาหนะที่ไม่สะดุดตาสำหรับการหลบหนีเท่าไรนัก และตอนนี้ตำรวจก็ยึดยานพาหนะคู่ใจของทอมไว้ได้แล้ว

ทอมรู้ดีว่าอีกไม่นานเจ้าหน้าที่จะไปเคาะประตูบ้านหาเขา

ไม่กี่เดือนถัดมา ระหว่างที่ทอมขับรถกลับบ้านหลังไปหาพ่อแม่ เขามองผ่านกระจกและพบว่ามีรถตำรวจไม่ติดสัญลักษณ์กำลังตามเขามา เขาขับหลบมาได้ครั้งแรก แต่ก็ต้องทำอีกเป็นครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 แต่พวกนั้นก็ยังตามประกบเขาต่อ

จนมุมตำรวจ

ท้ายที่สุดทอมก็จอดรถเข้าข้างทาง ลงจากรถ และหันหน้าเข้าหาตำรวจที่ยืนเป็นแผง มีปืนหลายกระบอกจ่อมาที่เขา

ตำรวจคว่ำหน้าเขาลงกับพื้น เอามือไพล่หลัง ใส่กุญแจมือด้วยเสียงดังพอปลุกให้เขาตื่นมาพบความจริง

ทอมถูกส่งตัวไปโรงพักเพื่อสอบสวน เขารับสารภาพทุกอย่าง แต่จุดที่ยากที่สุดคือการโทรศัพท์ไปกลับไปบอกความจริงกับครอบครัวว่าข่าวลือเป็นความจริง เขาถูกจับกุมด้วยข้อหาปล้นธนาคาร

“มันเป็นความน่าละอายอย่างใหญ่หลวง ที่ต้องให้พ่อแม่ไปเผชิญหน้ากับสาธารณชน พวกเขาต้องแบกหน้าไปพบกับเพื่อนบ้านและเพื่อน ๆ และต้องกล้ำกลืนยอมรับว่าลูกทำสิ่งเลวร้ายลงไป”

“ผมละอายมากในตอนนั้น มาจนถึงทุกวันนี้”

ที่มาของภาพ, Tom Justice

คำบรรยายภาพ,

“มันเป็นความน่าละอายอย่างใหญ่หลวง ที่ต้องให้พ่อแม่ไปเผชิญหน้ากับสาธารณชน”

ติดคุกใช้กรรม

ทอมถูกตัดสินจำคุกทั้งสิ้น 11 ปี จากการปล้นธนาคารทั้งหมด 26 แห่ง ทั่วสหรัฐอเมริกา เม็ดเงินตลอด 4 ปีของอาชญากรรมที่เขาก่ออยู่ที่ 129,338 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.5 ล้านบาท

เขามีความคาดหวังที่ประหลาดขณะถูกส่งไปเรือนจำระดับประเทศ เขาคิดว่า “นี่จะเป็นเรื่องเยี่ยมมากที่ผมจะได้อยู่กับคนแบบเดียวกันแล้ว คนที่มีแนวคิดคล้ายกัน”

แต่ทอมก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง เมื่อเขาไปถึงเรือนจำแล้วแต่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด ทอมไม่ได้พิเศษอย่างที่เขาคิดว่าตัวเองเป็น

ผลกระทบที่เหยื่อต้องเผชิญ

หลังเข้ามาอยู่ในเรือนจำแล้วทอมถึงได้ตระหนักถึงผลกระทบที่เขาทำต่อผู้อื่น เมื่อได้อ่านถ้อยคำผลกระทบที่เหยื่อต้องเผชิญ ผู้คนมากมายได้รับความบอบช้ำทางจิตใจอย่างหนักจากการปล้นของเขา

“ผมรู้สึกละอาย ผมไม่เคยคิดจากมุมของพวกเขา”

ทอมไม่เคยตระหนักถึงสิ่งนี้ ไม่เคยตระหนักว่าสิ่งที่เขาทำสร้างผลกระทบให้ผู้อื่นมาแค่ไหน จนกระทั่งเขาได้เห็นถ้อยแถลงของเหยื่อ

ที่มาของภาพ, Tom Justice

คำบรรยายภาพ,

Tom eventually reunited with Bari, his girlfriend from before prison

“คิดว่าคงสนุก แต่ต้องจบเห่”

“ไม่รู้สินะ ตอนเริ่มปล้นธนาคาร ก็คิดว่าคงสนุกดี แต่ก็ต้องจบเห่ไม่เป็นท่า” เขาเตือนคนอื่น ๆ ว่าอย่าริอ่านปล้นธนาคาร

หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวในปี 2011 ทอมกลับไปคืนดีกับบารี แฟนสาว

ตอนนี้ทอมกลายเป็นพนักงานดูแลผู้อื่น ซึ่งเขายกความดีความชอบให้กับเรือนจำที่เปลี่ยนชีวิตเขา

“ผมเติบโตในเรือนจำ เอาเถอะ ยังไงมันก็เข้าท่า มันเข้าท่า และผมขอบคุณ” สิ่งที่เกิดขึ้น