กระบะชนซาเล้งดับคาที่ 1 เด็กหญิงวัย11เจ็บ – หนังสือพิมพ์แนวหน้า

วันอาทิตย์ ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 19.18 น.

7 กุมภาพันธ์ 2564 พ.ต.ท.สุวัฒน์ โพธิ์รี สารวัตรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้รับแจ้งว่ามีรถกระบะชนกับรถซาเล้ง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณ หน้าตลาดฐานเพชร ตรงข้ามบริษัท อิตาเลี่ยนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด เส้นทางปทุมธานีปากเกร็ด ถนน 306 หมู่ 5 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต หญิง 1 ราย สภาพนอนหงายใต้ท้องรถ สวมเสื้อลายกางเกงขายาว ที่มือกำแบงค์ 20 อย่างเหนียวแน่น โดยมีลูกสาวกอดศพแม่ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ทราบชื่อต่อมา นางมาลัย ทบง่อม อายุ 54 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 34 ซอยโกสุมรวมใจ 36 แยก 17 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้

ทราบชื่อต่อมา เด็กหญิงอรณิชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 11 ปี ใกล้กันพบรถกระบะหมายเลขทะเบียน 1 ฒญ 6572 สีขาว กรุงเทพมหานคร สภาพฝั่งซ้ายไฟด้านหน้าแตกพังเสียหายยับเยิน และพบคราบเลือดติดอยู่ โดยมีนายนิรัน ทองศรีเข้ม อายุ 38 ปี เป็นคนขับรถกระบะ โดยยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห่างกันเล็กน้อยพบรถซาเล้งได้รับความเสียหาย โดยมีเครื่องใช้และสิ่งของต่างๆที่บรรทุกมากับรถซาเล้งกระจายเต็มท้องถนน โดยมีนายสมชาย เกียเต๊ะอายุ 59 ปี เป็นขับรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง

นายนิรัน ทองศรีเข้ม คนขับรถกระบะ เปิดเผยว่า ตนขับรถมาจากบางนาเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปที่อุตสาหกรรมบางกระดีในระหว่างที่ขับรถมา เห็นมีรถจักรยานคันหนึ่งตีไฟเลี้ยวที่จะกลับรถตรงไฟแดงข้างหน้า เพราะอีกไม่กี่เมตรก็จะถึงที่กลับรถ พอเห็นเขาเลี้ยว ผมก็ต้องหลบให้เขา มีรถซาเล้งฉีกวิ่งเข้ามาหาตัวเองก็ชนเข้าอย่างจัง

ด้านนายสมชาย เกียเต๊ะ อายุ 59 ปี เป็นคนขับรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง เล่าว่า ตนมาจากโกสุมเพื่อที่จะมาหาพี่สาว ก็ขับรถมาเรื่อยๆยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดเหตุได้อย่างไร เพราะเหตุการณ์เร็วมาก ยังงงๆอยู่เลย โดยซาเล้งมากันทั้งหมด 3 คน มีตัวเองแล้วก็ผู้เสียชีวิต 1 คนส่วนหลานอีกคนก็เป็นเด็ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว

ด้านนางสาวพรรณี ทบง่อม 30 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต กอดศพแม่เล่าทั้งน้ำตา แม่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ในระหว่างที่เกิดเหตุนั้น แม่กำลังจะมาหาตัวเอง เพราะวันนี้แม่จะต้องมาหาหนู แม่จะต้องหาเก็บของเก่าและเก็บทุกวัน วันนี้แม่ก็โทรมาหาปกติและจะต้องมาหาทุกวัน ไม่คิดว่า เหตุการณ์จะเกิดขึ้น แม่จะจากเราไปแบบนี้

เบื้องต้น พ.ต.ท.สุวัฒน์ โพธิ์รี สารวัตรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้ตรวจสอบที่เกิดพร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ก็จะได้เชิญคนขับรถกระบะไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ปากคลองรังสิต จากนั้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าอาสาสมัครมูลนิธิ ร่วมกตัญญู นำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตอีกครั้งและจะได้ติดตามญาติเพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป