วันที่ 8 พฤษภาคม ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 หลากหลายอาชีพได้รับผลกระทบจากยอดขายและการทำงาน แต่สำหรับหนุ่มใหญ่ชาว จ.ขอนแก่น ที่มาเช่าบ้านพำนักอาศัยอยู่ที่อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ยึดอาชีพเผาข้าวหลามขายใน จ.พิษณุโลก มานาน 24 ปี ไม่มีผลกระทบกับเขาเลย ยอดขายเป็นปกติ ขายหมดทุกวัน วันละ 4,500-5,000 บาท ด้วยเพราะลูกค้ามั่นใจในคุณภาพ และส่งตรงถึงบ้านลูกค้าขาประจำ

“แน็ค วังทอง ข้าวหลามอร่อย” ร้านขายข้าวหลามเผาเคลื่อนที่ของนายเกษม มาตรวังแสง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 ม.1 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ทุกเช้าตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00-06.00 น. นายเกษมจะนำข้าวหลามใส่ท้ายรถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านพักใน อ.วังทอง มาเร่ขายตามตรอกซอกซอยในชุมชนต่างๆ สลับกันไปใน 1 สัปดาห์ อาทิ วันเสาร์ จาก อ.วังทอง มุ่งเข้าสู่ อ.เมือง และยาวเรื่อยไปจนถึง ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ตระเวนขายข้าวหลามให้ลูกค้าขาประจำ มีหลายราคา ตั้งแต่กระบอกละ 20 บาท 30 บาท และ 35 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของกระบอกข้าวหลาม และส่วนใหญ่จะขายหมดในเวลาประมาณ 15.00-16.00 น. เป็นประจำ

นายเกษม มาตรวังแสง เปิดเผยว่า ตนและภรรยาเป็นคนภูมิลำเนาเดิมอยู่จังหวัดขอนแก่น แต่เดิมภรรยาขายข้าวหลามอยู่แล้ว ในท่ารถ บขส.ของอ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ต่อมาเมื่อมีโอกาสได้มาที่ จ.พิษณุโลก เมื่อ 24 ปีก่อน มองเห็นลู่ทาง ชาวพิษณุโลกก็นิยมรับประทานข้าวหลาม จึงปรึกษาภรรยาและเริ่มหาลู่ทาง มาเช่าบ้านที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อประกอบอาชีพเผาข้าวหลามขายโดยเฉพาะ โดยเริ่มต้นจากการเดินนำข้าวหลามใส่หาบขายใน อ.วังทอง อ.เมืองพิษณุโลก พอเริ่มมีทุนก็ขยับขึ้นมาเป็นใส่รถสามล้อปั่นออกตระเวนขายตามบ้านพักแถวบ้านบางสะพาน อ.วังทอง และเริ่มพัฒนามาเป็นใส่ตะกร้าท้ายรถจักรยานออกตระเวนขายได้ประมาณ 23 ปีแล้ว เพราะจะทำให้ไปได้ไกลขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้มากและเร็วขึ้น ช่วงเริ่มต้น ได้นำชื่อลูกชาย คือแน็ค มาตั้งเป็นชื่อร้าน ปัจจุบันลูกชายตนเรียนจบปริญญาตรี และทำงานแล้ว เป็นสัตวบาลในฟาร์มปศุสัตว์ที่ จ.นครสวรรค์ และขณะนี้ยังส่งลูกสาวเรียนปี 3 ม.นเรศวร

นายเกษมเผยต่อว่า ข้าวหลามที่ทำขาย มีข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวขาว ใส่ถั่วดำ ทุกวันประมาณ 02.00 น. ภรรยาและตนก็จะตื่นขึ้นมาเผาข้าวหลาม เมื่อเผาเสร็จแล้วก็เริ่มปอกเปลือกนอกออก นำมาเรียงใส่ท้ายรถจักรยานยนต์ เริ่มออกจากบ้านพักเพื่อตระเวนขายในเวลาประมาณ 05.00-06.00 น. ไปตามสายต่างๆ ไม่ซ้ำในแต่ละวัน อาทิ อ.วัดโบสถ์ อ.บางระกำ อ.เนินมะปราง อ.วังทอง อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร

“เป็นอาชีพที่มั่นคง แต่ต้องมีความขยัน อดทน ตนและครอบครัว สามารถยึดเป็นอาชีพหลักในการเลี้ยงครอบครัวและส่งลูกเรียนได้อย่างสบาย แม้ว่าช่วงปี 2563-2564 อยู่ในช่วงสถานการณโควิด-19 ระบาด แต่สำหรับอาชีพขายข้าวหลามของเราไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพ ความสะอาด ความสดที่ทำใหม่ทุกวัน ไม่มีนำของเก่ามาขาย เพราะในทุกๆ วัน ข้าวหลามที่บรรทุกมาขายท้ายรถจะขายจนหมด ในช่วงเวลาประมาณ 15.00-16.00 น. มียอดขายวันละ 4,500-5,000 บาท” นายเกษมกล่าว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่